ใกล้จบ ปรับครม.บิ๊กตู่ 2/5   หลายชื่อลุ้นเก้าอี้- สุดท้ายวืด  

หลังที่ประชุมกรรมการบริหารพรรคประชาธิปัตย์เมื่อวันพุธที่ 12 ต.ค. เสียงส่วนใหญ่ โหวตให้ “นริศ  ขำนุรักษ์ ส.ส.พัทลุง” ดีกรีห้าสมัยติดต่อกัน 

ถูกเสนอชื่อเป็น “มท.3 –รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย”คนใหม่แทน นิพนธ์ บุญญามณี

ทำให้หลังจากนี้ต้องดูว่า จุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ จะส่งชื่อ นริศ ให้ พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เพื่อนำชื่อขึ้นทูลเกล้าฯ ในวันใด แต่คาดว่าอาจจะเป็นช่วงต้นสัปดาห์หน้าหลังผ่านพ้นช่วงหยุดยาวสี่วัน 13-16 ต.ค. 

จุดที่น่าสนใจคือระหว่างนี้ ช่วงที่บิ๊กตู่รอชื่อ นริศ จากหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ สุดท้ายแล้ว พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ จะส่งซิกถึงบิ๊กตู่ว่าพลังประชารัฐ จะขอปรับครม.ด้วยหรือไม่ ด้วยการเสนอชื่อคนเข้าไปเป็นรัฐมนตรีสองคนตามตำแหน่งที่ว่างลงมาหนึ่งปีหนึ่งเดือน หลังเมื่อกันยายนปีที่แล้ว พลเอกประยุทธ์ ปรับ ธรรมนัส พรหมเผ่า และนฤมล ภิญโญสินวัฒน์  ออกจากครม. และปล่อยเก้าอี้ว่างไว้ ให้เสียโควตาไปเปล่าๆ ทั้งที่ในพลังประชารัฐ ก็มีหลายกลุ่มหลายคน เปิดตัวชัดว่าอยากเข้าไปเป็นรัฐมนตรี ไม่ว่าจะเป็นส.ส.กลุ่มภาคใต้ 13 คนที่รอลุ้นเก้าอี้รัฐมนตรีจนเหงือกแห้งมาร่วมสามปีกว่า และข่าวว่ามีการตกลงกันภายในแล้วว่า หากได้โควตามา จะให้ใครเป็นรัฐมนตรี  หรือ “กลุ่มปากน้ำ สมุทรปราการ บ้านใหญ่อัศวเหม ของชนม์สวัสดิ์ อัศวเหม” ที่ข่าวว่า แนวโน้มเลือกตั้งรอบหน้า อาจยกทีมย้ายไปอยู่กับ อนุทิน ชาญวีรกูล ที่ภูมิใจไทย เว้นเสียแต่ บิ๊กป้อม ให้โควตารัฐมนตรีหนึ่งเก้าอี้กับกลุ่มปากน้ำ แบบนี้ก็อาจคุยกันได้ ไม่ย้ายออกไป 

นอกจากนี้ยังมีข่าวว่า มีอีกหลายคนที่เข้าออกบ้านป่ารอยต่อฯ ก็อาจมีลุ้นที่ บิ๊กป้อม จะหนุนหลัง จนส่งชื่อไปเป็นรัฐมนตรี ไม่ว่าจะเป็น “พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา อดีตผบ.ตร.” ที่ตอนนี้สามารถรับตำแหน่งทางการเมืองได้แล้วตั้งแต่หลัง 1 ต.ค.เป็นต้นมาหลังพ้นช่วงสองปี ที่พ้นจากการเป็นส.ว. และตอนนี้ ก็เข้ามาช่วยงานพลังประชารัฐเต็มตัวโดยเฉพาะการรับผิดชอบพื้นที่เลือกตั้งอีสานใต้

