แจกเงินดิจิทัล 1 หมื่น จอดป้าย ‘ป.ป.ช.’?

หรือว่า โครงการแจกเงินดิจิทัลวอลเล็ต 1 หมื่นบาท จะจอดป้าย ป.ป.ช.?

เอกสารผลการศึกษาโครงการดิจิทัลวอลเล็ตฯ ของคณะกรรมการศึกษาชุด ‘สุภา ปิยะจิตติ’ กรรมการ ป.ป.ช. เป็นประธาน หลุดออกมาก่อนที่คณะกรรมการ ป.ป.ช.ชุดใหญ่จะเคาะ

ผลการศึกษาดังกล่าวไม่มีข้อใด ‘เป็นคุณ’ กับรัฐบาลเศรษฐา ทวีสิน เลย

ตั้งแต่เรื่องเสี่ยงจะเป็นการทุจริตเชิงนโยบาย เสี่ยงจะขัด พ.ร.บ.วินัยการเงินการคลัง พ.ร.บ.เงินตรา พ.ร.บ.เงินคงคลัง

ผลการศึกษาดังกล่าวยังหยิบตัวเลขเศรษฐกิจ และนิยามคำว่า ‘วิกฤต’ ของธนาคารโลกมาวางชัดๆ ว่า ไทยยังไม่ถึงขั้น ‘วิกฤต’

ไม่เว้นแม้แต่เสี่ยงจะผิดรัฐธรรมนูญโทษฐาน ‘ไม่ตรงปก’ ไม่เหมือนกับที่แถลงนโยบายไว้ต่อรัฐสภา

แม้ผลการศึกษาฉบับนี้จะยังไม่ไฟนอล เพราะต้องเข้าคณะกรรมการ ป.ป.ช.ชุดใหญ่ ที่สามารถปรับถ้อยคำได้ แต่ดูแล้ว ‘เนื้อหา’ คงไม่ต่างอะไรจากฉบับนี้มาก

แน่นอนว่า ตามอำนาจ ‘ป.ป.ช.’ ไม่มีสิทธิ์มาสั่งว่า รัฐบาลควรทำโครงการไหน หรือไม่ควรจะทำโครงการไหน แต่ พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2561 ในมาตรา 32 (3) บัญญัติไว้ตัวเบ้อเร่อว่า มีอำนาจแนะนำไปยังหน่วยงานต่างๆ ไม่เว้นแม้แต่รัฐบาล เพื่อป้องกันการทุจริตได้!

‘รัฐบาลเศรษฐา’ ไม่จำเป็นต้องเชื่อ ป.ป.ช. และไม่จำเป็นต้องปฏิบัติตามก็ได้ ไม่ผิดกฎหมาย แต่ต้องหมายเหตุตัวโตๆ เอาไว้ว่า ‘อย่าพลาด’

เพราะสมัยรัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ป.ป.ช.เคยทำหนังสือเตือนเรื่องโครงการรับจำนำข้าวว่า ระวังจะเกิดการทุจริต แต่รัฐบาลไม่เชื่อ

พอไม่เชื่อ แล้วเกิดทุจริต เลยเปิดช่องให้ ‘ป.ป.ช.’ เข้ามาได้ในฐานะฝ่ายตรวจสอบ กระทั่งชี้มูลความผิด ‘ยิ่งลักษณ์’ ในฐานะผู้นำประเทศ ข้อหารู้อยู่แล้วว่า จะเกิดความเสียหาย แต่ไม่ระงับยับยั้ง!

เช่นเดียวกับโครงการแจกเงินดิจิทัลวอลเล็ต รัฐบาลไม่ฟัง ป.ป.ช.ก็ได้ แต่ถ้าพลาดขึ้นมา ต้องมีคนเซ่นโครงการแน่

ด้วยเหตุนี้ หลายฝ่ายเลยมองว่า โครงการนี้อาจจอดป้ายแค่นี้!

เนื่องจากตั้งแต่รัฐบาลเศรษฐา เข้ามาบริหารประเทศ พยายามหลีกเลี่ยงการกระทำใดๆ ที่เคยทำมาแล้วในอดีตและพลาด เพื่อไม่ให้ประวัติศาสตร์ซ้ำรอย

ฉะนั้น กรณี ป.ป.ช. หลายฝ่ายจึงเชื่อว่า รัฐบาลอาจจะหลบเหมือนกัน 

ซึ่งมันสามารถใช้เป็นเหตุผลได้ว่า ถูกขัดขวาง สกัดกั้นจากหลายฝ่ายจนทำไม่ได้

แต่หลบในทีนี้ ไม่ได้หมายความว่า ล้มเลิกโครงการ เพียงแต่ลดสเปกโครงการลง เหลือเฉพาะให้ ‘กลุ่มเปราะบาง’ เท่านั้น

และไม่ต้องกู้ แต่ใช้งบประมาณปกติ

สูตรนี้ยังสอดคล้องกับคำแนะนำของ ป.ป.ช. ที่ระบุให้เลือกช่วยเหลือเฉพาะกลุ่มเปราะบาง ไม่ต้องหว่านทุกคน 

ดีไม่ดี หาก ป.ป.ช.ส่งเรื่องมาถึงรัฐบาลแล้ว มันอาจกลายเป็น ‘บันไดลง’ ให้กับโครงการนี้

เสียหน้า เสียรังวัดนิดหน่อย แต่ไม่เสียคน เพราะอย่างน้อยโครงการก็ยังได้ทำอยู่ แม้จะไม่เหมือนที่วางแผนเอาไว้ก็ตาม

แสดงความเห็น