ที่สวนสันติพร อนุสรณ์สถานพฤษภาประชาธรรม นายจตุพร พรหมพันธุ์ ประธานแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) เดินทางมาถึงบริเวณจัดงานและได้กล่าวบนเวทีตอนหนึ่งว่า การปราศรัยทั้งหมดจะเริ่มในเวลา 16.00 น. เป็นต้นไป ซึ่งวันนี้เป็นวันอัศจรรย์ที่เรียกว่ามืดฟ้ามัวดิน ฝนตกอย่างถล่มทลายเพื่อล้างความชั่วของแผ่นดินให้สะอาด ฝนตกตั้งแต่เที่ยงหลายคนคิดว่าเวทีวันนี้จะมีปัญหา ซึ่งตนบอกฝนจะหยุดตกก่อนจะมีเวทีปราศรัยเมื่อฝนล้างแผ่นดิน เสร็จเราก็จะได้เวลานับหนึ่งของประเทศไทยตามฤกษ์ 4-4-4 ประยุทธ์ออกไป โดยเป้าหมายหลักของเราอยู่ที่พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมเป็น และในวันนี้ตนจะปราศรัยเป็นคนสุดท้าย
โดยนายจตุพร ยืนยันว่า การจัดเวทีฯ วันนี้เรามาตามคำเชิญของนายอดุล เขียวบริบูรณ์ ประธานคณะกรรมการญาติวีรชนพฤษภา35 ซึ่งมีความห่วงใยที่พลเอกประยุทธ์ ไม่รับผิดชอบต่อการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ซึ่งงานในวันนี้ยังไม่ถึงขั้นการชุมนุม แต่เป็นเวทีที่จะอธิบายการเข้ามาของพลเอกประยุทธ์ในช่วงเวลา 7 ปี ได้ตระบัดสัตย์ในเรื่องไหนบ้าง จึงไม่สมควรดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีต่อไป และพรรคร่วมรัฐบาลใดที่เคยประกาศไม่ร่วมสังฆกรรมกับรัฐบาลพลเอกประยุทธ์ จะแสดงความรับผิดชอบอย่างไร ทั้งนี้การร่วมสามัคคีประชาชนเกิดขึ้นครั้งสุดท้ายเมื่อเดือนพฤษภาคม 2535 และในช่วง 15 ปีนี้ มีแต่ความจัดแย้งอย่างหนัก และคนที่ได้รับประโยชน์ชัดเจนหนึ่งในนั้นคือ พลเอกประยุทธ์
ทั้งนี้นายจุตุพร ยืนยันว่า มาร่วมเวทีในนามส่วนตัวไม่เกี่ยวข้องกับนปช. และจะไม่นำองค์กรเข้ามา เพราะหากเราไม่เสียสละ ไม่ร่วมมือกัน พลเอกประยุทธ์จะอยู่ต่ออีก 6 ปี ประวัติศาสตร์ของคนเสื้อแดง และเสื้อเหลืองจะยังคงอยู่ต่อไป แต่เมื่อภัยเฉพาะหน้าซึ่งเป็นผลมาจากการสืบทอดอำนาจ ไม่ทำตามคำมั่นสัญญา ดังนั้นทุกฝ่ายต้องเสียสละ และต้องรู้ว่าพลเอกประยุทธ์ เป็นศูนย์ของปัญหาและภัยคุกคามของชาติ วันนี้เป็นเพียงการเริ่มต้น หากสังคมไทยเข้าใจว่าพลเอกประยุทธ์คือภัยคุกคาม ทุกฝ่ายต้องเสียสละเพื่อจัดการกับพลเอกประยุทธ์ แม้แต่ละฝ่ายจะทำด้วยความยากลำบาก เพราะหลายคนเคยสนับสนุนพลเอกประยุทธ์
สำหรับการชุมนุม ที่ใช้ชื่อกิจกรรมว่า ‘ไทยไม่ทน สามัคคีประชาชน เพื่อประเทศไทย’ ในวันนี้ มีแกนนำกลุ่มต่างๆ ที่มาในนามกลุ่มสามัคคีประชาชน มาเข้าร่วม เช่น นายการุณ ใสงาม อดีต ส.ว.บุรีรัมย์ ที่ร่วมเคลื่อนไหวกับกลุ่ม กปปส. นายไทกร พลสุวรรณ อดีตแกนนำกลุ่มกองทัพประชาชนโค่นระบอบทักษิณ นายอดุลย์ เขียวบริบูรณ์ ประธานคณะกรรมการญาติวีรชนพฤษภา 35 อาจารย์ศักดิ์ ณรงค์ มงคล จากคณะ นิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ พญ.กมลพรรณ ชีวพันธ์ศรี จากเครือข่ายประชาชนปกป้องประเทศ และนายวีระ สมความคิด ที่เลขาธิการเครือข่ายประชาชนต้านคอร์รัปชั่น เป็นต้น
โดยก่อนเริ่มเวทีปราศรัยอย่างเป็นทางการ พันตำรวจเอกสนอง แสงมณี ผู้กำกับสถานีตำรวจนครบาลชนะสงคราม พร้อมด้วย เจ้าหน้าที่เขตพระนคร กรุงเทพมหานคร เข้าแจ้งระเบียบการจัดการชุมนุมกับนายจตุพร พรหมพันธุ์ ว่ายังคงอยู่ในช่วงการใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ซึ่งห้ามทำกิจกรรมมั่วสุมที่ทำให้เกิดการแพร่ระบาดโควิด-19 จึงมาเพื่อแจ้งขอย้ำเตือนให้กระบวนการจัดกิจกรรมครั้งนี้ ยึดถือประกาศตาม พ.ร.ก.ฉุกเฉิน อย่างเคร่งครัด และหากการกระทำใดที่ล่วงละเมิดต่อกฎหมาย ก็จะต้องดำเนินคดีในภายหลัง
โดยนายจตุพร กล่าวกับเจ้าหน้าที่ ว่าจะใช้วิธีการจัดการชุมนุมอย่างระมัดระวัง และสถานที่การจัดการชุมนุม คือ อนุสรณ์สถานพฤษภา 35 ไม่ได้อยู่บนถนน ทั้งนี้ก็เพื่อหลีกเลี่ยงการทำผิดกฎหมาย และการจัดการชุมนุมมีระบบการจัดการโควิด ทั้งการแจกหน้ากากอนามัย และเจลแอลกอฮอล์