อย่างไรก็ตาม หลายคนมองว่า เก้าอี้รมช.เกษตรฯ ที่ว่างอยู่และเป็นโควตาของพลังประชารัฐ ไม่เหมาะกับอดีตบิ๊กตำรวจคนนี้ แต่ของแบบนี้ ยังไงให้ได้เป็นรัฐมนตรีก่อน เดี๋ยวก็ปรับการทำงานได้เอง

ยิ่งมีข่าวว่า พล.ต.อ.จักรทิพย์ จะมีชื่อเป็น 1 ใน 3 แคนดิเดตนายกฯของพลังประชารัฐ อันดับเรียงต่อจาก พลเอกประยุทธ์และพลเอกประวิตร ทำให้มีการมองกันว่า หากพล.ต.อ.จักรทิพย์ ได้เข้าไปเป็นรัฐมนตรีไว้ก่อน ก็น่าจะเป็นการปูทางให้บิ๊กแป๊ะเพื่อสร้างบารมีทางการเมืองก่อนจะมีชื่อเป็นแคนดิเดตนายกฯ ของพลังประชารัฐในการเลือกตั้งที่จะมีขึ้น 

นอกจากนี้ข่าวว่า ก็ยังมีอีกบางคนที่รอลุ้นเช่น “เสี่ยโต อภิชัย เตชะอุบล” นักธุรกิจพันล้าน ที่อุตส่าห์ลาออกจากส.ส.ปาร์ตี้ลิสต์ ประชาธิปัตย์มาอยู่กับลุงป้อมที่พลังประชารัฐเพื่อเข้ามาช่วยเป็นนายทุนให้กับพรรครวมถึงมาช่วยงานด้านเศรษฐกิจให้กับพลังประชารัฐ  แต่ปรากฏว่า เสี่ยโต ออกตัวกับพลังประชารัฐแบบไม่สวย เพราะผลงานไม่เข้าตากับการนั่งเป็นผอ.เลือกตั้งส.ก.พลังประชารัฐ แล้วปรากฏว่าส่งไป 50 คน ชนะมาได้แค่ 2 คน เรียกได้ว่าล้มเหลวสิ้นเชิง ทำเอาบิ๊กป้อมเสียหน้า-เสี่ยโตเสียฟอร์ม จนต้องเฟดตัวเองออกไปจากพรรคช่วงหนึ่ง จนมีกระแสข่าวอาจย้ายไปพรรครวมไทยสร้างชาติ แต่ข่าวว่า ช่วงหลังเสี่ยโต กลับมาเข้าออกบ้านป่ารอยต่อเหมือนเดิม แต่ดูแล้ว หากลุงป้อม จะเอาคนนอกมาเป็นรัฐมนตรี เสี่ยโต น่าจะเบียดแทรกได้ยากเพราะคงโดนคนในพรรคตั้งคำถามว่า เอาคนที่เพิ่งเข้ามา และยังไม่มีผลงานมาเป็นรัฐมนตรีได้อย่างไร 

อย่างไรก็ตาม จับกระแสข่าวจนถึงช่วงก่อนหยุดยาวสี่วัน พบว่า คนในพลังประชารัฐ ก็ยังไม่ได้ยินสัญญาณหรือเสียงกระแอมไอ จากป่ารอยต่อฯ ว่าจะมีการเสนอชื่อคนในพรรคต่อพลเอกประยุทธ์ให้ตั้งเป็นรัฐมนตรีแต่อย่างใด ผนวกกับท่าทีของพลเอกประยุทธ์เอง ก็ดูเหมือนต้องการจะให้มีการปรับครม.แค่กับพรรคร่วมรัฐบาลคือประชาธิปัตย์เท่านั้น หลังประชาธิปัตย์ ประกาศชัดเจน ต้องการตั้งคนไปเป็น รมช.มหาดไทย เพราะไม่อยากเสียโควตาไปเปล่าๆ 

เลยทำให้ พลเอกประยุทธ์ที่หลีกเลี่ยงการปรับครม.มาตลอดหากไม่จำเป็นจริงๆ แต่มารอบนี้ เลี่ยงไม่ได้ ยังไง ก็ต้องปรับครม. แม้จะเป็นลักษณะการตั้งคนไปแทนตำแหน่งที่ว่าง ไม่ใช่การปรับคนเข้า-คนออก 

