“สมศักดิ์” ชี้รบ.และปชช.ต้องช่วยกันแก้ปัญหายาเสพติด-ครอบครัวถือเป็นจุดเริ่มต้นเกราะป้องกัน ยันกำไล EM ช่วยลดนักโทษล้นคุก

การประชุมสภาผู้แทนราษฎร มีนายศุภชัย โพธิ์สุ รองประธานสภาฯคนที่ 2 เป็นประธานการประชุม วาระกระทู้ถามสดถามนายกรัฐมนตรี เรื่อง การแก้ไขปัญหายาเสพติด โดยนายณัฎฐ์นนน ศรีก่อเกื้อ ส.ส.สงขลา พรรคภูมิใจไทย ถามว่า หลังจากการแถลงนโยบายของรัฐบาล มีชาวบ้านสอบถามว่ารัฐบาลมีแนวทางการแก้ไขและปราบปรามยาเสพติดอย่างไร เพื่อให้ลูกหลานรอดพ้นยาเสพติด และหน่วยงานบำบัดยาเสพติดมีมาตรฐานหรือไม่ เพราะเคยมีคนเข้าสถานบำบัดแล้วเสียชีวิตรวมถึงต้องมีการจ่ายเงิน และเรือนจำต่างๆมีศักยภาพและมาตรฐานรับผู้ต้องขังได้หรือไม่

โดยนายสมศักดิ์ เทพสุทิน รมว.ยุติธรรม เป็นตัวแทนนายกฯ ตอบกระทู้ถามสด ระบุว่า ต้องขอบคุณสมาชิกที่เป็นห่วงประชาชนในเรื่องปัญหายาเสพติด การแก้ปัญหายาเสพติดนั้น หากเราจะพึ่งรัฐบาลอย่างเดียวคงแก้ปัญหาอย่างราบรื่นไม่ได้ การป้องกันนั้นสำคัญมาก ตนพึ่งเข้ามารับตำแหน่งรมว.ยุติธรรมระยะสั้นๆ แต่ได้เห็นปัญหาอันยิ่งใหญ่ นักโทษส่วนใหญ่ในเรือนจำเป็นนักโทษเกี่ยวกับยาเสพติด ดังนั้น หากเราไม่ร่วมมือกันการแก้ปัญหาคงไม่ราบรื่น ซึ่งแนวทางสำคัญที่สุดของป.ป.ส. คือการทำงานแบบบูรณาการร่วมกับหลายหน่วยงาน เช่น กรมพัฒนาชุมชน กรมปกครองส่วนท้องถิ่น ที่ช่วยกันระดมกำลังให้พี่น้องประชาชนในหมู่บ้านจับมือกันด้วยความรัก ให้กำลังใจกันในครอบครัว หากเราเข้าใจกันในครอบครัวจะเป็นจุดเริ่มต้นในการป้องกัน

นายสมศักดิ์ ยังกล่าวอีกว่า ขณะนี้ได้มีกองทุนแม่ของแผ่นดิน ของสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ที่ให้จัดตั้งกองทุนในหมู่บ้าน หากบ้านไหนปลอดยาเสพติดก็มีการมอบธงให้ ซึ่งตรงนี้ใช้เงินน้อยมาก ขณะนี้ทั่วประเทศไทย 84,000 หมู่บ้าน มีปัญหาเกี่ยวกับยาเสพติดอยู่ 24,000 ตรงนี้กองทุนแม่ของแผ่นดินได้เข้าถึงไป 18,000 หมู่บ้าน ยังขาดอีกประมาณ 6,000 หมู่บ้านที่เรากำหนดสีแดงไว้ในการแก้ไขและป้องกัน นอกจากนี้ตนยังให้นโยยายกับ ป.ป.ส.ว่าให้ไปชักนำหรือดำเนินการ เช่น การสกัดการขนส่งยาเสพติดทางชายแดน โดยให้หมู่บ้านเป็นตัวช่วยป้องกัน เชื่อว่าจะทำให้ดีขึ้น ผู้ค้าผู้ขายจะลดลงอย่างแน่นอน

“การปราบปรามยาเสพติดรัฐบาลใช้กฎหมายทุกมิติ ส่งผลให้เกิดการระงับผู้ค้าผู้ขายในระยะสั้นๆ ซึ่งลดลงถึง 30 เปอร์เซ็นต์ และดำเนินการจับกุมได้ถึง 9,800 ราย ส่วนแหล่งผลิตรัฐบาลให้ความสำคัญกับกลุ่มลุ่มน้ำโขงที่ร่วมมือกับปราบปรามจับกุมร่วมกับกับประเทศเพื่อนบ้าน โดยการจับกุม ยาบ้า ยาไอซ์ กัญชาและยาเค รวมทั้งเคมีภัณฑ์อีกจำนวนมหาศาล เป็นการลดทอนการผลิตยาเสพติดได้จำนวนมาก ขณะนี้ตัวเลขการปราบปรามดีขึ้น แต่ยืนยันว่าการร่วมแก้ปัญหายาเสพติดต้องร่วมกันทั้งรัฐบาลและประชาชน”

ส่วนเรื่องสถานบำบัด มีการดำเนินการ 3 ระบบ คือ ระบบสมัครใจ บังคับและต้องโทษ โดยอยู่ในการควบคุมของกระทรวงสาธารณสุข ซึ่งวางมาตรฐานได้เป็นอย่างดี รวมทั้งยังมีของกรมควบคุมการประพฤติและกรมพินิจ ตนขอให้ทุกท่านวางใจถึงมาตรฐานและเราจะปรับและพัฒนาขึ้นไปอีกเรื่อยๆ ส่วนกรณีที่เจ้าหน้าที่ราชการรับเงินดูแลนักโทษหรือเกี่ยวข้องกับยาเสพติดนั้น เราขอให้ประชาชนช่วยแจ้งเบาะแสผ่านสายด่วน 1386 เพื่อให้เป็นเยี่ยงอย่างโดยเราจะลงโทษอย่างเด็ดขาด ส่วนการทำไม่ให้นักโทษกลับไปทำผิดอีก เรามีกำไล EM ที่เชื่อว่าจะเป็นอุปกรณ์ที่ช่วยลดปัญหานักโทษล้นคุก เช่น นักโทษชั้นดีที่กำลังจะพ้นโทษ หรือนักโทษคดีเล็กๆน้อยๆ เราจะให้เขากลับสู่ชุมชนโดยใส่กำไรควบคุมดูแล ซึ่งรายละเอียดตรงนี้ยังมีอีกมากมาย หากใครสนใจก็พร้อมที่จะพาไปดูตัวอย่าง

แสดงความเห็น