น.ส.ณัฐธ์ภัสส์ ยงใจยุทธ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงยุติธรรม กล่าวบรรยายในหัวข้อ มุมมองของผู้หญิงกับการเฝ้าระวังการกระทำผิดซ้ำจากปัญหาอาชญากรรมสะเทือนขวัญ ในงานสัมมนาเชิงปฏิบัติการ เรื่อง การพัฒนาระบบเฝ้าระวังการกระทำผิดซ้ำเพื่อความปลอดภัยในชุมชน ครั้งที่1 ให้กับตัวแทนพื้นที่จังหวัดสุโขทัย ซึ่งจัดโดยกรมคุมประพฤติ กระทรวงยุติธรรม ว่า ปัจจุบันปัญหาอาชญากรรมมีแนวโน้มเพิ่มมากขึ้น และกลุ่มคนเปราะบาง เช่น ผู้หญิง และเด็ก มักตกเป็นเหยื่อของการคุกคามทางเพศ และตกเป็นผู้เสียหายในคดีข่มขืนหรือพรากผู้เยาว์ ส่วนหนึ่งเป็นเพราะผู้หญิง หรือเด็ก เป็นกลุ่มคนที่อ่อนแอด้านร่างกาย มีความสามารถต่อการปกป้องตนเองระดับต่ำ
“สำหรับปัญหาการถูกคุกคามทางเพศที่เกิดขึ้นสร้างความเสียหายทั้งทางร่างกายและจิตใจ รวมถึงกระทบต่อสถานะทางสังคม ชื่อเสียง และตำแหน่งทางสังคม จากข่าวที่ปรากฏตามสื่อต่างๆ จะพบว่าผู้ที่ตกเป็นเหยื่อคดีข่มขืน ไม่กล้าแจ้งความดำเนินคดี เพราะกังวลว่าสังคมจะตีตราว่าไม่บริสุทธิ์ ขณะที่ภัยคุกคามกับผู้หญิงและเด็กยังคงปรากฏเป็นข่าวสะเทือนใจรายวันจากคนใกล้ชิดหรือคนที่อยู่ร่วมในชุมชนเดียวกัน” น.ส.ณัฐธ์ภัสส์ กล่าว
ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงยุติธรรม กล่าวด้วยว่า การป้องกันภัยคุกคามกลุ่มเปราะบางส่วนตัวมองเชื่อว่าหากชุมชนรวมพลังและรวมตัวสร้างความเข้มแข็งมีกลไกเฝ้าระวังการกระทำผิดซ้ำในชุมชน อย่างเป็นรูปธรรม และดำเนินการตามแนวทางที่นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รมว.ยุติธรรม ให้แนวทางการเฝ้าระวังความปลอดภัยให้กับประชาชน เชื่อว่าจะสร้างหลักประกันความปลอดภัยให้กลุ่มเปราะบางได้ นอกจากนั้นกระทรวงยุติธรรม โดยกรมคุมประพฤติอยู่ระหว่างการผลักดันร่างกฎหมายป้องกันการกระทำผิดซ้ำในคดีอุกฉกรรจ์ที่ใช้ความรุนแรง จึงเชื่อว่าหากทำกฎหมายให้สำเร็จได้จะเป็นเครื่องมือเสริมความเข้มแข็งให้กับภาคประชาสังคมเพื่อร่วมมือสร้างสังคมที่ปลอดภัยให้กับกลุ่มเปราะบาง รวมถึงคนทุกวัย ทุกกลุ่มในสังคม และลดคดีข่มขืนหรือพรากผู้เยาว์ได้