“อนุชา” เดินหน้าเอาผิดอาญาแผ่นดิน “หมอปลา” ลั่น มีกลไกสงฆ์ดูแลอยู่ รับหลายครั้งเหลืออด

“อนุชา” เดินหน้าเอาผิดอาญาแผ่นดิน “หมอปลา” ลั่น มีกลไกสงฆ์ดูแลอยู่ รับหลายครั้งเหลืออด ชี้ปมเพิ่มโทษอาญาสงฆ์ ต้องคุยในวงกว้าง

ทำเนียบรัฐบาล นายอนุชา นาคาศัย รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะกำกับดูแลสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.)  ให้สัมภาษณ์ถึงการแก้ไขปัญหาข้อพิพาทระหว่างฆราวาสกับพระสงฆ์ และการเรียกศรัทธาคืนจากพุทธศาสนิกชน ว่า ให้ พศ.ดำเนินการในส่วนที่จำเป็น โดยตนได้มีคำสั่งให้ พศ.แต่งตั้งคณะกรรมการขึ้นมา เพื่อดำเนินการตั้งแต่ต้นที่เกิดปัญหาขึ้นมาเพื่อตรวจสอบ แต่ไม่ได้ให้ข่าวออกไป อย่างไรก็ตาม อย่าลืมว่าพระพุทธศาสนาของเรามีมา 2,500 ปีแล้ว ฉะนั้นในเรื่องการผิดพระวินัย ทั้งเรื่องปาราชิกหรือสิ่งต่างๆ พระพุทธเจ้าทรงเห็นมาตั้งแต่ในอดีตจนถึงปัจจุบัน เรามีพระสงฆ์ที่เป็นตัวแทนขององค์พระพุทธเจ้าดูแลมาโดยตลอด และอยู่มาจนถึงทุกวันนี้ คงไม่ต้องไปพึ่งพาบุคคลใดบุคคลหนึ่งที่บอกว่าจะมาทำเพื่อศาสนา

“ส่วนตัวผมคิดว่าการกระทำบางอย่างมันเหมือนดี แต่อีกสิ่งหนึ่งทำให้ผู้คนมองผ้าเหลือง มองศาสนาไปอีกอย่างหนึ่ง ท่านคิดว่าท่านทำถูกแล้วหรือ ระยะยาวท่านทำไม่ถูกแน่นอน เพราะท่านมีจิตใจที่ไม่ปกติอย่างแน่นอน” นายอนุชากล่าว

เมื่อถามว่า มีการระบุว่า พศ.ยังไม่เข้มแข็งพอ นายอนุชา กล่าวปฏิเสธว่า ไม่ใช่ว่า พศ.ไม่เข้มแข็งพอตามข้อกล่าวหา  การที่เราทำอะไรจำเป็นต้องออกมาบอกหรือ มีหลายเรื่องมากที่ทำไปอยู่ในสารบบและทำมาตลอด เราจำเป็นต้องพูดหรือ จะให้ศาสนาเราเป็นอะไร

เมื่อถามว่า จะมีการดำเนินการกับนายจีระพันธ์ เพชรขาว หรือ หมอปลา อย่างไรบ้างเพื่อให้เป็นตัวอย่างไม่ให้เกิดการกระทำในลักษณะนี้อีก นายอนุชา ตอบว่า ทุกอย่างว่าไปตามกฎหมาย อะไรที่ยอมไม่ได้เป็นอาญาแผ่นดินต้องดำเนินการตามที่นักกฎหมายกล่าวไว้ ในส่วนของ พศ.ที่มีส่วนที่เกี่ยวข้องต้องดำเนินการ ไม่เช่นนั้นจะเป็นการละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ ยืนยัน พศ.ไม่ได้นิ่งเฉย

“หลายอย่างได้ทำไปแล้วแต่ต้องยอมรับว่าเรื่องศาสนาเป็นเรื่องละเอียดอ่อน บางครั้งความเชื่อความศรัทธายังคงมีอยู่ในสังคม บางครั้งใครไม่เชื่อไม่ศรัทธาขึ้นอยู่กับแต่ละบุคคล แต่ความเชื่อความศรัทธาที่ยังคงมีมาจากอดีต เป็นคำสั่งสอนของสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า มีมาตั้งแต่อดีตกาล ยกเว้นคนอวดอุตริเท่านั้น ดังนั้น เราจะไม่ปล่อยให้บุคคลใดบุคคลหนึ่งที่บอกว่าจะเข้ามาบริหารจัดการพุทธศาสนา มันไม่ถูก” รมต.ประจำสำนักนายกฯ กล่าว

รมต.ประจำสำนักนายกฯ ระบุว่า ในส่วนของการชี้แจงเรื่องต่างๆ บางครั้งต้องเข้าใจโลกยุคปัจจุบันเป็นโลกแห่งการสื่อสาร เราไม่อยากเห็นความแตกแยกจากความคิดเห็นที่มีมากกว่าเดิม อย่างตนเป็นฆราวาสพูดมากไป เท่ากับฆราวาสไปวิเคราะห์วิจารณ์เสียเองมันไม่ถูกต้อง บางสิ่งบางอย่างเราต้องให้ปรากฎในเรื่องของความเชื่อและความศรัทธา

เมื่อถามถึงกรณี กมธ.ศาสนา ศิลปะ และวัฒนธรรมสภาผู้แทนราษฎร เสนอร่างแก้ไขกฎหมายเกี่ยวกับพระสงฆ์ 4 ฉบับให้มีโทษอาญาทั้งพระสงฆ์และสีกาที่ร่วมประพฤติผิด นายอนุชา ตอบว่า เรื่องนี้ต้องมีการพูดคุยกันในวงกว้าง ไม่ใช่แค่ว่าจะอยู่เท่านี้ ส่วนตัวไม่อยากให้มีการลงลึกลงไปเกี่ยวกับศาสนาของเรา ไม่ใช่ว่าไม่เห็นด้วยกับ กมธ. แต่ต้องมีการพูดคุยในวงกว้าง ไม่ใช่คิดว่าจะแก้ไขแล้วทำทันที

“บางครั้งเองผมต้องอดทนอดกลั้น ไม่เป็นไร ใครว่าใครกล่าวต้องอดทนอดกลั้น เพื่อไม่ให้ตัวเองเป็นส่วนหนึ่งเมื่อพูดออกไปแล้วกลายเป็นประเด็นในเรื่องของศาสนา ผมเป็นฆราวาสคนหนึ่งที่ไม่อยากเห็นศาสนาของเราที่เป็นเสาหลักสั่นคลอน ยอมรับว่าบางครั้งผมเองก็เกือบจะเหลืออดหลายครั้ง” นายอนุชากล่าว

แสดงความเห็น