“สมศักดิ์” ลุยเหนือล่าง กำแพงเพชร-ตาก เร่งมาตรการยึดทรัพย์ หลังมูลค่ายาเสพติดสามเหลี่ยมทองคำสูงถึง 3 ล้านล้านเท่างบประมาณประเทศ โชว์ยกระดับวัวชน-ไก่ชน เพิ่มมูลค่าให้กับสัตว์ ชูโคล้านตัวสุโขทัยโมเดล สร้างรายได้เสริมให้เกษตรกร
นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม เป็นประธานเปิดโครงการสร้างการรับรู้ประมวลกฎหมายยาเสพติด และแนวทางการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด ที่มหาวิทยาลัยราชภัฏกำแพงเพชร จังหวัดกำแพงเพชร โดยมี นายชาธิป รุจนเสรี ผู้ว่าราชการจังหวัดกำแพงเพชร ว่าที่ร้อยตรี ธนกฤต จิตรอารีย์รัตน์ เลขานุการ รมว.ยุติธรรม นายมานะ ศิริพิทยาวัฒน์ รองเลขาธิการ ป.ป.ส. นางพรรณสิริ กุลนาถศิริ ส.ส.จังหวัดสุโขทัย สมาชิกเครือข่าย แม่ของแผ่นดินจังหวัดกำแพงเพชร และประชาชนกว่า 700 คน เข้าร่วม
โดย ว่าที่ร้อยตรี ธนกฤต กล่าวว่า กระทรวงยุติธรรม ในช่วงที่นายสมศักดิ์ ดำรงตำแหน่ง รมว.ยุติธรรม ตลอดเกือบ 4 ปีที่ผ่านมา ได้ขับเคลื่อนงานเพื่อดูแลประชาชนในทุกมิติ ทั้งการปราบปรามยาเสพติด การช่วยเหลือด้านคดีความ ผ่านกองทุนยุติธรรม หรือ ยุติธรรมจังหวัด ที่คอยให้คำแนะนำการช่วยเหลือในเรื่องที่ประชาชน ได้รับความเดือดร้อน ซึ่งถึงแม้ นายสมศักดิ์ จะไม่ใช่นักกฎหมาย โดยเป็นวิศวกร แต่ก็สามารถผลักดันแก้กฎหมายช่วยเหลือประชาชนไปแล้วหลายฉบับ รวมถึงได้นำร่องช่วยเหลือประชาชน ที่ได้รับผลกระทบขาดรายได้ในช่วงโควิด-19 ด้วยการจัดมหกรรมการไกล่เกลี่ยหนี้สินทั่วประเทศ เพื่อช่วยแบ่งเบาภาระให้กับประชาชน ที่ขาดสภาพคล่องทางการเงิน ซึ่งสามารถช่วยประชาชนได้กว่า 1 แสนครอบครัว
ขณะที่ นายสมศักดิ์ กล่าวว่า ที่ผ่านมา กระทรวงยุติธรรม ได้บูรณาการกับหลายหน่วยงานในหลายด้าน เพราะหนึ่งกระทรวง จะทำเรื่องเดียวไม่ได้ ต้องช่วยกันบูรณาการ เนื่องจากแต่ละกระทรวงจะมีเส้นแบ่งด้วยภารกิจหน้าที่ อย่าง จ.กำแพงเพชร ก็มีเส้นแบ่งติดกับ จ.สุโขทัย ดังนั้นเวลาพัฒนาก็จะต้องมีการแยกกัน แต่ถ้าจะทำให้การพัฒนาสมบูรณ์ก็ต้องบูรณาการทั้งสองจังหวัด อย่างในอดีตมีโครงการส่งน้ำจาก จ.กำแพงเพชร ไปจ.สุโขทัย ซึ่งในหลวงรัชกาลที่ 9 เป็นผู้ริเริ่ม จนทุกวันนี้ ก็ช่วยเหลือประชาชนได้จำนวนมาก แต่ปัจจุบัน ต้องยอมรับว่า การพัฒนาชลประทาน ยังล่าช้ามาก เนื่องจากมัวแต่คิดเรื่องงบประมาณเป็นหลัก ดังนั้น ถ้าเราไม่มี รมต.ที่เข้าใจเรื่องนี้ ก็จะไม่สามารถดำเนินการได้
“ที่ผ่านมาจังหวัดสุโขทัย มีนางอนงค์วรรณ เทพสุทิน อดีตรมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เข้ามาช่วยดูเรื่องน้ำ ด้วยการผลักดันงบประมาณมาทำเรื่องน้ำให้กับประชาชน ดังนั้น ผมมั่นใจว่า พรรคการเมืองสมัยหน้า จะมองเรื่องนี้ และความไม่ร่ำรวยของประชาชนเป็นหลัก ซึ่งในสัปดาห์หน้า รัฐบาล ก็จะหมดวาระแล้ว และก็จะมีการจัดการเลือกตั้ง โดยก็ขอให้ประชาชน พิจารณาเลือกพรรคการเมือง ที่จะเข้ามาช่วยเหลือประชาชนได้ โดยเฉพาะประเด็นเศรษฐกิจ ที่จะทำให้ประชาชน มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น ซึ่งผมเองก็เป็น ส.ส. มาแล้ว 10 สมัย ไม่เคยสอบตก แต่หยุดไปประมาณ 10 ปี ในช่วงปฏิวัติ และถูกเพิกถอนสิทธิทางการเมือง โดยเป็นรมต. มาแล้ว 14 สมัย ได้สัมผัสงานหลายอย่าง จนสามารถนำประสบการณ์มาบูรณาการได้อย่างรอบด้าน” รมว.ยุติธรรม กล่าว
