พท.หืดจับ สกัดแลนด์สไลด์ ดูด ส.ส.ยกจังหวัด!

ระหว่างนี้ที่ ทักษิณ ชินวัตร และพรรคเพื่อไทย กำลังมั่นใจว่า มีเลือกตั้งเมื่อใด เพื่อไทย จะชนะแลนด์สไลด์ได้กลับมาเป็นแกนนำรัฐบาล ซึ่งในความเป็นจริง มันก็ไม่ง่ายเสมอไป เพราะมีหรือที่ “พรรคพลังประชารัฐ-3 ป.” จะยอมคลายอำนาจให้ทักษิณง่ายๆ

เพราะพลังประชารัฐ ย่อมคิดง่ายๆว่า แม้จะไม่ชนะเลือกตั้ง คือได้ส.ส.น้อยกว่าเพื่อไทย แต่หากได้มาเป็นอันดับสอง และรวมเสียงพรรคการเมืองจนได้เสียงส.ส.เกินกึ่งหนึ่ง ผนวกกับมีเสียงสมาชิกวุฒิสภาคอยสนับสนุนตอนโหวตนายกฯ มันก็ยังมีโอกาสสูงที่ พลังประชารัฐและ3 ป.จะรักษาอำนาจไว้ได้อีกรอบ

ทำให้ฝ่าย ทักษิณ -เพื่อไทย ต้องพยายามเต็มกำลัง ในการทำให้ ยังไง เพื่อไทย ต้องได้เสียงส.ส.ในสภาฯ มากที่สุด คือหากได้สัก 200 ที่นั่ง หรือหากได้ถึงระดับ 230 เสียง มันก็ง่ายแล้วในการจะไปดึงพรรคการเมืองฝ่ายเดียวกันให้มาตั้งรัฐบาล ที่หากเกิน 250 เสียง ยังไง ก็ยากที่ส.ว.จะมาสกัดกั้นการโหวตนายกฯจากฝ่ายเพื่อไทยได้

หลังจากนี้ ทักษิณ-เพื่อไทย จึงต้องวางแผนการเมืองการเลือกตั้งอย่างรัดกุม เพื่อทำให้เป้าหมายข้างต้นประสบผลสำเร็จ

อย่างไรก็ตาม ระหว่างนี้ สิ่งที่ ทักษิณ -เพื่อไทย ต้องคิดหนัก ในการเฝ้าติดตามสถานการณ์ เพราะผลของมันอาจทำให้ เพื่อไทยได้ส.ส.น้อยกว่าควรที่จะเป็นหลายสิบเสียง

นั่นก็คือกรณีเรื่องของการแก้ไขพ.ร.บ.การเลือกตั้งส.ส. ฯ ในเรื่อง “สูตรคำนวณส.ส.ระบบบัญชีรายชื่อ” เพราะตอนนี้จับกระแสเห็นชัดว่า กรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพ.ร.บ.การเลือกตั้งส.ส. ของรัฐสภา จากหลายพรรคการเมือง รวมถึงแม้แต่ฝ่ายค้านด้วยกันอย่าง “ก้าวไกล” และสมาชิกวุฒิสภา ก็เริ่มมีสุ้มเสียง จะเอาด้วยกับสูตรให้เอา 500 หาร ที่คือจำนวนส.ส.ทั้งสภาฯ ไปหาร จำนวนคะแนนเสียงเลือกตั้งทั่วประเทศ เพื่อให้ได้ฐานจำนวนส.ส.ที่แต่ละพรรคการเมืองพึงมี อันเป็นสูตรที่คล้ายๆกับการเลือกตั้งปี 2562 ที่เคยทำให้เพื่อไทย ไม่ได้ส.ส.ปาร์ตี้ลิสต์แม้แต่คนเดียวมาแล้ว

ขณะที่ฝ่ายเพื่อไทย เอง ต้องการสูตรแบบการเลือกตั้งปี 2544 2548 2554 คือ แยกคะแนนผลเลือกตั้งส.ส.เขตกับปาร์ตี้ลิสต์ออกจากกัน โดยให้นำคะแนนปาร์ตี้ลิสต์ทุกพรรคมารวมกันแล้วหารด้วย 100 ที่คือจำนวนส.ส.ปาร์ตี้ลิสต์ จนได้ฐานคะแนนปาร์ตี้ลิสต์ต่อส.ส.ปาร์ตี้ลิสต์หนึ่งคน จากนั้นก็ไปดูคะแนนที่แต่ละพรรคการเมืองได้รับตอนเลือกตั้ง แล้วก็ตัดยอดออกมาว่าแต่ละพรรคจะได้ส.ส.ปาร์ตี้ลิสต์กี่คน ซึ่งสูตรนี้ เพื่อไทย มั่นใจว่า ยังไง เก้าอี้ปาร์ตี้ลิสต์ เพื่อไทยได้แน่ๆ ขั้นต่ำ 35 เก้าอี้

แต่หากสุดท้าย ถ้าสูตรคำนวณปาร์ตี้ลิสต์ออกมาโดยเอา 500 ไปหาร ไม่ใช่เอา 100 ไปหาร แบบนี้ โอกาสที่ เพื่อไทย จะได้ส.ส.ทั้งระบบเขตและปาร์ตี้ลิสต์ เกิน 200 คน ยากแน่นอน เพราะมีสิทธิ์ที่จะได้ส.ส.ปาร์ตี้ลิสต์น้อยกว่าที่คาดการณ์ไว้หลายสิบเก้าอี้หรือเผลอๆ อาจไม่ได้เลยแม้แต่คนเดียวก็ยังเป็นไปได้ !

