กรมพินิจฯ เผยยังไม่พบเยาวชน-เจ้าหน้าที่ติดโควิด

กรมพินิจฯ เผย ยังไม่พบเยาวชน-เจ้าหน้าที่ติดโควิด มั่นใจระบบแยกกักตัวเด็กใหม่ พร้อมดูแลความเป็นอยู่ตามสถานการณ์อย่างดี  

พ.ต.ท.วรรณพงษ์ คชรักษ์ อธิบดีกรมพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชน  เปิดเผยว่า กรมพินิจฯได้มีการเก็บข้อมูลและรายงานสถานการณ์สถิติผู้ติดเชื้อโควิดในกรมพินิจฯรายวัน โดยปัจจุบันยังไม่พบการติดเชื้อในเด็กและเยาวชนรวมทั้งเจ้าหน้าที่ ซึ่งสถิติประจำวันที่ 18 พฤษภาคม 2564 (ข้อมูล ณ วันที่ 18 พ.ค. 64 เวลา 14.00 น.) มียอดควบคุมตัวเยาวชนอยู่ที่ 4,013 ราย กักตัว 460 ราย รวมควบคุมทั้งสิ้น 4,473 ราย ส่วนเจ้าหน้าที่มีจำนวนทั้งสิ้น 4,200 ราย อยู่ระหว่างกักตัว 5 ราย และได้รับการฉีดวัคซีนแล้ว จำนวน 462 ราย ขณะที่เด็กและเยาวชนยังไม่มีผู้ใดได้รับการฉีดวัคซีน อีกส่วนที่สำคัญคือการบริหารจัดการเจ้าหน้าที่ ซึ่งมีความเสี่ยงมากที่สุดในการเป็นพาหะนำเชื้อเข้ามา เพราะเจ้าหน้าที่มีการเข้าออกในสถานที่ควบคุม จึงเน้นย้ำให้ทุกคนป้องกันดูแลตัวเองอย่างเคร่งครัด ต้องมีวินัยการ์ดห้ามตก เพราะพฤติกรรมที่ปฏิบัติเป็นประจำหลังเลิกงานอาจมีความสุ่มเสี่ยง โดยเฉพาะในพื้นที่สีแดงเข้ม 4 จังหวัด

“กรมพินิจฯได้รับชื่นชมจากคณะแพทย์และกรมควบคุมโรคหลังการหารือร่วม ถึงการบริหารจัดการว่ามีการดูแลเจ้าหน้าที่และเด็ก ๆ เป็นอย่างดี มีการปรับแผนตามสถานการณ์ที่เหมาะสม โดยคณะแพทย์ได้แนะนำให้เน้นเรื่องกินอยู่หลับนอน การเว้นระยะห่างในโรงอาหาร การตักอาหารโดยลดการสัมผัส การเว้นระยะห่างในหอนอน รวมทั้งแยกเด็กกลุ่มเสี่ยง เช่น เด็กที่มีโรคอ้วน เบาหวาน ความดัน หรือมีโรคประจำตัว เพราะกลุ่มนี้จะมีการติดเชื้อได้ง่ายและหายยาก” พ.ต.ท.วรรณพงษ์ กล่าว 

พ.ต.ท.วรรณพงษ์ เปิดเผยอีกว่า หน่วยงานในสังกัดกรมพินิจฯ มีพยาบาลวิชาชีพ และพนักงานพินิจที่ดูแลเด็กและเยาวชนทั่วทุกแห่ง และได้มีการดำเนินการบริหารจัดการพื้นที่ เช่น การแยกห้องกักตัวสำหรับเด็กรับใหม่ และการดำเนินการตามมาตรการต่าง ๆ ทั้งในส่วนของเด็กและเยาวชน เจ้าหน้าที่ ผู้มาติดต่อราชการ และด้านอาคารสถานที่ให้มีความปลอดภัยจากโควิด อีกทั้งสั่งให้หน่วยงานในสังกัดทุกจังหวัดเตรียมพื้นที่จัดตั้งโรงพยาบาลสนาม ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการประสานงานกับ สสจ.

“ขณะนี้กำลังใจคือสิ่งสำคัญสุด เพราะขณะนี้เจ้าหน้าที่ปฏิบัติหน้าที่อย่างแข็งขัน และตั้งการ์ดสุดกำลัง จนบางท่านอาจเกิดความเครียดและท้อ จึงขอเป็นกำลังใจให้กับทุกท่านที่ทำงานเพื่อเด็กและเยาวชนทุกคน ฝากเน้นย้ำให้นำเทคโนโลยีมาใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุด ทั้งในเรื่องของการสื่อสาร และการทำงานแบบไม่ใช้เอกสารหรือกระดาษ เพื่อลดขั้นตอนและเพื่อให้การทำงานสะดวกรวดเร็วและมีประสิทธิภาพมากขึ้น” พ.ต.ท. วรรณพงษ์ กล่าว

แสดงความเห็น