“มงคลกิตติ์” ก้มกราบพื้นสภาฯ ประกาศคืนอำนาจอธิปไตยให้ประชาชน 

“มงคลกิตติ์” ก้มกราบพื้นสภาฯ  ประกาศคืนอำนาจอธิปไตยให้ประชาชน ขอทำหน้าที่ ส.ส. วันสุดท้าย ชี้ “บิ๊กตู่” ปล่อยลูกสมุนทุจริต-สร้างความเสียหายให้ประเทศ 

นายมงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ ส.ส.บัญชีรายชื่อและหัวหน้าพรรคไทยศรีวิไลย์  อภิปรายทั่วไปตามรัฐธรรมนูญมาตรา 152 พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม โดยระบุว่า นายกรัฐมนตรี และคณะรัฐมนตรีชุดนี้ ไร้ปัญญาในการบริหารเศรษฐกิจ หาเงินไม่เป็นเก่งสร้างหนี้สินให้ประเทศ สร้างหนี้สินให้ประชาชน ปล่อยลูกสมุนทุจริตทุกรูปแบบ สร้างความเสียหายให้กับประเทศ ทำให้เศรษฐกิจพังประชาชนเป็นหนี้ไร้ซึ่งอนาคต ปล่อยให้มียาเสพติดทุกประเภทเต็มเมือง การพัวพัน การทุจริต e-bidding ภาครัฐ และเงินส่วยพนันออนไลน์เพื่อเอาเงินเหล่านี้ไปใช้ในการเลือกตั้ง รวมถึงการขายแผ่นดินบรรพบุรุษหรือที่เรียกว่า คนขายชาติ 

นายมงคลกิตติ์ กล่าวต่อว่ากรณีการรับส่วยพนันออนไลน์ ว่าพลเอกประยุทธ์ แต่งตั้งพลตำรวจตรี ปิยะพันธ์ ปิงเมือง รองเลขาธิการ ปปง. เป็นเลขาธิการ ปปง. และแต่งตั้งให้เป็นกรรมการ ปปง. สายผู้ทรงคุณวุฒิ  แต่ปล่อยให้มีการเปิดเว็บการพนันออนไลน์ทั่วบ้านทั่วเมือง พลเอกประยุทธ์จึงปฏิเสธว่าไม่รู้จักก็คงไม่ได้ แต่จะร่วมมือกันหรือไม่ก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง เชื่อว่าประชาชนสามารถตัดสินได้ และขอถามว่า การที่ พลเอกประยุทธ์ บอกว่าไม่เคยทุจริตแม้แต่วันเดียวต้องขอถามว่าประชาชนเชื่อหรือไม่  และขอถามว่าประชาชนทั้งประเทศเชื่อพลเอกประยุทธ์หรือไม่ว่าไม่เคยทุจริตและไม่เคยปล่อยลูกน้องและอยากใกล้ชิดทุจริตทุกรูปแบบ และการทุจริตที่ยิ่งใหญ่ที่สุดคือการทุจริตอำนาจเมื่อวันที่ 22 พฤษภาคม 2557 ซึ่งเป็นการทุจริตที่ได้มา ซึ่งอำนาจในการปลดของประเทศคือใช้อำนาจปืนและรถถัง 

ทำให้ นางบุญญาพร นาตะธนภัทร ส.ส. พรรครวมไทยสร้างชาติ  ลุกขึ้นประท้วง ว่า นายมงคลกิตติ์ อภิปราย เป็นการใส่ร้ายป้ายสีพลเอกประยุทธ์นายกรัฐมนตรีมาโดยตลอดและขอถามว่ามีคำตัดสิน หรือไม่ว่าพลเอกประยุทธ์เคยทุจริตขอให้ถอนคำว่าทุจริตเดี๋ยวนี้ 

ขณะที่ นาย ศุภชัย โพสุ ทำหน้าที่ประธานในที่ประชุมขณะนั้น ขอไม่ให้ย้อนกลับไปสมัยที่พลเอกประยุทธ์ยึดอำนาจเพราะมันนอกเหนือการทำงานของรัฐบาลชุดปัจจุบัน 

จากนั้น นายมงคลกิตติ์ กล่าวต่อว่า ในปัจจุบันยังมีการดีไซน์หรือออกแบบ การทุจริตเข้าสู่อำนาจมีการดูด ส.ส. ซื้อ ส.ส. ปล้น ส.ส. พรรคอื่น ที่เห็นแก่เงินและขายวิญญาณ ขอถามพลเอกประยุทธ์ว่าในจิตวิญญาณของท่านมีความสุจริตหลงเหลือหรือไม่ แต่ขอให้ประชาชนเป็นคนตัดสินที่คูหาเลือกตั้ง 

ทั้งนี้ในช่วงท้ายนายมงคลกิตติ์ ประกาศว่าจะทำหน้าที่เป็นวันสุดท้ายในสภาผู้แทนราษฎรที่ตนภูมิใจ และคืนอำนาจอธิปไตยที่ประชาชนมอบให้ตนในระยะเวลาสี่ปี ตนได้ทำหน้าที่ฝ่ายรัฐบาล 11 เดือนและได้ทำหน้าที่ฝ่ายค้านและฝ่ายค้านอิสระสามปี ตนมีความภาคภูมิใจมาก สามารถพูดได้อย่างภาคภูมิใจว่าตน เป็นผู้แทนที่มาจากประชาชน 100% ด้วยความสุจริตไม่ได้ซื้อเสียงมาแม้แต่คะแนนเดียว ถึงแม้คะแนนไม่มาก แม้จะเป็นรัฐธรรมนูญที่ไม่สมบูรณ์แบบตามระบบประชาธิปไตยก็ตาม ที่ผ่านมาตนได้เดินทางไปทั่วประเทศ รับฟังข้อร้องเรียนและแก้ไขปัญหาให้กับประชาชน แม้ตนจะยังบกพร่องอยู่บ้าง พร้อมยอมรับว่าตนเองก็ไม่ใช่ ส.ส. ที่สุจริตร้อยเปอร์เซ็นต์

ทั้งนี้  วันที่ 17 ก.พ. 2566 ตนจะคืนอำนาจอธิปไตยให้กับประชาชนเพื่อพิจารณาใหม่อีกครั้ง ในการเลือกตั้งครั้งหน้า ว่าผู้แทนแบบตนและพรรคไทยศรีวิไลย์ที่มีตนเป็นหัวหน้าพรรคยังมีประโยชน์ต่อประชาชนและประเทศชาติหรือไม่ ก่อนจะก้มกราบที่พื้นสภา กลางห้องประชุม และจบการอภิปราย

ขณะที่ ผู้สื่อข่าวได้โทรศัพท์ไปสอบเพิ่มเติม และได้รับคำยืนยันว่านายมงคลกิตติ์ จะยื่นใบลาออก จากการเป็น ส.ส. ต่อ ประธานสภาฯในวันที่ 17 ก.พ. เวลา 09.09 น.

แสดงความเห็น