![D2969C26-CA80-4B30-AE51-6FDF0B1BC36E](https://theagendathai.com/wp-content/uploads/2021/11/D2969C26-CA80-4B30-AE51-6FDF0B1BC36E-696x391.jpeg)
![](https://theagendathai.com/images/728.jpg)
รมว.ยุติธรรม เปิดหลักสูตร วทน.รุ่นแรก ขอทนายความช่วยเหลือ-เป็นที่พึ่งให้ชาวบ้านที่เดือดร้อน ไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง ตามนโยบายนายกฯ หวังเปลี่ยนกระทรวงกฎหมายให้เป็นกระทรวงสังคม บริการเข้าถึงประชาชนทุกพื้นที่
ที่สภาทนายความในพระบรมราชูปถัมภ์ นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม เป็นประธานพิธีเปิดวิทยาลัยทนายความ และเปิดอบรมหลักสูตร “การบริการเชิงนิติศาสตร์ระดับสูง” (วทน.) รุ่นที่ 1 โดยมี ว่าที่ ร.ต. ถวัลย์ รุยาพร นายกสภาทนายความ พร้อมผู้บริหารและผู้เข้าอบรม 50 คนร่วมงาน
นายสมศักดิ์ กล่าวเปิดงานและปาฐกถาพิเศษ หัวข้อ “กฎหมายกับการพัฒนาประเทศ” ว่า ต้องยอมรับว่า กฎหมายคือเรื่องสำคัญที่ชาวไทยทุกคนต้องเดินตามกรอบ ตามระเบียบของกฎหมาย ไม่มีใครมีอำนาจอยู่เหนือกฎหมาย ในฐานะที่ตนเป็น รมว.ยุติธรรม แต่ไม่ได้จบทางด้านกฎหมาย สิ่งเดียวที่มีคือ ความมุ่งมั่น ที่จะทำงาน ค้นคว้า และคิดบูรณาการ ให้กระทรวงยุติธรรม เข้าถึงพี่น้องประชาชนให้ได้ ตนต้องการเปลี่ยนกระทรวงนี้เป็นกระทรวงสังคมไม่ใช่กระทรวงกฎหมาย อย่างที่ประชาชนเข้าใจแบบที่ผ่านมา นโยบายแรก ๆ ที่ตนได้ดำเนินการเมื่อมารับตำแหน่งก็ยังไม่ใช่เรื่องของกฎหมาย แต่เป็นเรื่องการมองเห็นปัญหาผู้ต้องขังล้นเรือนจำ เพราะมีมากถึง 390,000 คน ส่วนพื้นที่นอนของพวกเขามีแค่ 0.7 ตารางเมตร มองดูแล้วทำให้รู้สึกว่า เล็กกว่าโลงศพเสียอีก ตนจึงเร่งบูรณาการหาเทคโนโลยีมาใช้ พร้อมฝึกอาชีพ หางานรองรับ ให้พวกเขาออกมามีงานมีเงินเลี้ยงตัวเองและครอบครัว เพราะตนไม่อยากเห็นใครหวนกระทำผิดซ้ำอีก ตนใช้เวลาเพียงปีกว่าๆ สามารถลดจำนวนนักโทษได้กว่า 100,000 คน และโดยเฉลี่ยผู้ต้องขังก็มีพื้นที่นอนถึง 1.2 ตารางเมตร ส่วนข้อดีอีกอย่างของการปล่อยผู้ต้องขัง คือช่วยประหยัดงบประมาณชาติได้ต่อหัว 21,000 บาท รวมๆ แล้วมากถึง 2,100 ล้านบาท
![](https://theagendathai.com/wp-content/uploads/2021/11/50E58E6F-6BB4-4B34-8FCD-0A1AC78E2AF0-1024x682.jpeg)
![](https://theagendathai.com/wp-content/uploads/2021/11/2AE44A8B-1620-4B0D-BA94-55C27C73494F-1024x682.jpeg)
