“ธรรมนัส” ยึด เศรษฐกิจไทย สัญญาณชัด เดินเกมล้ม “บิ๊กตู่”

เปิดสภาฯวันแรก 25พ.ค. มาได้แค่วันเดียว การเมืองก็ร้อนระอุ กับปัญหาภายในพรรค “เศรษฐกิจไทย” ที่ถึงขั้น กรรมการบริหารพรรค พร้อมใจกัน ลาออก เพื่อยึดเก้าอี้ หัวหน้าพรรค จาก พลเอกวิชญ์ เทพหัสดิน ณ อยุธย มาให้ ธรรมนัส พรหมเผ่า ซึ่งที่ผ่านมา ก็เป็นหัวหน้าพรรคตัวจริงมาตลอด แต่หลังจากนี้ ลูกพรรคในสังกัด พร้อมใจกันปูทางให้ขึ้นเป็น หัวหน้าพรรคอย่างเป็นทางการเสียที

อันเป็นความร้อนแรงที่บ่งบอกสัญญาณการเมืองได้ว่า เปิดประชุมสภาฯรอบนี้สี่เดือนเต็ม มีระเบิดเวลาการเมืองหลายลูกรออยู่ ที่หากพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา เดินการเมืองพลาด มีสิทธิ์โดน “สอยร่วง” กลางสภาฯ อยู่ไม่ถึง เป็นเจ้าภาพจัดประชุมเอเปคปลายปีนี้แน่นอน

เพราะเห็นชัด ธรรมนัส “คู่แค้น-คู่ปรับ” พลเอกประยุทธ์ เตรียมเอาคืนแล้ว ในปฏิบัติการ “ล้มบิ๊กตู่”      

โดยแผนขั้นแรก ก็คือ เมื่อแนวทางการเมืองระหว่าง ตนเองคือ ธรรมนัส กับ พลเอกวิชญ์  ไปด้วยกันไม่ได้ มันก็ถึงเวลา 

“วงแตก-แยกทางกันเดิน”

หลังที่ผ่านมา เป็นที่รู้กันภายในว่า ภายในพรรคเศรษฐกิจไทย มีปัญหาหลายเรื่องทั้งเรื่องการบริหารพรรค งานพรรค และการเดินทางการเมือง

เพราะที่ผ่านมา มีกระแสข่าวว่า บิ๊กน้อย พลเอกวิชญ์ ก็น้อยใจไม่น้อยที่คนในพรรค-ส.ส.ของพรรคทั้ง 16 คน มองว่า พลเอกวิชญ์ เป็นหัวหน้าพรรคหุ่นเชิดที่พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ ส่งมาคุมพรรค และคุม ธรรมนัส ไม่ได้มาเป็นหัวหน้าพรรคเพราะมีคุณสมบัติอะไรเหมาะสม จึงทำให้ ส.ส.ในพรรคไม่ค่อยมีใครยอมรับนับถือพลเอกวิชญ์มากนักเพราะทั้งหมดที่ย้ายออกมาจากพลังประชารัฐ ก็ย้ายตาม ธรรมนัสทั้งสิ้น

อีกทั้งพวก ส.ส.เศรษฐกิจไทย ก็มองว่า พลเอกวิชญ์ เป็นแค่อดีตนายพลเกษียณอายุ ไม่ได้มีประสบการณ์ทางการเมืองอะไร และคนก็ไม่ค่อยรู้จัก โดยเฉพาะในพื้นที่ต่างจังหวัด ทำให้ไม่สามารถเรียกเรตติ้งอะไรให้ส.ส.ได้

ผนวกกับ พลเอกวิชญ์ โดยพื้นฐานก็ไม่ใช่พวกสายเปย์ ที่จะมาคอยดูแลส.ส. แบบรายเดือนและรายสะดวก และไม่ใช่คนที่ชอบคลุกคลีกับนักการเมืองอยู่แล้ว เลยทำให้ บารมีในการปกครองส.ส.และการคุม ธรรมนัส จึงไม่เกิดขึ้น

จนมีข่าวออกมาตลอดว่า การบริหารงานในพรรค-บารมีการยอมรับจากส.ส.เศรษฐกิจไทย ในช่วงที่ผ่านมา ของพลเอกวิชญ์ มีน้อย ไม่ค่อยได้รับการยอมรับเท่าที่ควร เรียกได้ว่า คนในพรรคมีอะไร ก็คุยกับ ธรรมนัสคนเดียว เลยทำให้ พลเอกวิชญ์ ก็อึดอัดใจไม่น้อย เพราะเป็นถึงหัวหน้าพรรค แต่ถูกมองข้ามหัวตลอด

ยิ่งการที่ พลเอกวิชญ์ รับคำสั่งมาจาก พลเอกประวิตร ที่ส่งพลเอกวิชญ์มาคุมเศรษฐกิจไทยและคุมธรรมนัส ออกมาบอกหลายรอบว่า พรรคเศรษฐกิจไทยอยู่ฝ่ายรัฐบาล และสนับสนุนพลเอกประยุทธ์ นายกฯ ที่สวนทางกับ ธรรมนัส ที่ยังคงเคลื่อนไหว ไปในทางเดียวกับพรรคเพื่อไทย และกลุ่มพรรคเล็กที่ชอบป่วนรัฐบาล  โดยเฉพาะหลังจากนี้ที่สภาฯเปิดแล้ว และจะเคลื่อนไหวหนักขึ้นในช่วงอภิปรายไม่ไว้วางใจ เพื่อ “ล้มประยุทธ์”