โดยหากสุดท้าย ถ้าไม่มีการตั้งคนไปเป็นรัฐมนตรีแทนตำแหน่งเดิมของ ธรรมนัสและนฤมล ก็เท่ากับ รอบนี้ จะเป็นการปรับครม.แค่หนึ่งคน-ตำแหน่งเดียว เพราะทาง อนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ยอมที่จะปล่อยให้เก้าอี้รมช.ศึกษาธิการ ของกนกวรรณ วิลาลัย ที่ถูกศาลฎีกาสั่งให้หยุดปฏิบัติหน้าที่ โดน “แช่แข็ง” ไว้แบบนี้เรื่อยๆ  เพื่อซื้อใจบ้านใหญ่ ปราจีนบุรี ของสุนทร วิลาวัลย์ นายกฯอบจ.ปราจีนบุรี โดยไม่ยอมปรับ กนกวรรณออกจากรัฐมนตรี ทำให้พวกรอลุ้นเสียบแทน กนกวรรณ อย่าง “ชยุต ภุมมะกาญจนะ ส.ส.ปราจีนบุรีห้าสมัย” หรือ “บุญลือ ประเสริฐโสภา ส.ส.ราชบุรี สี่สมัย อดีตรมช.ศึกษาธิการ” และ “เกื้อกูล ด่านชัยวิจิตร ส.ส.​พระนคร​ศรี​อยุธยา​ 5​ สมัย อดีตรมช.คมนาคม” อดลุ้นไปตามกัน 

เช่นเดียวกับพวกพรรคเล็กบางพรรค  ที่หวังตีตั๋วขึ้นรถไฟครม.ประยุทธ์ เที่ยวสุดท้าย อย่าง “ชัชวาลล์ คงอุดม หรือ ชัช เตาปูน หัวหน้าพรรคพลังท้องถิ่นไท” ที่มีเสียงส.ส.อยู่ 5 เสียงและที่ผ่านมาสามปีกว่า ก็ยืนหยัดเคียงข้าง บิ๊กตู่มาตลอดแบบไม่มีวอกแวก  และอาจได้เป็นรัฐมนตรีในช่วงบั้นปลายชีวิต ดูแล้ว ถึงตอนนี้ แนวโน้มสูง น่าจะไม่ได้ลุ้น

ทำให้ ชัช เตาปูน คงเอาเวลาหลังจากนี้ไปประเมินตัดสินใจอนาคตการเมืองของพรรคพลังท้องถิ่นไทดีว่าจะเอาอย่างไรต่อไป เพราะดูแล้ว เลือกตั้งรอบหน้ากับกติกาบัตรสองใบและแนวโน้มจะหาร 100 ปาร์ตี้ลิสต์ แบบนี้ พรรคชัช เหนื่อยแน่ โดยหากดูแล้วเข็นต่อไปไม่ไหว กี่ไม่แน่ ชัช เตาปูน อาจนำลูกทีมย้ายเข้าพรรครวมไทยสร้างชาติ หลังลูกชาย ชื่นชอบ คงอุดม อดีตส.ส.กทม.เขตบางซื่อ ประชาธิปัตย์ เข้าไปที่พรรครวมไทยสร้างชาติ ตั้งแต่เปิดตัวพรรค   

ดูตามนี้ เป็นไปได้สูง การปรับครม.รอบนี้ ที่เป็นครม. “ประยุทธ์ 2/5” น่าจะเป็นการปรับครม.รอบสุดท้าย ซึ่งกระบวนการต่างๆ อาจจะแล้วเสร็จทั้งหมด ภายในไม่เกินเดือนตุลาคมนี้ จากนั้น พลเอกประยุทธ์และรัฐบาล จะได้ตั้งสมาธิไปที่การเตรียมจัดประชุมเอเปค ช่วง 18-19 พ.ย.ที่ประเทศไทยเป็นเจ้าภาพต่อไป 

แสดงความเห็น