มติเสียงข้างมาก มีคำสั่งให้ ‘ปารีณา’ หยุดปฏิบัติหน้าที่เป็น กมธ.งบ65

ศาลฎีกา นัดอ่านคำพิพากษา คดี ‘ปารีณา’ ฝ่าฝืนจริยธรรมอย่างร้ายแรง 7 เม.ย.65 พร้อมมีมติเสียงข้างมาก มีคำสั่งว่า ‘ปารีณา’ ไม่อาจปฏิบัติหน้าที่เป็น กมธ.งบ65 ได้

ศาลฎีกา ออกนั่งบัลลังก์พิจารณาคดีครั้งแรกและตรวจพยานหลักฐานคดีที่ ป.ป.ช.ยื่นร้อง น.ส.ปารีณา ไกรคุปต์ ส.ส.ราชบุรี พรรคพลังประชารัฐ ฝ่าฝืนมาตรฐานจริยธรรมอย่างร้ายแรง กรณีรุกพื้นที่ป่าสงวนใน จ.ราชบุรี อันเป็นการขัดกันระหว่างผลประโยชน์ส่วนตัวและส่วนรวม โดยศาลกำหนดการไต่สวนและชี้ช่องพยานหลักฐาน ของฝั่ง ป.ป.ช.ทั้งสิ้น 12 ปาก ในวันที่ 8 ,22 ,28 ก.พ.65 ขณะที่ พยานของ น.ส.ปารีณา นัดสอบทั้งสิ้น 10 ปากในวันที่ 1-3 มี.ค.65 และ 8-10 มี.ค.65 โดยวันนัดพยาน ให้พยานมาศาลตามนัดทุกนัด มิเช่นนั้น จะถือว่า ไม่ติดใจในการให้ถ้อยคำ พร้อมนัดฟังคำพิพากษาในวันที่ 7 เม.ย.65 เวลา 10.30 น.

ทั้งนี้ ในการนัดพิจารณาคดีวันนี้ (9 พ.ย.) ป.ป.ช.ยังได้ยื่นคัดค้านการดำรงตำแหน่งคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2565 ของ น.ส.ปารีณา เนื่องจากเห็นว่า ศาลได้สั่งให้ยุติการปฏิบัติหน้าที่ ส.ส.แล้ว ซึ่งองค์คณะผู้พิพากษาเสียงข้างมาก ได้พิจารณาแล้วเห็นว่า การดำเนินการพิจารณาร่างงบประมาณรายจ่ายประจำปี เป็นหน้าที่ของสภาฯ การทำหน้าที่กรรมาธิการวิสามัญ จึงเป็นการปฏิบัติหน้าที่ของ ส.ส. ดังนั้น เมื่อ น.ส.ปารีณา ได้รับคำสั่งให้หยุดปฏิบัติหน้าที่ จึงไม่อาจปฏิบัติหน้าที่เป็นกรรมาธิการได้ ส่วนกรณีที่ น.ส.ปารีณาขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยว่ากระบวนการยื่นคำร้องของ ป.ป.ช.ไม่ชอบด้วยรัฐธรรมนูญ เนื่องจากไม่ผ่านมติของคณะกรรมการ ป.ป.ช.นั้น ศาลเห็นว่า มิใช่บทบัญญัติที่ขัดหรือแย้งต่อรัฐธรรมนูญ จึงไม่ต้องส่งศาลวินิจฉัย จึงมีคำพิพากษา ยกคำร้อง

ขณะที่ นายทิวา การกระสัง ทนายความของ น.ส.ปารีณา กล่าวว่า กรณีที่ศาลระบุว่า น.ส.ปารีณา ไม่อาจปฏิบัติหน้าที่กรรมาธิการได้นั้น ถือเป็นบรรทัดฐานใหม่ เนื่องจากที่ผ่านมาไม่เคยมีศาลชี้ขาดว่า ผู้ที่อยู่ระหว่างสั่งให้หยุดปฏิบัติหน้าที่ ไปเป็นกรรมาธิการไม่ได้ แต่กระบวนการแต่งตั้ง น.ส.ปารีณา เป็นกระบวนการโดยชอบด้วยกฎหมาย ซึ่งมีการเสนอชื่อผ่านสภาฯและได้รับความเห็นชอบ โดย น.ส.ปารีณา ไม่ได้เข้าไปเป็นเอง ดังนั้น จึงไม่ส่งผลทำให้งบประมาณรายจ่ายปี 2565 ต้องเป็นโมฆะและไม่ผูกพันใดๆ เป็นเพียงแค่การสร้างบรรทัดฐานใหม่เท่านั้น แต่หากมีข้อสงสัยในประเด็นนี้ ควรจะมีการยื่นให้ศาลรัฐธรรมนูญชี้ขาดเพื่อความชัดเจน เพราะคำวินิจฉัยของศาลฎีกาไม่ได้ผูกพันทุกองค์กร รวมถึงรัฐสภา

ขณะที่ น.ส.ปารีณา ยืนยันว่า เคารพการตัดสินใจของศาล ส่วนจะส่งผลต่อการหาเสียงเลือกตั้งหรือไม่นั้น ยืนยันว่า ไม่กังวล เพราะระหว่างที่ตนหยุดปฏิบัติหน้าที่ ก็ยังลงพื้นที่อย่างต่อเนื่อง

แสดงความเห็น