สิ้นสุดการรอคอยกว่า 3 ปี ศาลฎีกา คงจำคุก ‘เปรมชัย’ คดีล่าเสือดำ 2 ปี 14 เดือน

ศาลฎีกา คงจำคุก ‘เปรมชัย’ คดีล่าเสือดำ 2 ปี 14 เดือน ไม่รอลงอาญา ทนายเผย เปรมชัย น้อมรับคำตัดสิน เตรียมติดต่อขอเข้าเยี่ยมภายหลัง คุมตัวทั้งหมดนอนคุกคืนแรก ขณะ อิตาเลียนไทย ออกแถลงการณ์ ยัน การติดคุกของนายเปรมชัย ไม่ส่งผลกระทบการดำเนินธุรกิจ 

ที่ศาลจังหวัดทองผาภูมิ เมื่อช่วงเช้า ศาลได้นัดอ่านคำพิพากษาศาลฎีกา ใน คดีล่าเสือดำ ที่พนักงานอัยการจังหวัดทองผาภูมิ เป็นโจทก์ฟ้อง นายเปรมชัย กรรณสูต อดีตประธาน กรรมการ บริษัทอิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ จำกัด(มหาชน) /นายยงค์ โดดเครือ คนขับรถ /นางนที เรียมแสน แม่ครัว /และนายธานี ทุมมาศ พรานป่า ร่วมเป็นจำเลยที่ 1-4 ในฐานความผิด ร่วมกันล่าสัตว์ในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าโดยไม่ได้รับอนุญาต , ร่วมกันมีไว้ครอบครองซึ่งซากสัตว์ป่าคุ้มครองโดยที่ไม่ได้รับอนุญาต ,ร่วมกันช่วยซ่อนเร้นช่วยพาเอาไปเสีย หรือรับไว้ซึ่งซากสัตว์ป่าอันได้มาโดยกระทำความผิดกฎหมาย และร่วมกันพกพาอาวุธปืนไปในเมืองหมู่บ้าน หรือทางสาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาต

กรณีเมื่อวันที่ 4 ก.พ.2561 พวกจำเลยได้ร่วมกันเข้าไปในป่าทุ่งใหญ่นเรศวร เขตตะวันตก จ.กาญจนบุรี แล้วร่วมกันฆ่าเสือดำ ไก่ฟ้าหลังเทา ซึ่งเป็นสัตว์ป่าสงวน เพื่อเป็นอาหาร ซึ่งในคดีนี้ จำเลยยื่นฎีกา 3คน คือ นายเปรมชัย /นายยงค์ และนายธานี และช่วงเช้าที่จำเลยเดินทางมาถึง นายเปรมชัย เดินทางมาด้วยรถยนต์ส่วนตัว แลนโลเวอร์ มาถึงก็ลงจากรถโดยมีทีมทนายความส่วนตัวที่นำโดย นายวิฑูรย์ แย้มพราย มารอรับ และสวมเสื้อสูทให้ คนติดตามก็เอาไม้เท้าไปให้กับนายเปรมชัย เพื่อเดินไปยังจุดตรวจคัดกรองโควิด ก่อนที่จะขึ้นไปยังห้องพิจารณาคดี จะสังเกตุเห็นว่า นายเปรมชัย ใช้ผ้าก็อตปิดตาด้านซ้ายไว้ และมีสีหน้าเรียบเฉยเป็นปกติ ส่วนจำเลยอีก 2 คน คือ นายยงค์ และนายธานี ก็รอขึ้นไปยังห้องพิจารณาคดีพร้อมกัน ตอนเช้าทุกคนยังใส่กำไลอีเอ็มตามคำสั่งของศาลอุทรณ์หลังอนุญาติให้ปล่อยตัวชั่วคราวไว้อยู่

ศาลใช้เวลาอ่านคำพิพากษา ประมาณครึ่งชั่วโมง โดยได้ พิจารณาแล้ว เห็นว่า ก่อนหน้านี้ที่ จำเลยทั้ง 3 คน ยื่นฎีกาต่อศาลนั้น ฎีกาของจำเลยทั้งสาม ฟังไม่ขึ้น และไม่มีเหตุต่อการรอการลงโทษ แต่ต่อมาได้มีการแก้ไข พ.ร.บ.สงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ. 2535 โดย พ.ร.บ.สงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า แก้ไขเพิ่มเติม ปี พ.ศ. 2562 ให้ยกเลิกมาตรา 55 จึงไม่มีความผิดในฐาน ช่วยกันซ่อนเร้น หรือรับไว้ซึ่งซากสัตว์ป่าอันได้มาโดยกระทำความผิดกฎหมาย 

