“สมศักดิ์” แจงเพิ่มเงินรายวันนักโทษ ยัน ไม่ได้ให้สิทธิพิเศษ “เพนกวิน” ทุกคนได้เหมือนกัน

“สมศักดิ์” แจงเพิ่มเงินรายวันนักโทษเป็น 600 บาทตั้งแต่ปีใหม่ตามมาตรการช่วงโควิด หากสถานการณ์ปกติปรับเป็น 300 ตามเดิม ไม่ได้ให้สิทธิพิเศษ “เพนกวิน” ทุกคนได้เหมือนกัน ยันไม่มีวีไอพีใช้โทรศัพท์ในคุก ย้ำ “พริษฐ์” ไม่ได้โพสต์เฟซบุ๊กเองแต่เขียนข้อความฝากเพื่อนไว้

นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม กล่าวถึงกรณีโซเชียลมีเดีย มีการนำบิลการซื้อของนายพริษฐ์ ชิวารักษ์ หรือ เพนกวิน ในเรือนจำได้วันละ 600 บาทมาเผยแพร่จนเกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์ว่า หลายคนยังเกิดความเข้าใจผิดคิดว่าผู้ต้องขังในเรือนจำสามารถซื้อของได้วันละ 300 บาท ซึ่งทางกรมราชทัณฑ์ได้มีการผ่อนปรนตามมาตรการจากสถานการณ์ ไวรัสโควิด-19 ที่ปัจจุบันมีการระบาดระลอกใหม่ตั้งแต่ช่วงเดือน ธ.ค.2563 ซึ่งเรามีมาตรการป้องกันทุกเรือนจำอย่างเข้มข้น เวลานี้การเยี่ยมญาติเราได้งด แต่ให้เยี่ยมผ่านการใช้แอปพลิเคชันไลน์แทน ซึ่งเราได้เพิ่มรอบให้มากขึ้นด้วย รวมถึงการฝากเงินผ่านระบบออนไลน์และเพิ่มการใช้เงินจาก 300 บาทเป็น 600 บาทต่อวัน ซึ่งมาตรการนี้เริ่มตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค. 2564 และเมื่อสถานการณ์ปกติเราจะปรับมาเป็น 300 บาทดังเดิมและจะมีการเปิดให้เยี่ยมญาติ ทั้งนี้มาตรการดังกล่าวเพื่อลดความเครียดของผู้ต้องขัง 

นายสมศักดิ์ กล่าวอีกว่า ส่วนกรณีที่ นายพริษฐ์ มีการใช้จ่ายเกิน 600 บาท เพราะว่า การเข้าสู่เรือนจำครั้งแรกจะมีการผ่อนปรนเล็กน้อยอาจจะซื้อได้มากหน่อย แต่ไม่ได้มากจนเกินไป เพราะเราไม่รู้ว่าระหว่างอยู่ที่ศาลได้กินข้าวแล้วหรือยัง ตนยืนยันว่า สิทธิดังกล่าวเป็นสิทธิที่ผู้ต้องขังทุกคนได้รับไม่มีการให้อภิสิทธิ์กับใครเป็นพิเศษ ส่วนกรณีที่เฟซบุ๊กของนายพริษฐ์ มีการโพสต์ข้อความและรูปภาพข้อความที่เขียนด้วยลายมือ ตนได้ให้เจ้าหน้าราชทัณฑ์ไปตรวจสอบและสอบถามกับนายพริษฐ์แล้ว เจ้าตัวยอมรับว่าเป็นการเขียนไว้ที่ศาลและไม่ได้โพสต์เอง โดยฝากไว้กับทนายและคนที่ไว้ใจช่วยถ่ายทอดให้ ยืนยันว่า ในเรือนจำไม่มีผู้ต้องขังนำโทรศัพท์เข้าไปได้ และไม่มีการอนุญาตให้ผู้ต้องขังคนใดใช้โทรศัพท์ เรามีการตรวจสอบอย่างเข้มข้น ไม่มีผู้ต้องขังวีไอพีหรือได้สิทธิเหนือกว่าคนอื่น ทุกคนอยู่ในมาตรฐานเดียวกัน และเราปฏิบัติต่อผู้ต้องขังทุกคนในมาตรฐานเดียวกัน

แสดงความเห็น