“สมศักดิ์” ชี้หาก “อัจฉริยะ” มีข้อมูลแก๊งค้ายา-เว็บพนันส่งมาได้ทันที มีพาลีปราบยาพร้อมเร่งตรวจสอบผนึกกำลังร่วม ปปง. เผยกำลังพัฒนาระบบ block chain ให้ผู้แจ้งเบาะแสปลอดภัยมากยิ่งขึ้น
ที่ทำเนียบรัฐบาล นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รมว.ยุติธรรม ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีนายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม ออกมาเปิดเผยมีนักการเมืองระดับประเทศ อักษรย่อ อ. มีส่วนเกี่ยวพันกับยาเสพติดและเว็บพนันออนไลน์ว่า เรื่องนี้ตนยังไม่ทราบ แต่หากนายอัจฉริยะ มีข้อมูลก็ส่งมาให้เราตรวจสอบได้ทันที ซึ่งที่ผ่านมาหลายกรณีจะเห็นได้ว่ากระบวนค้ายาเสพติดและเว็ปพนันออนไลน์จะมีความเกี่ยวข้องกัน ซึ่งตรงนี้เรามีหน่วยงานที่สามารถสืบสาวไปได้ โดยตั้งแต่ตนเข้ามารับตำแหน่ง จะเห็นว่าแนวทางของงานปราบยาเสพติดจะต้องใช้แนวทางของการยึด อายัดทรัพย์สินเข้ามาเพิ่มเป็นอีกมาตรการหนึ่ง โดยเรามีหน่วยงานที่เชี่ยวชาญในการสืบทรัพย์ อย่างกรมบังคับคดี การตรวจสอบธุรกรรมทางการเงินโดยดีเอสไอ และมี ป.ป.ส. เป็นหน่วยงานหลักในการทำงานด้านยาเสพติด รวมถึงได้เชิญ ปปง. กรมสรรพากร และหน่วยงานอื่นๆ เข้ามาเพิ่มเติม
นายสมศักดิ์ กล่าวอีกว่า นอกจากนี้เรายังมีชุดพาลีปราบยา ที่จะดูเรื่องธุรกรรมทางการเงินและการสืบทรัพย์ เป็นการทำงานควบคู่กันไป ซึ่งพาลีปราบยาและกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับยาเสพติดนั้นเป็นผู้ยึดทรัพย์ในคดีสมคบ สนับสนุนยาเสพติดอย่างร้ายแรง ถ้าเป็นคดีในลักษณะนี้เราจะยึดทรัพย์เป็นหลัก แต่การยึดทรัพย์จากนี้ไปจะต้องตรวจจากสเตทเม้นท์ของคนกลุ่มย่อยๆ แล้วนำมาขยายผล โดยพาลีปราบยามีทั้งหมด 16 ชุด มีชุดหนึ่งทำหน้าที่ดูเรื่องการสื่อสารทางโซเชียลมีเดีย ส่วนคดีที่เกี่ยวข้องกับการฟอกเงินด้านอื่นที่ไม่เกี่ยวกับยาเสพติดจะส่งไปให้ที่ ปปง. เมื่อส่งไปปปง.แล้ว ขณะนี้พบว่ามี 15 เว็บพนันออนไลน์ที่จะต้องตรวจสอบ
“หากใครพบข้อมูลเบาะแสขอให้ส่งมาให้กับเรา ซึ่งตอนนี้เรากำลังพัฒนาระบบ block chain เพื่อให้ผู้แจ้งปลอดภัยมากยิ่งขึ้นด้วย ผมต้องขอขอบคุณคนที่เกี่ยวข้องทุกส่วน รวมไปถึงผู้ที่นำเรื่องต่างๆ มาร้องเรียน เพราะกระทรวงยุติธรรมต้องการให้เกิดความเป็นธรรมกับทุกคน ขอย้ำให้ชัดเจนว่าเรื่องคดียาเสพติด ป.ป.ส.สามารถยึดอายัดเงินได้ทันที แต่ในส่วนที่ไม่เกี่ยวข้องกับยาเสพติด จะส่งไปให้ปปง.ตรวจสอบ เพราะถ้าไม่ส่งแล้วมีอะไรเกิดขึ้น ต้องสั่งสอบสวนข้อเท็จจริงและให้รายงานภายใน 7 วัน และในส่วนของคนที่เกี่ยวข้องกับโซเชียลโดยตรงที่ทำคดี เกี่ยวกับเว็บต่างๆ เหล่านี้ได้ปรับย้ายหน้าที่ไปอยู่ในส่วนของการทำนโยบายแล้ว ไม่เกี่ยวข้องกับคดีความ” นายสมศักดิ์ กล่าว