กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) รายงานตั้งแต่วันที่ 31 มี.ค. 64-ปัจจุบัน เกิดพายุฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรงลูกเห็บตก และน้ำป่าไหลหลากในพื้นที่ 53 จังหวัด รวม 274 อำเภอ 688 ตำบล 1,724 หมู่บ้าน 2 เทศบาลเมือง บ้านเรือนประชาชนเสียหาย 10,237 หลัง วัด 4 แห่ง รวมถึง กทม. 1 เขต 1 แขวง ผู้เสียชีวิต 3 ราย ผู้บาดเจ็บ 10 ราย ปัจจุบันสถานการณ์คลี่คลายแล้วทุกจังหวัดซึ่ง ปภ. ได้ร่วมกับจังหวัดและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ลงพื้นที่สำรวจความเสียหายและให้การช่วยเหลือผู้ประสบภัยในเบื้องต้นแล้ว
กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ในฐานะกองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยกลาง (กอปภ.ก.) รายงานหย่อมความกดอากาศต่ำบริเวณอ่าวเบงกอลตอนล่างเคลื่อนเข้าสู่บริเวณทะเลอันดามันประกอบกับลมตะวันตกเฉียงใต้ ที่พัดปกคลุมภาคใต้ฝั่งตะวันตกและทะเลอันดามันมีกำลังแรงขึ้นทำให้มีฝนตกเพิ่มขึ้นและฝนตกหนักบางพื้นที่ ในห้วงวันที่ 31 มีนาคม 2564-ปัจจุบัน (17 เมษายน 2564 เวลา 06.00 น.) ส่งผลให้เกิดพายุฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรง ลูกเห็บตกและน้ำป่าไหลหลากในพื้นที่ 53 จังหวัด รวม 274 อำเภอ 688 ตำบล 1,724 หมู่บ้าน 2 เทศบาลเมือง บ้านเรือนประชาชนเสียหาย 10,237 หลัง วัด 4 แห่ง รวมถึงกรุงเทพมหานคร 1 เขต 1 แขวง ผู้เสียชีวิต 3 ราย (น่าน 1 ราย มหาสารคาม 1 ราย และเลย 1 ราย) ผู้บาดเจ็บ 10 ราย (น่าน 1 ราย สุรินทร์ 4 ราย พิจิตร 1 ราย เชียงใหม่ 1 ราย เลย 1 ราย และสกลนคร 2 ราย) แยกเป็น
ภาคเหนือ 15 จังหวัด ได้แก่ เชียงราย เชียงใหม่ แม่ฮ่องสอน อุตรดิตถ์ พะเยา แพร่ น่าน ลำปาง ลำพูน ตาก สุโขทัย พิษณุโลก พิจิตร กำแพงเพชร และเพชรบูรณ์ รวม 85 อำเภอ 254 ตำบล 851 หมู่บ้าน บ้านเรือนประชาชนเสียหาย 6,483 หลัง ผู้เสียชีวิต 1 ราย ผู้บาดเจ็บ 3 ราย
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 18 จังหวัด ได้แก่ บึงกาฬ นครพนม เลย อุดรธานี สกลนคร กาฬสินธุ์ หนองบัวลำภู ขอนแก่น ชัยภูมิ มหาสารคาม ร้อยเอ็ด ยโสธร สุรินทร์ มุกดาหาร อุบลราชธานี ศรีสะเกษ บุรีรัมย์ และนครราชสีมา รวม 116 อำเภอ 262 ตำบล 493 หมู่บ้าน 1 เทศบาลเมือง บ้านเรือนประชาชนเสียหาย 2,161 หลัง ผู้เสียชีวิต 2 ราย ผู้บาดเจ็บ 7 ราย
ภาคกลาง 12 จังหวัด ได้แก่ นครสวรรค์ อุทัยธานี ชัยนาท ลพบุรี สิงห์บุรี สระบุรี อ่างทอง พระนครศรีอยุธยา ปทุมธานี สมุทรปราการ สมุทรสาคร และราชบุรี รวม 56 อำเภอ 138 ตำบล 300 หมู่บ้าน บ้านเรือนประชาชนเสียหาย 1,335 หลัง วัด 2 แห่ง
ภาคตะวันออก 6 จังหวัด ได้แก่ ระยอง จันทบุรี สระแก้ว ชลบุรี ปราจีนบุรี และฉะเชิงเทรา รวม 15 อำเภอ 32 ตำบล 78 หมู่บ้าน บ้านเรือนประชาชนเสียหาย 201 หลัง
ภาคใต้ 2 จังหวัด ได้แก่ ภูเก็ต และสุราษฎร์ธานี รวม 2 อำเภอ 1 ตำบล 1 หมู่บ้าน 1 เขตเทศบาล บ้านเรือนประชาชนเสียหาย 57 หลัง
ปัจจุบันสถานการณ์คลี่คลายแล้วทุกจังหวัด ซึ่งกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยได้ประสานจังหวัดองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งให้การช่วยเหลือผู้ประสบภัย โดยสำรวจและประเมินความเสียหายเพื่อดำเนินการช่วยเหลือตามระเบียบกระทรวงการคลังทั้งการชดเชยความเสียหายของบ้านเรือนเป็นวัสดุก่อสร้างหรือจ่ายเงินช่วยเหลือตามความเหมาะสม ท้ายนี้ ประชาชนสามารถแจ้งเหตุและขอความช่วยเหลือทางไลน์ “ปภ.รับแจ้งเหตุ1784” โดยเพิ่มเพื่อน Line ID @1784DDPM และสายด่วนนิรภัย 1784 ตลอด 24 ชั่วโมง รวมถึงสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดเพื่อประสานให้การช่วยเหลือโดยด่วนต่อไป