เพื่อไทย จึงต้องลุ้นหนักให้กรรมาธิการวิสามัญฯพิจารณาร่างพ.ร.บ.เลือกตั้งส.ส.ฯ ไม่ให้เคาะสูตรเอา 500 หารรวมถึง ต้องลุ้นตอนช่วงการออกเสียงตอนโหวตวาระสองของที่ประชุมร่วมรัฐสภา  ที่พิจารณาเรียงรายมาตรา  ไม่ให้เอา 500 ไปหาร

ไม่เช่นนั้น ทักษิณ -เพื่อไทย หืดขึ้นคอแน่ ในการลุ้นชนะเลือกตั้งและจัดตั้งรัฐบาลหลังเลือกตั้ง

ขณะเดียวกัน เรื่องส.ส.เพื่อไทย ที่กำลังชั่งใจ จะอยู่เพื่อไทยต่อหรือจะย้ายพรรค ก็เป็นเรื่องที่ทักษิณ-เพื่อไทย กำลังเฝ้ามองสถานการณ์อยู่ เพราะขณะที่ ประกาศมั่นใจชนะเลือกตั้งแลนด์สไลด์ แต่ทว่า ยังมีส.ส.ของเพื่อไทย กำลังจะย้ายออกจากพรรคจำนวนหนึ่งที่ดูๆแล้ว น่าจะเกินสิบคนขึ้นไป

อย่างที่จะย้ายไปอยู่ “พรรคไทยสร้างไทย” ของเจ๊หน่อย คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ดูแล้วที่แน่ๆ มีอย่างต่ำก็ห้าคน คือ การุณ โหสกุล และน.อ.อนุดิษฐ์ นาครทรรพ สองส.ส.กทม. และอาจยังมี ที่จะย้ายตาม  พงศกร อรรณนพพร หนึ่งในผู้ร่วมก่อตั้งพรรคไทยสร้างไทย -อดีตส.ส.ขอนแก่น ก็คือ  สรัสนันท์ อรรณนพพร ลูกสาว และบัลลังก์ อรรณนพพร น้องชาย รวมถึง จักรพรรดิ ไชยสาส์น น้องชาย ต่อพงษ์ ไชยสาส์น แกนนำไทยสร้างไทย

แต่พรรคการเมืองที่ส.ส.เพื่อไทย ดูจะให้ความสนใจย้ายพรรคไปอยู่ด้วยมากสุด คงไม่พ้น “พรรคภูมิใจไทย” ที่รู้กันดีว่า “ใจถึง-พึ่งได้” เพราะเป็นพรรคที่มี “เงินอัดฉีด” ให้กับส.ส.มากที่สุดแล้วในเวลานี้

ยิ่งด้วยความเป็นพรรคที่คุมอำนาจรัฐในหลายหน่วยงานทั้ง กระทรวงสาธารณสุข-คมนาคม-ท่องเที่ยวและกีฬา-มหาดไทย-เกษตรและสหกรณ์ -ศึกษาธิการ ที่สามารถเกื้อหนุนการทำงานและการลงพื้นที่ของนักการเมืองในพรรคได้ เลยทำให้ส.ส.หลายพรรคโดยเฉพาะเพื่อไทย เลยมีข่าวสนใจอยากจะย้ายไปร่วมงานด้วย หลังมีคนนำร่องไปก่อนแล้ว เพราะโดนขับออกจากสมาชิกพรรคก่อนหน้านี้อย่าง “พรพิมล ธรรมสาร” ส.ส.ปทุมธานี อดีตเพื่อไทย และมีข่าวว่า ศุภชัย นพขำ ส.ส.ปทุมธานี เพื่อไทย ก็อาจย้ายตามไปอยู่ด้วย หากมีการเลือกตั้งเกิดขึ้น

แต่ที่มีข่าวว่า คนของทักษิณ ที่กำลังถูกเนวิน ชิดชอบ -อนุทิน ชาญวีรกูล กำลังตามจีบ-ตามดูดให้ย้ายพรรค คงไม่พ้นพวกส.ส.อีสาน โดยเฉพาะถึงขั้นมีข่าวจะดูดทั้งจังหวัด!