ทั้งนี้ศาลจึงคงจำคุกนายเปรมชัย 2 ปี 14เดือน /นายยงค์ คนขับรถ คงจำคุก 2 ปี 17เดือน / และนายธานี พรานป่า คงจำคุก 2 ปี 21เดือนพร้อมทั้ง ให้จำเลยชดใช้ค่าเสียหาย 2 ล้านบาท ตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น และศาลอุทธรณ์ แต่ให้ปรับแก้ไขดอกเบี้ย

จากนั้นเจ้าหน้าที่ก็คุมไปปฏิบัติตามขั้นตอนคัดกรองโควิด-19ในการตรวจหาเชื้อ ก่อนจะคุมขึ้นรถเรือนจำ ไปส่งยังเรือนจำอำเภอทองผาภูมิ และก่อนเข้าไปภายในเรือนจำ ยังต้องตรวจคัดกรองโควิด-19อีกรอบด้วย โดยทีมทนายความ ก็ตามไปที่เรือนจำด้วยฯ และส่งตัวแทนไปเพื่อขอเข้าเยี่ยมนายเปรมชัย แต่เจ้าหน้าที่ไม่อนุญาต เนื่องจากจะต้องทำตามขั้นตอนการคัดกรองโควิด-19  และทีมทนายความ บอกสั้นๆว่า นายเปรมชัย น้อมรับคำตัดสินของศาล และไม่ได้ฝากหรือพูดอะไรเป็นพิเศษ 

ส่วนที่เห็นว่าดวงตาปิดผ้าก็อต ฝั่งดวงตาด้านซ้าย เกิดจากอาการป่วย และทุกวันนายเปรมชัย จะต้องกินยารักษาโรคประจำตัว ซึ่งทีมทนายเข้ายื่นขอเยี่ยมเปรมชัยและพวก แต่เรือนจำยังไม่อนุญาต เพราะจะต้องทำตามขั้นตอนการคัดกรองโควิด-19 ก่อน จากนั้นเมื่อไม่สามารถเข้าเยี่ยมนายเปรมชัยได้ ทีมทนายความจึงเดินทางกลับทันที และจะมีการประสานขอเข้าเยี่ยมในภายหลัง และหลังจากนี้ทีมทนาย จะไม่ขอให้สัมภาษณ์ใดๆทั้งสิ้นเพราะถือว่าคดีสิ้นสุดแล้ว  ขณะที่ ญาติของนายยงค์ และนางธานี ก็มาติดต่อขอเข้าเยี่ยม หลังจากเดินทางมาร่วมนับฟังคำพิพากษาด้วย แต่เจ้าหน้าที่ก็ไม่อนุญาตเช่นกัน 

และในวันนี้ยังพบว่า หัวหน้าเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวรคนปัจจุบัน ซึ่งเป็นตัวแทนของกรมอุทยานสัตว์ป่าและพันธุ์พืช เดินทางมาร่วมรับฟังคำตัดสินด้วย โดยไม่ได้ให้สัมภาษณ์ใดๆกับสื่อมวลชน ซึ่งที่บริเวณศาลในวันนี้ไม่อนุญาตให้สื่อมวลชนเข้าไปภายในพื้นที่เพราะอยู่ในช่วงของการแพร่ระบาดโควิด  รวมถึงที่หน้าเรือนจำด้วย

อย่างไรก็ตาม ทางด้านอิตาเลียนไทย ออกแถลงการณ์ ยืนยัน ศาลตัดสิน นายเปรมชัย ติดคุก คดีล่าเสือดำ ไม่ส่งผลกระทบการดำเนินธุรกิจ ของนักลงทุน-คู่ค้า ผู้ถือหุ้น มั่นใจ กรรมการบริหารของบริษัท เดินหน้าองค์กรต่อได้อย่างมีประสิทธิภาพ

แสดงความเห็น