นายสมศักดิ์ กล่าวอีกว่า ตนก็ได้นำประสบการณ์มาบูรณาการกับงานปราบปรามยาเสพติด ที่ให้ ป.ป.ส. ร่วมมือกับทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้การแก้ปัญหายาเสพติดมีประสิทธิภาพมากขึ้น ซึ่งตน ได้ขับเคลื่อนแก้กฎหมายที่เกี่ยวข้องยาเสพติด 24 ฉบับ มาเป็นประมวลกฎหมายยาเสพติด เพื่อเพิ่มมาตรการใหม่ คือ การยึดอายัดทรัพย์ของเครือข่ายผู้ค้ายาเสพติด เพื่อตัดวงจรการค้ายา โดยในอดีตก่อนตนเป็น รมว.ยุติธรรม มีการยึดอายัดทรัพย์เพียงไม่เกินปีละ 900 ล้านบาท ทั้งที่มูลค่ายาเสพติด ออกจากพื้นที่สามเหลี่ยมทองคำถึง 3.1 ล้านล้านบาท ซึ่งเท่ากับงบประมาณของประเทศไทย แต่เราสามารถยึดอายัดได้เพียงนิดเดียว ทั้งที่ได้รับงบประมาณแก้ปัญหายาเสพติดปีละ 6-7 พันล้านบาท ตนจึงปรับวิธีใหม่ จนปี 2564 ยึดอายัดได้ 7,346 ล้านบาท ปี 2565 ยึดอายัดได้ 11,003 ล้านบาท ส่วนปี 2566 ตั้งเป้าไว้ 1 แสนล้านบาท สามารถยึดอายัดได้แล้ว 21,180 ล้านบาท
“ผมยังได้ผลักดันกฎหมายส่งเสริมวัวชน-ไก่ชน เพราะผมเห็นม้าแข่งของต่างประเทศ ถ่ายทอดสดทั่วโลก มีการประมูลขาย ถึงตัวละ 350 ล้านบาท จึงร่างกฎหมายส่งเสริมปศุสัตว์ เพื่อให้มีมาตรฐานสากล โดยเมื่อก่อนการขออนุญาตเปิดชนวัว ต้องขอผู้ว่าราชการจังหวัด แต่จะปรับเป็นบอร์ดคณะกรรมการพิจารณา เพื่อจะได้ขับเคลื่อนเรื่องนี้อย่างเต็มที่ โดยเฉพาะการสร้างแพลตฟอร์มออนไลน์ เพื่อเก็บภาษี ซึ่งร่างกฎหมายฉบับนี้ ได้ผ่านความเห็นชอบจากคณะรัฐมนตรีแล้ว โดยจะช่วยให้สัตว์ มีมูลค่าเพิ่ม จากกระดาษแผ่นเดียว คือ เพ็ดดีกรี จะเพิ่มมูลค่าวัวได้กว่า 1 แสนบาท ซึ่งเรื่องวัว จะกลายเป็นซอฟพาวเวอร์ในอนาคต” รมว.ยุติธรรม กล่าว
จากนั้น นายสมศักดิ์ ได้เดินทางต่อกว่า 100 กิโลเมตร เพื่อไปเปิดโครงการสร้างการรับรู้ประมวลกฎหมายยาเสพติด และแนวทางการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด ที่โรงเรียนผดุงปัญญา จังหวัดตาก โดยมี นายสมชัย กิจเจริญรุ่งโรจน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดตาก หัวหน้าส่วนราชการ เจ้าหน้าที่ สมาชิกเครือข่ายกองทุนแม่ของแผ่นดินและชาวบ้าน 700 คนร่วมงาน
นายสมศักดิ์ กล่าวย้ำถึงมาตรการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด และการเร่งสร้างความรู้ความเข้าใจประมวลกฎหมายยาเสพติด เพื่อให้การทำงานมีประสิทธิภาพมากที่สุด นอกจากนี้ในส่วนของการสร้างอาชีพ ตนได้นำร่องการเลี้ยงวัวของชาวบ้านตามโครงการโคล้านตัว ที่จ.สุโขทัย โดยร่วมกับกองทุนหมู่บ้านและภาคเอกชน จัดโครงการให้ชาวบ้านยืมวัวไปเลี้ยง เริ่มทดลองตั้งแต่เดือน พ.ย.62 โดยขณะนี้เกษตรกรที่ร่วมโครงการไปได้ลูกวัวมาครอบครัวละหลายตัวแล้ว ทำให้เพิ่มรายได้ของเกษตรกรได้
แสดงความเห็น