นายสมศักดิ์ กล่าวว่า เมื่อพูดถึงตัวบทกฎหมายการทำงานของตน ยึดประโยชน์กฎหมายเพื่อสังคมและประชาชนเป็นหลัก ซึ่งจนถึงเวลานี้ผมได้เสนอกฎหมายทั้งหมด 10 ฉบับ มีกฎหมายที่สำเร็จ ประกาศใช้แล้ว 4 ฉบับ ฉบับแรกคือ พ.ร.บ.ยาเสพติดให้โทษ (ฉบับที่ 8) พ.ศ. 2564 หรือกฎหมายปลดล็อกพืชกระท่อม อีกส่วนคือ ประมวลกฎหมายยาเสพติด ที่จะมีผลบังคับใช้ในวันที่ 9 ธ.ค. เราได้บูรณาการขึ้นมาเพื่อปราบปรามยาเสพติดให้หมดสิ้น และปรับให้ศาลใช้ดุลพินิจในการตัดสินคดี ลงโทษตามเหตุและผล นอกจากนี้ยังมีร่างกฎหมายที่อยู่ในขั้นตอนการพิจารณาของสภาผู้แทนราษฎรหรือรัฐสภาและวุฒิสภา มี 4 ฉบับ คือ 1. ร่างพ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการทรมานและการกระทำให้บุคคลสูญหาย ร่างพ.ร.บ.คุ้มครองพยานในคดีอาญา ร่างพ.ร.บ.แก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญา เพิ่มเกณฑ์อายุเด็กในกรณีที่เด็กกระทำความผิดอาญา และร่างพ.ร.บ.พืชกระท่อม และ ส่วนสุดท้ายร่างกฎหมายที่อยู่ในขั้นตอนพิจารณาของสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา มี 2 ฉบับ ได้แก่ ร่างพ.ร.บ.ป้องกันการกระทำความผิดซ้ำของผู้กระทำความผิดอุกฉกรรจ์ ที่ใช้ความรุนแรง เป็นกฎหมายที่จะสร้างให้สังคมมีความปลอดภัย เพราะผมไม่ต้องการให้คนที่ก่อคดีสะเทือนขวัญออกมาทำร้ายญาติพี่น้องใครอีก และร่างพ.ร.บ.ล้มละลาย
![](https://theagendathai.com/wp-content/uploads/2021/11/0AE496BC-7B41-4D6A-959C-63677706FEE0-1024x682.jpeg)
“ผมขอยืนยันว่าการทำหน้าที่ รมว.ยุติธรรม ไม่ว่าจะเป็นการบริการ การช่วยเหลือประชาชน การออกกฎหมายต่างๆ จะยึดประโยชน์ประชาชนเป็นที่ตั้ง การมาบรรยายที่สภาทนายความวันนี้ ผมอยากเห็นสภาทนายความเป็นองค์ความรู้ เพิ่มความสามารถ เพิ่มบทบาทหน้าที่ของทนายความในกระบวนการยุติธรรม ส่งเสริมให้มีความรู้ทางวิชาการระดับโลก ค้นคว้าศึกษาเทคโนโลยีให้เข้าถึงข้อมูล เมื่อได้มาแล้วขอให้นำความรู้ความสามารถ ความภาคภูมิใจต่างๆ กลับไปบริการให้คำปรึกษาแก่ประชาชน ช่วยเหลือประชาชนอย่างสุดความสามารถ แม้บุคคลนั้นจะมีรายได้มากหรือรายได้น้อยก็ตาม เราจะไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง ตามคำพูดของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ขอให้ทุกท่านใช้ความรู้ที่มีเพื่อสังคมและประเทศชาติ ให้สมกับเกียรติยศและความภาคภูมิใจตลอดไป” นายสมศักดิ์ กล่าว
แสดงความเห็น
![](https://theagendathai.com/images/728.jpg)