นั่นก็คือที่ “ศรีษะเกษ” ที่มีข่าวออกมาเป็นระยะ แต่ล่าสุด ยิ่งชัดมากขึ้นเพราะเมื่อวันเสาร์ที่ 9 เม.ย.ที่ผ่านมา ปรากฏว่า ที่มหาวิทยาลัยราชภัฏศรีสะเกษ ภายในงานวิชาการเรื่องการใช้กัญชาทางการแพทย์ และเศรษฐกิจ ที่อนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เป็นประธานเปิดงาน พบว่า มี ส.ส.และสมาชิกพรรคภูมิใจไทย มาให้การต้อนรับ โดยมี “นางผ่องศรี แซ่จึง ส.ส. เขต 8 ศรีสะเกษ พรรคเพื่อไทย” ที่มาพร้อม ปวีณ แซ่จึง อดีตส.ส.ศรีสะเกษ ผู้เป็นสามี ซึ่งสวมเสื้อโลโก้พรรคภูมิใจไทย มาร่วมงานด้วย

ขณะที่ก่อนหน้านี้ ในงานพิธีเปิดการแข่งขันกีฬาแห่งชาติ ครั้งที่ 47 ที่ จ.ศรีสะเกษ เมื่อวันที่ 5 มี.ค. ที่ผ่านมาก็มีภาพข่าว การนัดพบกันของ อนุทินกับส.ส.ศรีษะเกษ เพื่อไทย อีกสองคนคือ น.พ.จาตุจงค์  เพ็งนรพัฒน์ และธีระ ไตรสรกุล โดยมี ปวีณ แซ่จึงไปร่วมด้วย

สอดรับกับกระแสข่าว เนวิน-ศักดิ์สยาม สองพี่น้องตระกูล ชิดชอบ ตั้งเป้า ยึดพื้นที่ “อีสานใต้” แบบยกจังหวัด ทั้งบุรีรัมย์-สุรินทร์-ศรีษะเกษ

โดยเฉพาะศรีสะเกษ ที่ตอนนี้พรรคภูมิใจไทยมีส.ส.แล้วสองคนคือ สิริพงศ์ อังคสกุลเกียรติและอาสพลธ์ สรรณ์ไตรภพ ดังนั้น หากได้นพ.จาตุรงค์ เพ็งนรพัฒน์ -ธีระ ไตรสรณกุล ที่เป็นเครือญาติกับ ไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีจากภูมิใจไทย  และ ผ่องศรี แซ่จึง มาเสริมอีก ทำให้ โอกาสที่ ภูมิใจไทย จะกวาดส.ส.ศรีษะเกษ อย่างน้อย 6 เก้าอี้ จาก 9 ที่นั่ง  ก็น่าจะทำให้ เนวิน -อนุทิน มั่นใจมากขึ้นว่ามีโอกาสสำเร็จ

ซึ่งความเคลื่อนไหวเรื่องจะมีคนย้ายออกจากเพื่อไทย ทักษิณ-แกนนำพรรค ต่างสืบเสาะหาข่าวมาตลอด โดยเฉพาะกับกรณี 3 ส.ส.ศรีสะเกษ ที่ถึงตอนนี้พบว่า เพื่อไทย ปักธงแล้วว่า สามคนนี้ย้ายพรรคแน่ เลยมีการเตรียมการหาคนไปลงสมัครรับเลือกตั้งแทนแล้ว

เห็นได้จากท่าทีของ “ยุทธพงศ์ จรัสเสถียร รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย-ส.ส.อีสาน มหาสารคาม” ที่ประกาศแบบไม่ไว้หน้า โดยระบุว่า การที่  นพ.จาตุรงค์ -ธีระ-นางผ่องศรี ไปปรากฏภาพออกงานร่วมกับอนุทิน นั้นเรื่องนี้ “ขอประกาศว่าพรรคเพื่อไทยเตรียมคนลงแทนทั้ง 3 คนเรียบร้อยแล้ว ไม่ได้มีความเสียดาย ทั้งเขต 4 ของ นพ.จาตุรงค์ เขต 5 ของนายธีระ และเขต 8 ของนางผ่องศรี ไม่แคร์ทั้ง 3 คน จะย้ายพรรคก็ย้ายไปพรรคเพื่อไทยเชื่อว่าชาวศรีสะเกษยังรักพรรคและนโยบายของพรรค มากกว่าเงินแน่นอน”

จากเท่าที่เห็นตอนนี้ ส.ส.เพื่อไทย ที่จะย้ายออกตอนเลือกตั้งรอบหน้า ที่ไปอยู่ไทยสร้างไทย 5 คน ไปภูมิใจไทย อีกอย่างต่ำ 4 คน ก็เท่ากับ 9 คนแล้ว ซึ่งใน 9 คนนี้ ดูแล้วยังไง ย้ายพรรคไป โอกาสจะชนะเลือกตั้ง แม้ต่อให้ไม่ใส่เสื้อเพื่อไทย อย่างน้อยๆ ก็ไม่ต่ำกว่า 5 คนชัวร์ๆ

ทำให้ ที่ทักษิณ เพื่อไทย วาดหวัง แลนด์สไลด์หลังเลือกตั้ง  แม้มีทางเป็นไปได้ แต่ก็ไม่ง่ายแน่นอน

แสดงความเห็น