รมว.ยุติธรรม กำชับกรมราชทัณฑ์-กรมพินิจฯ ห้ามประมาทเชื้อโอมิครอน สั่งยกระดับมาตรการเข้มข้น

รมว.ยุติธรรม กำชับกรมราชทัณฑ์-กรมพินิจฯ ห้ามประมาทเชื้อโอมิครอน สั่งยกระดับมาตรการเข้มข้น ปฏิบัติตามมาตรการ VUCA เร่งทำความเข้าใจผู้ต้องขังงดเยี่ยมญาติให้ทำผ่านออนไลน์ เตรียมทุกอย่างที่จำเป็นให้พร้อมรับมือ แนะ รพ.ราชทัณฑ์ หากเป็นไปได้ช่วยดูแลประชาชนด้วย

มีการประชุมผู้บริหารกระทรวงยุติธรรม ผ่านระบบวิดีโอคอนเฟอร์เรนซ์ โดยมีนายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม เป็นประธานการประชุม พร้อมด้วยศาสตราจารย์พิเศษวิศิษฏ์ วิศิษฏ์สรอรรรถ ปลัดกระทรวงยุติธรรม อธิบดีกรมต่างๆ และผู้บริหารกระทรวง ร่วมการประชุม

นายสมศักดิ์ กล่าวถึงมาตรการเฝ้าระวังเชื้อไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอนของเรือนจำทั่วประเทศว่า กรมราชทัณฑ์ และกรมพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชน ได้มีคำสั่งยกระดับมาตรการเฝ้าระวังและป้องกันอย่างเข้มงวด โดยการปฏิบัติตามมาตรการ VUCA คือ V- Vaccine ฉีดครบ ลดป่วยหนัก U – Universal Prevention ป้องกันตัวเองตลอดเวลา C – COVID Free Setting สถานที่บริการพร้อม ผู้ให้บริการฉีดวัดซีนครบ ตรวจ ATK ทุกสัปดาห์ A – ATK (Antigen test kit) พร้อมตรวจเสมอเมื่อใกล้ชิดคนติดเชื้อ หรือมีอาการทางเดินหายใจ โดยเรือนจำ ทัณฑสถาน และสถานพินิจฯ ที่อยู่ในพื้นที่แพร่ระบาดของเชื้อสายพันธุ์โอมิครอนทุกแห่ง โดยเฉพาะเรือนจำสีขาว ขอให้เตรียมความพร้อมและใช้มาตรการที่รัดกุมในการป้องกัน เช่น การตรวจ ATK ผู้เข้าปฏิบัติหน้าที่ในเรือนจำ การปฏิบัติตามมาตรการป้องกันและควบคุมโรคอย่างเคร่งครัด ตรวจคัดกรองผู้ต้องขังเข้าใหม่ ที่อยู่ระหว่างกักโรค 21 วัน ด้วยการตรวจ RT- PCR หรือ ATK ที่ผ่านมาตรฐานองค์การอาหารและยา อย่างน้อย 2 ครั้ง เนื่องจากเชื้อไวรัสสายพันธุ์โอมิครอน สามารถแพร่กระจายได้รวดเร็ว และการตรวจด้วย ATK บางยี่ห้ออาจจะไม่เจอเชื้อ ตนต้องขอให้ศึกษาตรงนี้ด้วย

นายสมศักดิ์ กล่าวอีกว่า ในส่วนของเจ้าหน้าที่ควรงดการปฏิบัติตนที่อาจทำให้เกิดความเสี่ยง งดเข้าร่วมกิจกรรมที่มีคนเข้าร่วมจำนวนมาก งดเข้าไปในพื้นที่เสี่ยงต่อการแพร่ระบาด ให้เจ้าหน้าที่สังเกตอาการเบื้องต้นของตนเองและบุคคลใกล้ชิด หากเข้าข่ายกลุ่มเสี่ยงป่วยติดเชื้อ ให้เข้ารับการตรวจคัดกรองโดยทันที พร้อมแจ้งผู้บังคับบัญชาทราบ และทุกเรือนจำต้องประสานหน่วยงานสาธารณสุขในพื้นที่และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อเตรียมความพร้อมวางแผนเผชิญเหตุกรณีตรวจพบผู้ติดเชื้อและสถานการณ์ต่างๆ หากพบผู้ป่วยอาการผิดปกติ สงสัยอาการเข้าได้กับโรค ให้เร่งตรวจคัดกรองทันทีและแจ้งหน่วยงานสาธารณสุขในพื้นที่โดยเร็ว รวมทั้งเร่งการฉีดวัคซีนให้แก่เจ้าหน้าที่และผู้ต้องขังที่เข้าเกณฑ์รับวัคซีนทั้งรายใหม่และเข็มกระตุ้น ตามแนวทางกรมควบคุมโรค นอกจากนี้ในส่วนของการเยี่ยมญาติเราจะงดชั่วคราวโดยให้เยี่ยมผ่านทางออนไลน์แทน และให้เตรียมความพร้อมยาและวัสดุอุปกรณ์ต่างๆที่จำเป็น และควรให้ความรู้และทำความเข้าใจกับผู้ต้องขังด้วย เพื่อลดความเข้าใจคลาดเคลื่อน พร้อมติดตามข้อมูลข่าวสาร สถานการณ์ในพื้นที่ให้เป็นปัจจุบันเพื่อพร้อมยกระดับการป้องกันให้เหมาะสมกับสถานการณ์

“แม้ว่าสถานการณ์โควิดในเรือนจำขณะนี้จะดีมาก พบเรือนจำมีการติดเชื้อเพียง 7 แห่ง แต่เราห้ามประมาทเด็ดขาด เพราะเชื้อโอมิครอน สามารถแพร่กระจายเชื้อได้อย่างรวดเร็ว เราต้องป้องกันอย่างเข้มงวดที่สุด เพราะหากมีการหลุดเข้าไปเรือนจำแล้วเราจะป้องกันได้ยากกว่าเดิม นอกจากนี้ในส่วนของการเตรียมความพร้อมต่างๆ ทั้งยารักษาโรค อุปกรณ์ที่จำเป็น และการประสานกับโรงพยาบาลใกล้เคียงต้องทำให้เรียบร้อย หากเกิดเหตุฉุกเฉินจะได้ดำเนินการได้ทันที และอย่าให้จำนวนผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นอย่างก้าวกระโดด ผบ.เรือนจำ ต้องบริหารจัดการให้ดี รวมทั้งในส่วนของกรมพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชน ก็ต้องบริหารจัดการให้ดีตามมาตรฐานด้วย และในส่วนของโรงพยาบาลราชทัณฑ์ หากมีเวลาพอที่จะช่วยดูแลประชาชนในละแวกใกล้เคียงได้ก็จะดี หากมีความพร้อมก็จัดการได้เลย” นายสมศักดิ์ กล่าว

แสดงความเห็น