“สมศักดิ์” บอก เป็นไปไม่ได้มีพ่อค้ายาในเรือนจำ เพราะกฎหมายแรง 

“สมศักดิ์” บอก เป็นไปไม่ได้มีพ่อค้ายาในเรือนจำ เพราะกฎหมายแรง เผย มีคนโทรแจ้งเบาะแสยาเสพติดในหมู่บ้านเพียง 1.6 หมื่นสายเท่านั้น คาดกลัวความปลอดภัย แต่สร้างกลไกปกปิดผู้แจ้งแล้ว อีก 2-3 เดือนเริ่มใช้

ทำเนียบรัฐบาล นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รมว.ยุติธรรม แถลงภายหลังการประชุมเพื่อกำหนดมาตรการเร่งด่วนในการแก้ไขปัญหายาเสพติดและอาวุธปืน ถึงเสียงวิพากษ์วิจารณ์ว่ามีผู้ค้ายาอยู่ในเรือนจำ ว่า ตนยังไม่เห็นมีใครแจ้งให้ตนทราบสักคน ตนอยากทราบจริงๆ เพราะวันนี้เราติดตามและดำเนินการเรื่องนี้อยู่ ยืนยันว่าเรื่องผู้ค้ายาเสพติดอยู่ในเรือนจำนั้นเป็นไปไม่ได้ เนื่องจากผู้คุมต่างๆ ในเรือนจำมีสิทธิได้รางวัลการนำจับ มีเรื่องของการยึดทรัพย์สิน อีกทั้งกฎหมายยึดสินทรัพย์สามารถย้อนหลังได้เป็นสิบปี ใครยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติดหรือมีทรัพย์สินที่เกี่ยวข้องกับยาเสพติดจะถูกตรวจสอบอย่างรุนแรง ตรงนี้ถ้าผู้ค้ายาเสพติดยังอยู่ได้ตนเชื่อมั่นว่ามันผิดแล้ว มันเป็นไปไม่ได้ เพราะกฎหมายขับเคลื่อนเต็มที่ 

นายสมศักดิ์ กล่าวว่า ส่วนกรณีที่มีการระบุว่ายาเสพติดมีมากมายในทุกหมู่บ้านนั้น ในข้อเท็จจริงประเทศไทยมี 8 หมื่นกว่าหมู่บ้าน แต่มีคนแจ้งผ่านเบอร์โทรศัพท์หมายเลข 1386 เพียง 1.6 หมื่นสายเท่านั้น ถือว่าน้อยมาก อาจจะเกิดจากหมู่บ้านดังกล่าวไม่ได้เดือดร้อน หรือเดือดร้อนแต่ไม่กล้าแจ้งเบาะแส เพราะกลัวเรื่องความปลอดภัย วันนี้ได้สร้างกลไกที่จะปกปิดผู้ให้เบาะแส ที่จะนำมาใช้ได้ในระยะเวลา 2-3 เดือน 

รมว.ยุติธรรม กล่าวว่า ในเรื่องการยึดและอายัดทรัพย์สินนั้น เวลาเราสามารถยึดและอายัดทรัพย์สินได้จะส่งเข้ากองทุนป้องกันและปราบปรามยาเสพติด ซึ่งพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม เสนอแนะว่าเงินที่ได้นี้จะแยกส่วนหนึ่งไปใช้ในเรื่องการฟื้นฟูที่มีกระทรวงสาธารณสุขเป็นผู้ดูแลได้หรือไม่ ส่วนผู้ติดยาเสพติดที่เข้าขั้นโรคจิตนั้น มีการนำเสนอให้ใช้กำไลอีเอ็มเพื่อกำกับบริเวณ และปกติแล้วหากศาลสั่งให้บำบัดจะต้องส่งเข้าไปในสถาบันบำบัดรักษาและฟื้นฟูผู้ติดยาเสพติด ซึ่งจะเพิ่มเรื่องการใช้กำไลอีเอ็มเข้าไปอีกส่วนหนึ่ง โดยจะต้องไปทำระเบียบและขออำนาจศาลสั่ง นอกจากนี้ ในที่ประชุมได้มีการรายงานว่าวันนี้สารตั้งต้นยาเสพติดราคาถูกมาก ไซยาไนด์ 1 กิโลกรัม ราคา 100 บาท แต่สามารถผลิตยาบ้าได้เป็นหมื่นๆ เม็ด แต่เรามั่นใจว่าจะแก้ไขได้

นางพงษ์สวาท กายอรุณสุทธิ์ ปลัดกระทรวงยุติธรรม ในฐานะเลขานุการการประชุมเพื่อกำหนดมาตรการเร่งด่วนในการแก้ไขปัญหายาเสพติดและอาวุธปืน กล่าวว่า มาตรการสำคัญต่างๆในที่ประชุมจะมีการกำหนดหน่วยงานรับผิดชอบชัดเจน ที่จะมีการบูรณาการการทำงานร่วมกัน ไม่แยกส่วนทำงาน และจะมีการทำแผนปฏิบัติให้ได้ผลโดยเร็วที่สุด รวมทั้งมีการทบทวนตัวคณะกรรมการต่างๆที่เกี่ยวข้อง เช่น อนุกรรมการที่มีความซ้ำซ้อน ลักลั่น หรือขาดตรงไหน จะมีการติดตามและประเมินผลอย่างเร่งด่วน

แสดงความเห็น