ยธ. เผย 7 วันรู้ผลสอบข้อเท็จจริง ปม ราชทัณฑ์เข้าไปตรวจโควิดกลางดึก

ปลัดกระทรวงยุติธรรม ระบุ ภายใน 7 วัน ทราบผลการตรวจสอบข้อเท็จจริง กรณี กรมราชทัณฑ์เข้าไปตรวจโควิดกลางดึก ยัน ดูแลผู้ต้องขังทุกคนอย่างปลอดภัยตามมาตรฐานสากล เตรียมปรับแนวทางการตรวจโควิดให้ถูกต้องเหมาะสมขึ้น

นายวิศิษฏ์ วิศิษฏ์สรอรรถ ปลัดกระทรวงยุติธรรม แถลงชี้แจง หลังการจัดตั้งคณะกรรมการประมวลข้อเท็จจริงในการดำเนินงานของกรมราชทัณฑ์จากกรณีที่นายอานนท์ นำภา หนึ่งในแกนนำราษฎรที่ถูกคุมขังในเรือนจำ เขียนคำร้องถึงศาล เกรงถึงความไม่ปลอดภัยหลังเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์อ้างว่าเข้าไปตรวจโควิด-19 กลางดึก ว่าได้ตั้งคณะกรรมการขึ้นมาเพื่อประมวลข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น โดยมี นายวัลลภ นาคบัว รองปลัด​กระทรวงยุติธรรม​ เป็นประธาน 

โดยกรณีที่มีการกล่าวหาและเกิดความรู้สึกไม่ดีต่อกรมราชทัณฑ์นั้น ทางกรมราชทัณฑ์ได้ชี้แจงแล้ว ส่วนข้อกล่าวหาในลักษณะกังวลว่าอาจจะมีการถูกทำร้ายร่างกายและเป็นการดำเนินการไม่เหมาะสมในยามวิกาลนั้น ก็จะต้องประมวลข้อมูลการปฏิบัติ และหน่วยบังคับบัญชา ว่าข้อเท็จจริงเป็นอย่างไร เพราะกระบวนการต่างๆ มีพยานหลักฐาน เอกสาร สามารถตรวจสอบได้ ตามที่กรมราชทัณฑ์มีแนวทางปฏิบัติไว้อยู่แล้ว ซึ่งยืนยันว่า มีการบันทึกข้อมูลและส่งให้หน่วยงานกระบวนการยุติธรรมช่วยตรวจสอบ และไม่ได้ต้องการจะปกปิดข้อมูล

ทั้งนี้หากมองว่า กระบวนการที่ทำในเวลากลางคืนถูกต้องหรือไม่ เป็นไปตามแนวทางปฏิบัติของกรมราชทัณฑ์ หรือ sop มากน้อยเพียงใดนั้น ก็ได้เสนอแนะในคณะกรรมการฯให้ไปทบทวนการตรวจโควิด ว่าควรจะต้องทำอย่างไรให้ทุกคนรู้สึกถูกต้องเหมาะสม   และเกิดความพอใจ โปร่งใส แต่มาตรการป้องกันโควิด กรมราชทัณฑ์ยืนยันมาตลอดว่าจะต้องดำเนินการป้องกันไม่ให้เกิดขึ้นภายในราชทัณฑ์ จึงเป็นสิ่งสำคัญในการดูแลคนหมู่มาก คาดว่าจะใช้ระยะเวลา 7 วันในการตรวจสอบข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น

ส่วนในหลักการปฏิบัติ ในการดูแลผู้ต้องขังแกนนำกลุ่มราษฎรนั้นก็ดูแลตามปกติไม่ได้เพิ่มใดๆเป็นพิเศษ เพราะจะต้องดูแลทุกคนให้ปลอดภัย ให้เป็นไปตามมาตรฐานของเรือนจำ ตามหลักการสากล ยกเว้นหากมีข้อจำกัดบางประการในคนหมู่มากก็จะต้องดูแลเป็นพิเศษ

แสดงความเห็น