‘โอ่ง-วิดมาร์’ ระบบโค้ชแบบ ‘บีจีสไตล์’

DST.Special Report : ทำเอางงงวยกันไปเป็นแถบๆ หลัง ‘เดอะ แรบบิท’ บีจี ปทุม ยูไนเต็ด ประกาศแต่งตั้ง ‘โค้ชโอ่ง’ ดุสิต เฉลิมแสน ที่เพิ่งขอแยกทางกับการท่าเรือ เอฟซี คัมแบ็กกลับมาเฮดโค้ชอีกครั้ง

ขณะเดียวกัน ยังขยับ ‘ออเรลิโอ วิดมาร์’ กุนซือชาวออสเตรเลีย ไปเป็นประธานเทคนิคของทีม เพียงแต่ ‘วิดมาร์’ ปฏิเสธไม่ขอรับเก้าอี้ อ้างว่า จะขอกลับไปพักผ่อนที่บ้านเกิด

แต่ใครๆ ต่างก็รู้ ว่า ‘วิดมาร์’ ไม่ได้อยากพักผ่อน แต่แท้จริงแล้ว เขาไม่ได้ต้องการรับเก้าอี้ที่ชื่อดูดี ดูเก๋ แต่ไม่มีบทบาทข้างสนาม

พูดกันตรงๆ มันเหมือนโดนถูกเขยื้อนเพื่อเปิดทางให้คนอื่นมาแทนที่มากกว่า

และจะว่าไป ‘วิดมาร์’ ไม่ได้ล้มเหลวใดๆ กับการลมหวน คืนสู่คลองสามในคำรบนี้ เพราะเขาคือ คนที่พา ‘เดอะแรบบิท’ทะยานเข้าสู่รอบน็อกเอาต์ 16 ทีมสุดท้าย ในรายการเอเอฟซี แชมเปี้ยนส์ลีก 

เขาถูกบีจีดึงกลับมา เพื่อต้องการใช้มันสมองในรายการระดับเอเชีย ดังนั้น การผ่านรอบแบ่งกลุ่มไปได้ ด้วยผลงานที่เยี่ยมยอด จึงไม่ถือว่า ล้มเหลว

ขณะที่ฟุตบอลลีก ‘วิดมาร์’ ยืนข้างสนามสั่งการลูกทีมไป 12 นัด ชนะ 8 นัด เสมอ 2 นัด และแพ้ 2 นัด มี 26 คะแนน อยู่อันดับ 3 ตามหลังทรู แบงค็อก ยูไนเต็ด จ่าฝูง เพียง 3 คะแนนเท่านั้น

ถามว่า ขี้ริ้วขี้เหร่มั้ย? คำตอบคือ ไม่ เพราะแต้มที่หล่นหาย ส่วนหนึ่งมาจากการอาการบาดเจ็บของผู้เล่นตัวหลัก ที่เป็นระดับแบกในแนวรับ หรือระดับแบกในแนวรุก

ช่องว่าง 3 แต้มกับจ่าฝูง ไม่ถือว่า อัปลักษณ์เลย เพียงแต่ทรงบอลบางทีอาจจะขัดใจกับสาวกกระต่ายแก้วอยู่บ้างเท่านั้น ถือเป็นเรื่องปกติ

อย่างไรก็ดี หลายคนคงรู้สึกว่า ‘โค้ชโอ่ง’ เก่งกว่า ‘วิดมาร์’ เพราะฤดูกาลก่อน พาทีมคว้าแชมป์ด้วยการชนะ 24 นัด เสมอ 5 นัด และแพ้เพียงนัดเดียวเท่านั้น

แต่นั่นมันคือ ฤดูกาลก่อน ที่บีจี ปทุม ยูไนเต็ด ดูจะมีความกระหายใคร่ชนะเพื่อคว้าแชมป์มากกว่าปีนี้ ขณะที่ปีนี้เองทีมอื่นๆ ก็เสริมทัพ ขยับตัวผู้เล่น เพื่อต้องการโค่นแชมป์เก่าลง ดังนั้น มันไม่เหมือนกัน

ขณะที่การคุมการท่าเรือ เอฟซี ของ ‘โค้ชโอ่ง’ ในฤดูกาลนี้ แข่งไปแล้ว 13 นัด ชนะ 6 นัด เสมอ 3 นัด และแพ้ไปถึง 4 นัด วัดผลงานเทียบกับความคาดหวัง ถือว่า ทำได้น่าผิดหวัง

ทรัพยากรในถิ่นนักเลงคลองเตย อุดมไปด้วยแข้งไทยและแข้งต่างชาติระดับแถวหน้า มีให้ ‘โค้ชโอ่ง’ พิจารณาเลือกลงเป็นตัวจริงได้สบาย

แต่สิ่งที่เกิดขึ้นคือ การไม่มีอะไรเกิดขึ้น เมื่อเทียบกับโค้ชคนก่อนๆ ที่แยกทางกันไปก่อนหน้านี้

ท่าเรือ ยังเป็น ท่าเรือ ทีมเดิม ที่ไม่ว่าจะปรับเสริมเติมแต่งอย่างไร แต่มันต้องเจอปัญหาเก่าๆ อีก คือ ไม่สามารถเป็นทีมใหญ่ที่กดให้ทีมเล็กผวาหรือฝ่อลงได้เลย

ปัญหาตอนนี้ที่ทุกคนสงสัยคือ เพราะท่าเรือไม่ให้อิสระ ‘โค้ชโอ่ง’ ผลงานจึงมาเป็นแบบนี้ หรือเพราะ ‘โค้ชโอ่ง’ ทำประสบความสำเร็จได้เฉพาะบางที่เท่านั้น

แน่นอน นักเตะบีจีชุดปัจจุบันคุ้นเคยกับ ‘โค้ชโอ่ง’ ดี มันจึงไม่ต้องคุยกันมาก รู้มือ รู้สไตล์กันอยู่แล้ว แต่จะทำได้เหมือนปีก่อนหรือไม่ ตรงนี้น่าสนใจ

หากแย่กับ การท่าเรือ แต่กลับมาดีกับบีจี อันนี้ ท่าเรือ น่าจะมองเห็นปัญหา

แต่หากไม่ได้ดีกว่า ‘วิดมาร์’ ที่บีจี สุดท้ายด้วยความเป็นสโมสรขนาดใหญ่ ‘โค้ชโอ่ง’ ก็อาจจะสุ่มเสี่ยงได้ขยับอีก

แล้วคนที่มาแทน ก็อาจจะสาละวนกันอยู่ในหมู่คนคุ้นเคย ที่บีจีชอบใช้ระบบนี้ ไม่ว่าจะเป็น ‘โค้ชง้วน’ สุรชัย จตุรภัทรพงษ์ ‘โค้ชจุ่น’ อนุรักษ์ ศรีเกิด ‘น้าอำ’ อำนาจ แก้วเขียว ‘บอย’ ศุภชัย คมศิลป์ หรือแม้แต่ ‘วิดมาร์’ ก็ยังเคยคุมมาแล้วสองรอบ

คือ ใช้ระบบนี้จนเราเดาออกกันแล้ว.

_________
เรียบเรียงโดย : วนิลาสกาย
ขอบคุณภาพ : BG Pathum United

แสดงความเห็น