“สมศักดิ์” หวังภาคธุรกิจเคารพสิทธิมนุษยชน ลดการละเมิด พร้อมดันไทยเป็นต้นแบบในภูมิภาค

กระทรวงยุติธรรมจับมือยูเอ็น สัมมนา “ธุรกิจกับสิทธิมนุษยชนในโลกหลังการแพร่ระบาดของโควิด” สร้างความตระหนักรู้ “สมศักดิ์” หวังภาคธุรกิจเคารพสิทธิ ลดการละเมิด ทำให้ประกอบกิจการได้อย่างมั่นคง พร้อมดันไทยเป็นต้นแบบในภูมิภาค

ที่โรงแรมเซ็นทาราแกรนด์และบางกอกคอนเวนชันเซ็นเตอร์ เซ็นทรัลเวิลด์ มีการประชุมระดับชาติว่าด้วยธุรกิจกับสิทธิมนุษยชน ครั้งที่ 4 ภายใต้ประเด็น “ธุรกิจกับสิทธิมนุษยชนในโลกหลังการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา 2019” โดยมีนายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม เป็นประธานในพิธีเปิด พร้อมด้วย นายเรืองศักดิ์ สุวารี อธิบดีกรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ นายนพปฎล เดชอุดม เลาขาธิการสมาคมเครือข่ายโกลบอลคอมแพ็กแห่งประเทศไทย และนางโลวิต้า รามกุทธี UNDP Thailand และตัวแทนจากภาคธุรกิจต่างๆเข้าร่วมงาน

นายเรืองศักดิ์ กล่าวรายงานว่า การประชุมในวันนี้เกิดขึ้นหลัง คณะรัฐมนตรี(ครม.) เห็นชอบแผนธุรกิจกับสิทธิมนุษยชน กรมคุ้มครองสิทธิที่รับผิดชอบแผนดังกล่าว มีหน้าที่สร้างความตระหนักรู้ให้กับภาคธุรกิจ เพื่อให้เกิดความรับผิดชอบกับสิทธิของประชาชน ซึ่งวันนี้เราได้ร่วมกับ สหประชาชาติและโกลบอลคอมแพ็กประเทศไทย เพื่อเป็นแนวทางในธุรกิจและเพิ่มองค์ความรู้กับสถานการณ์ปัจจุบัน โดยเน้นการแลกเปลี่ยนประสบการณ์และต้นแบบที่ดีในการทำธุรกิจ การประเมินความเสี่ยงและเตรียมความพร้อมแก้ปัญหาธุรกิจที่ได้รับผลกระทบ โดยเน้นการฟื้นฟูกลับเพื่อให้ดีกว่าเดิม หวังว่าจะได้ประโยชน์จากข้อคิดเห็นต่างๆเพื่อนำไปปฏิบัติได้

นายสมศักดิ์ กล่าวเปิดงานว่า การเข้าร่วมงานครั้งนี้ของทุกท่านถือว่าคำนึงถึงความรับผิดชอบและธุรกิจกับสิทธิมนุษยชน การจัดงานในปีนี้จัดในหัวข้อ ธุรกิจกับสิทธิมนุษยชนในโลกหลังการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 เพื่อให้สอดคล้องกับบริบทปัจจุบัน การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด เป็นวิกฤตการณ์ระดับโลก โดยเฉพาะด้านเศรษฐกิจที่ได้รับผลกระทบอย่างหนัก โดยประเทศไทยต้องเตรียมความพร้อม ต้องมีการปรับเปลี่ยนมุมมองด้านธุรกิจรูปแบบใหม่ ให้ความสำคัญกับทุกภาคส่วนอย่างแท้จริง จะต้องมีความเคารพสิทธิมนุษยชน ซึ่งจะช่วยลดการละเมิดสิทธิ ทำให้ภาคธุรกิจประกอบกิจการได้อย่างมั่นคงและยั่งยืน โดยหวังว่าประเทศไทยจะเป็นต้นแบบให้ประเทศต่างๆในภูมิภาคได้ ซึ่งจะเป็นการส่งเสริมภาพลักษณ์ที่ดีด้วย

นายนพปฎล กล่าวว่า การจัดงานในครั้งนี้ถือเป็นการแลกเปลี่ยนความรู้จากประสบการณ์ที่เกิดขึ้นในช่วงที่ผ่านมาของภาคธุรกิจต่างๆ ถือเป็นเรื่องที่ดีที่เราได้แลกเปลี่ยนกัน ซึ่งการตระหนักรู้นั้นเราควรคิดสร้างสรรค์วิธีอื่นๆ สร้างแรงจูงใจ โดยเฉพาะธุรกิจ เอสเอ็มอี ซึ่งเป็นพื้นฐานสำคัญของห่วงโซ่ภาคธุรกิจ ให้มีการเคารพสิทธิมนุษยชนมากขึ้น เราทุกคนต้องผลึกกำลังเพื่อก้าวไปด้วยกัน ความมุ่งมั่นของสมาคมเครือข่ายโกลบอลคอมแพ็กแห่งประเทศไทย หวังที่จะช่วยให้ประเทศไทยก้าวไปไกลในเรื่องนี้

แสดงความเห็น