มันก็เลยทำให้ ภาพที่ออกมา พลเอกวิชญ์กับธรรมนัส ซึ่งจริงๆ ก็ไม่ได้สนิทสนมอะไรกันมาก่อน พอจังหวะการเดิน ทางการเมืองไปด้วยกันไม่ได้ เพราะ

“ร้อยเอก ไม่ฟังพลเอก”

มันก็เลยเกิดภาพอย่างที่เห็น คือ ธรรมนัส เลยเคลื่อน “ยึดเก้าอี้” หัวหน้าพรรค จากพลเอกวิชญ์ เพื่อจะเอาตัวเองขึ้นเป็นหัวหน้าพรรคแทน ด้วยการให้ กรรมการบริหารพรรคเศรษฐกิจไทยลาออก 15 คน ที่ก็เกินกึ่งหนึ่งของจำนวนกรรมการบริหารพรรค ส่งผลให้ พลเอกวิชญ์ พ้นจากหัวหน้าพรรคโดยปริยาย

แม้ก่อนหน้านี้ พลเอกวิชญ์ จะเคยชิงลาออกก่อน แต่เปลี่ยนใจ และต่อมาก็มาลาออกภายหลัง แต่ก็ไม่ทันแล้ว เพราะการที่ กลุ่มกรรมการบริหารพรรคเศรษฐกิจไทย ตบเท้าลาออกเกินครึ่งหนึ่ง มันก็คือ ปฏิบัติการ ไล่ พลเอกวิชญ์ ออกจากพรรคเศรษฐกิจไทยนั่นเอง

ข่าวบางกระแสบอกว่า พรรคเศรษฐกิจไทย  จะมีการประชุมใหญ่พรรคสมัยวิสามัญ เพื่อลงมติเลือกกรรมการบริหารพรรคชุดใหม่ โดยเฉพาะหัวหน้าพรรค-เลขาธิการพรรค ต้นเดือนมิถุนายนนี้

ซึ่งรอบนี้ ธรรมนัส​ หัวหน้าพรรคตัวจริง  จะขึ้นเป็นหัวหน้าพรรคเอง​ ท่ามกลางกระแสข่าว ก่อนหน้านี้ ธรรมนัส เพิ่งกลับมาจากต่างประเทศ โดยไม่มีใครรู้ว่า ที่ไปต่างประเทศ ไปคุยกับใครที่ไหนหรือไม่ จะใช่ “คนแดนไกล”หรือไม่ หลังมีข่าวบางกระแสว่า ระยะหลัง สายสัมพันธ์ ของธรรมนัส กับคนแดนไกล ทักษิณ ชินวัตร เริ่มคุยกันถูกคอมากขึ้น จนถึงขั้นมีข่าว พรรคเศรษฐกิจไทย จะเป็นหนึ่งในเครือข่ายของเพื่อไทยและทักษิณ ชินวัตรด้วยซ้ำ 

ยิ่งเมื่อปรากฏว่า พอ ชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ชนะเลือกตั้งผู้ว่าฯกทม.และเพื่อไทย ได้เก้าอี้ส.ก.มากที่สุด ก็ปรากฏว่า ธรรมนัส ก็เคลื่อนไหวทันที ผ่านการโพสต์เฟสบุ๊กว่า

“ขอแสดงความยินดีกับครอบครัวของเราที่ได้รับชัยชนะจากการเลือกตั้ง ส.ก.หลายๆ เขต และขอขอบคุณพี่น้องชาว กทม.ที่ออกมาใช้สิทธิของตัวเองเพื่อรักษาอนาคตของประเทศไทยครับ”

ซึ่งคำว่า “ครอบครัวเรา” การที่ธรรมนัส ใช้คำแบบนี้ จึงทำให้น่าจะชัดเจนแล้วว่า พรรคเศรษฐกิจไทยและธรรมนัส มีแนวโน้มจะไปอยู่กับฝ่ายเพื่อไทย

และไม่แน่ จะเริ่มต้น ด้วยการให้ ส.ส.พรรคเศรษฐกิจไทย 16 เสียง “โหวตไม่ไว้วางใจ” พลเอกประยุทธ์ในศึกซักฟอกที่จะมีขึ้นกลางปีนี้ก็ได้  หรือหากไม่อยากแตกหัก กับอดีตนายเก่า พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ ก็อาจ “งดออกเสียงไว้วางใจ” พลเอกประยุทธ์

กระนั้น ก็ตาม คนการเมืองในสภาฯ บางส่วน ก็มองในมุมมองว่า ไม่แน่สิ่งที่เกิดขึ้นทั้งหมด อาจเป็น “แผนซ้อนแผน” ของพลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ

ด้วยการให้ พลเอกวิชญ์ ออกมาจาก พรรคเศรษฐกิจไทย แล้วก็ให้ ธรรมนัส เดินเกมในสภาฯให้เต็มที่เพื่อป่วน-ล้ม  พลเอกประยุทธ์  โดยไม่ต้องมี พลเอกวิชญ์ ที่มีภาพของความเป็นคนของบิ๊กป้อม อยู่ในพรรคเศรษฐกิจไทย

ซึ่งหากธรรมนัส เคลื่อนไหวแล้วล้มพลเอกประยุทธ์ได้ จนต้องโหวตเลือกนายกฯคนใหม่ แล้วไปถึงขั้นเลือก “นายกฯนอกบัญชี” ก็อาจทำให้ บิ๊กป้อม ได้เป็นนายกฯสักครั้งในบั้นปลายชีวิต

อันพบว่า คนการเมือง ก็มองมุมนี้้กันไม่ใช่น้อย ทำนอง ทั้งหมด ที่เกิดขึ้นกับพรรคเศรษฐกิจไทย มี “แผนซ้อนแผน” ที่แยบยล ต้องอ่านกันหลายชั้น!

แสดงความเห็น