![660848AB-EB0C-4083-BB72-0BC337477C4A](https://theagendathai.com/wp-content/uploads/2021/03/660848AB-EB0C-4083-BB72-0BC337477C4A-696x392.jpeg)
![](https://theagendathai.com/images/728.jpg)
รมว.ยุติธรรม เปิดประชุม UN Crime Congress ถกกรอบการป้องกันอาชญากรรม-ความยุติธรรมทางอาญา “สมศักดิ์” หวังขจัดอาชญากรรมข้ามชาติ-ไซเบอร์ ลดปัญหายาเสพติด-ค้ามนุษย์ ให้ทุกคนเข้าถึงทรัพยากร-หลักนิติธรรมอย่างเท่าเทียม
ที่อาคารกระทรวงยุติธรรม นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม เป็นประธานพิธีเปิดการประชุมสหประชาชาติว่าด้วยการป้องกันอาชญากรรมและความยุติธรรมทางอาญา (UN Crime Congress) สมัยที่ 14 โดยคณะผู้แทนไทย ซึ่งการประชุมจัดขึ้นระหว่างวันที่ 7 – 12 มีนาคม 2564 ที่ เกียวโต ประเทศญี่ปุ่น ในรูปแบบผสม โดยมีศาสตราจารย์พิเศษวิศิษฏ์ วิศิษฏ์สรอรรถ ปลัดกระทรวงยุติธรรม ผู้แทนกระทรวงการต่างประเทศ ผู้แทนสำนักงานอัยการสูงสุด ผู้แทนสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ผู้แทนสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ ผู้แทนสถาบันเพื่อการยุติธรรมแห่งประเทศไทย (องค์การมหาชน) ผู้แทนสำนักงานศาลยุติธรรม ผู้แทนสำนักงานสภาความมั่นคงแห่งชาติ ผู้แทนกระทรวงสาธารณสุข ผู้แทนสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ ผู้แทนหน่วยงานต่างๆในกระทรวงยุติธรรม ผู้แทนกองพัฒนานวัตกรรมการยุติธรรม สำนักงานปลัดกระทรวงยุติธรรม ผู้แทนสำนักงานว่าด้วยยาเสพติดและอาชญากรรมแห่งสหประชาชาติ (UNODC) และผู้แทนสถานเอกอัครราชทูตญี่ปุ่นประจำประเทศไทย ร่วมประชุม
![](https://theagendathai.com/wp-content/uploads/2021/03/A951F818-066F-48EB-9296-766FB1073503-1024x683.jpeg)
นายสมศักดิ์ กล่าวเปิดการประชุมว่า การประชุม UN Crime Congress ถือเป็นการประชุมที่สำคัญ เนื่องจากเป็นการประชุมระหว่างประเทศ ในกรอบการป้องกันอาชญากรรมและความยุติธรรมทางอาญาที่ใหญ่ที่สุด และดำเนินการจัดทุก ๆ 5 ปี แต่ด้วยสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ทำให้สหประชาชาติได้มีมติให้เลื่อนกำหนดการประชุมจากปี ค.ศ. 2020 มาเป็นปีนี้ ในฐานะรมว.ยุติธรรม ตนได้เน้นย้ำถึงความท้าทายที่สำคัญ 3 ประการ คือ 1.การจัดการด้านสาธารณสุขในเรือนจำ เนื่องจากผู้ต้องขังถือเป็นกลุ่มคนที่มีขีดจำกัดในการเข้าถึงทรัพยากรที่จำเป็นในการต้านโควิด19 โดยประเทศไทยเน้นย้ำแนวทางของข้อกำหนดแมนเดลา และข้อกำหนดกรุงเทพฯ เป็นหลักประกันที่จะสามารถทำให้ผู้ต้องขังสามารถเข้าถึงทรัพยากรและการบริการได้อย่างเท่าเทียม
![](https://theagendathai.com/wp-content/uploads/2021/03/F904BC5D-16E1-40B4-885E-5298095A5C3E-1024x683.jpeg)
นายสมศักดิ์ กล่าวว่า 2.ประเด็นอาชญากรรม ได้แก่ อาชญากรรมข้ามชาติ การก่อการร้าย อาชญากรรมทางคอมพิวเตอร์ ยาเสพติดและการค้ามนุษย์ ซึ่งโควิด 19 ถือเป็นปัจจัยและตัวเร่งให้เกิดรูปแบบอาชญากรรมแบบใหม่ คือการปลอมแปลงยาและอุปกรณ์ทางการแพทย์ โดยแต่ละประเทศจะต้องร่วมมือกันอย่างขันแข็ง เพราะอาชญากรรมสามารถมีจุดเกาะเกี่ยวเชื่อมโยงอย่างไม่มีที่สิ้นสุด 3.การส่งเสริมและเชิดชูหลักนิติธรรม ซึ่งโครงสร้างแห่งความยุติธรรมจะต้องมีความเป็นกลาง เท่าเทียมและไม่เลือกปฏิบัติ โดยจะต้องคำนึงถึงความเสมอภาคและสิทธิมนุษยชน ซึ่งทุกคนจะต้องร่วมกันสร้างยุคสมัยแห่งความรับผิดชอบ และสังคมแห่งการเคารพกฎกติกา สุดท้ายนี้ตนมองว่าการประชุมในครั้งนี้จะช่วยส่งเสริมการแลกเปลี่ยนความคิดเห็น และการบูรณาการความร่วมมือที่เป็นรูปธรรมระหว่างคณะผู้แทนไทย และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต่อไป
![](https://theagendathai.com/wp-content/uploads/2021/03/5E3C83E9-8648-4D84-9E09-BDBBFB5BF5C3-1024x683.jpeg)
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายสมศักดิ์ได้ร่วมกล่าวถ้อยแถลงในช่วงการประชุมระดับสูงผ่านการบันทึกวีดิโอ เมื่อวันที่ 7 มีนาคม 2564 เพื่อสะท้อนหัวข้อหลักของการประชุมในสมัยนี้ คือ การส่งเสริมการป้องกันอาชญากรรม ความยุติธรรมทางอาญา และหลักนิติธรรมเพื่อนำไปสู่การบรรลุเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน ค.ศ. 2030
แสดงความเห็น
![](https://theagendathai.com/images/728.jpg)