สมศักดิ์ ลงตรวจคลองขุดเชื่อมน้ำยม-น่าน ชี้อีก 4-5 เดือนเสร็จ ช่วยเติมความเขียวขจีแก้แห้งแล้งให้เกษตรกรสุโขทัย 20,000 ไร่ แถมช่วยระบายกันน้ำท่วมในฤดูฝน ประสานหน่วยงานรัฐช่วยชาวไร่ข้าวโพดหลังเสียหายจากพายุ 20 ตัน
ที่สำนักงานโครงการเพิ่มประสิทธิภาพการระบายน้ำคลองน้ำไหล ระยะที่ 2 (YN3) อ.พิชัย จ.อุตรดิตถ์ นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รมว.ยุติธรรม พร้อมด้วย นางพรรณสิริ กุลนาถศิริ ส.ส.สุโขทัย พรรคพลังประชารัฐ นายวิรุฬ พรรณเทวี ผู้ว่าราชการจังหวัดสุโขทัย นายมนู พุกประเสริฐ นายก อบจ.สุโขทัย ลงพื้นที่สำรวจและติดตามความคืบหน้าของโครงการขุดลอกคลองส่งน้ำ โดยมีเจ้าหน้าที่จากสำนักงานชลประทาน กำนัน ผู้ใหญ่บ้านและผู้นำชุมชน ร่วมลงพื้นที่ด้วย โดยโครงการดังกล่าวอยู่ภายใต้แผนงานโครงการป้องกันและบรรเทาภัยอันเกิดจากน้ำ มีระยะเวลาดำเนินงาน 1 ปี งบประมาณ 50 ล้านบาท ซึ่งอนุมัติจากที่ประชุม ครม.
นายสมศักดิ์ ให้สัมภาษณ์ว่า โครงการนี้เป็นการขุดคลองเชื่อมระหว่างแม่น้ำยมและแม่น้ำน่าน เพื่อเพิ่มศักยภาพการระบายน้ำในช่วงฤดูน้ำหลากซึ่งจะสามารถผันน้ำเพื่อระบายน้ำจากแม่น้ำยมสู่แม่น้ำน่านได้ และช่วยให้มีน้ำใช้ในฤดูแล้งโดยผันน้ำจากแม่น้ำน่านสู่แม่น้ำยม ครอบคลุมในพื้นที่ 3 จังหวัดได้แก่ อุตรดิตถ์ สุโขทัย และพิษณุโลก โดยจะสามารถช่วยพื้นที่เพาะปลูกในจ.สุโขทัยได้ถึง 20,000 ไร่ และจ.อุตรดิตถ์อีก 3 ตำบลที่ได้ผลเต็มๆ ซึ่งคาดว่าจะใช้เวลาดำเนินการอีก 4-5 เดือนจะเสร็จสมบูรณ์ไม่น่าจะเกินเดือน ก.ย. 2564 ซึ่งที่ผ่านมามีปัญหาเล็กน้อยในการเวนคืนที่ดิน ซึ่งทางชลประทานได้ทำความเข้าใจกับชาวบ้านและดำเนินการได้เรียบร้อยแล้ว
“โครงการนี้ได้รับการชี้แนะจากท่านนายกรัฐมนตรี และเร่งผ่านงบประมาณเพื่อช่วยเหลือชาวบ้านที่เดือดร้อน เมื่อโครงการนี้เสร็จจะช่วยให้พื้นที่ที่คลองนี้พาดผ่าน อุดมสมบูรณ์เขียวขจีมากขึ้น เติมเต็มน้ำให้กับเกษตรกร แก้ไขปัญหาความแห้งแล้งที่มีมานาน และยังสามารถแก้ปัญหาน้ำท่วมในฤดูน้ำหลากได้อีกด้วย ซึ่งจะเป็นการบูรณาการร่วมกันของสำนักงานชลประทานในเขตที่ติดต่อกัน ซึ่งจะแตกต่างจากที่ผ่านมาที่แต่ละเขตจะไม่ค่อยได้ประสานงานกัน” นายสมศักดิ์ กล่าว
นายสมศักดิ์ ระบุถึงกรณี น.ส.วิรัชยาภรณ์ นิลนนท์ ชาวอ.ศรีสำโรง จ.สุโขทัย ได้ไลฟ์ผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัวชื่อ “หญิงแกร่ง หัวใจเหล็ก” เชิญชวนให้พ่อค้าแม่ค้าและประชาชนทั่วไป มาช่วยกันซื้อข้าวโพด หลังถูกพายุฝนลูกเห็บกระหน่ำ จนต้นข้าวโพดล้มจมน้ำที่ขังว่า ในส่วนของผลผลิตทางการเกษตรที่ได้รับความเสียหายจากพายุเมื่อวันที่ 3 มี.ค. โดยเฉพาะข้าวโพดที่เสียหายรวมกว่า 20 ตัน ถ้าแดดออก น้ำยังท่วมขังก็จะเกิดการเน่า ตนได้ประสานงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อหาทางแก้ไขปัญหาให้เกษตรกรแล้ว โดยให้ช่วยรับซื้อเพื่อนำไปทำอาหารหรืออาหารว่างได้
แสดงความเห็น
