รมว.ยธ.สั่งเรือนจำนครศรีธรรมราช เฝ้าระวังสถานการณ์น้ำท่วมภาคใต้

รมว.ยุติธรรม สั่งเรือนจำนครศรีธรรมราช เฝ้าระวังสถานการณ์น้ำท่วม เผยอยู่ที่สูงไม่ค่อยน่าห่วง แต่พบปัญหาระบบขนส่งเข้าออก ประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเตรียมพร้อมเผื่อกรณีฉุกเฉิน พร้อมให้ช่วยชาวบ้านบริเวณใกล้เคียงที่ประสบภัยด้วย

นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม กล่าวถึงกรณีสถานการณ์น้ำท่วมที่ จ.นครศรีธรรมราช ว่า ตนได้สั่งการให้เรือนจำกลางนครศรีธรรมราช เฝ้าระวังติดตามและประเมินสถานการณ์อย่างใกล้ชิด ในเบื้องต้นจากข้อมูล เรือนจำมีที่ตั้งอยู่ในพื้นที่สูงไม่เคยมีประวัติการมีน้ำท่วมขังภายในที่ส่งผลต่อมาตรการการควบคุม แต่อาจได้รับผลกระทบในเส้นทางเข้า-ออก การนำตัวผู้ต้องขังไปศาล โรงพยาบาล การขนส่งอาหารดิบ เครื่องอุปโภคบริโภค การสื่อสาร พลังงานกระแสไฟฟ้า ตลอดจนการให้บริการญาติและประชาชนที่เกี่ยวข้องได้ โดยสถานการณ์น้ำท่วมปัจจุบัน (2 ธ.ค.2563) มีน้ำหลากและท่วมขังรอบแนวกำแพงภายนอกสูงประมาณ 20-30 ซม.และถนนเข้า-ออกเส้นทางหลักของเรือนจำประมาณครึ่งเมตร รถจักรยานยนต์และรถเล็กไม่สามารถสัญจรผ่านได้ แต่ระดับน้ำยังทรงตัวมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นเล็กน้อย หากไม่มีฝนตกหนักต่อเนื่องจะสามารถระบายและลดระดับอย่างรวดเร็ว

นายสมศักดิ์ กล่าวว่า ในเบื้องต้นเรือนจำกลางนครศรีธรรมราช ได้มีแผนเผชิญเหตุและมาตรการจัดเตรียมยานพาหนะรถยนต์บรรทุกสูง รถควบคุมผู้ต้องขัง รถหุ้มเกราะสูง พร้อมพนักงานขับรถสำรอง สำหรับใช้ในการโดยสารหรือขนส่งปกติและเมื่อมีการร้องขอ เตรียมประสานผู้ประกอบการเพื่อสำรองอาหารดิบ เครื่องอุปโภคบริโภค ให้เพียงพอต่อความต้องการ และเตรียมแก้ไขปัญหากรณีมีข้อจำกัดในเส้นทางการขนส่ง ร่วมกับสำนักงานจังหวัดประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อประสารการปฏิบัติเมื่อมีปัญหาขัดข้อง เช่น กรณีต้องการกระแสไฟฟ้าสำรอง หากมีการตัดไฟฟ้า และเครื่องกำเนิดไฟฟ้าสำรองของเรือนจำขัดข้องหรือไม่เพียงพอ รวมทั้งให้การช่วยเหลือประชาชนในชุมชนรอบบริเวณหรือใกล้เคียงเรือนจำที่ประสบภัย ตามที่ได้เคยปฏิบัติเมื่อครั้งพายุปลาบึก และเฝ้าติดตามประเมินสถานการณ์ กวดขันมาตรการด้านการควบคุมอย่างใกล้ชิด และรายงานผู้บริหารอย่างต่อเนื่อง 

“เราต้องให้ความสำคัญในการควบคุมสถานการณ์ภายในเรือนจำ ทั้งเรื่องของระบบรักษาความปลอดภัย และความเป็นอยู่ของผู้ต้องขังตามหลักสิทธิมนุษยชน รวมถึงให้ความช่วยเหลือกับประชาชนในบริเวณรอบเรือนจำด้วย และหากมีความจำเป็นหรือภาวะการณ์เกินความสามารถในการบริหารจัดการ ได้มีการประสานการสนับสนุนจากเรือนจำและทัณฑสถานใกล้เคียงภายในเขตหรือจากส่วนกลางกรมราชทัณฑ์ต่อไป และเมื่อสถานการณ์คลี่คลายจะประเมินความเสียหายและเยียวยาเจ้าหน้าที่ที่อาจได้รับผลกระทบในครั้งนี้ด้วย” นายสมศักดิ์ กล่าว

แสดงความเห็น