รมว.ยธ.ร่วมสถาปนา 46 ปีกรมบังคับคดี ชี้เป็นที่ช่วยสร้างศก.ประเทศให้ขับเคลื่อนได้ไม่ติดขัด

รมว.ยุติธรรม ร่วมงานสถาปนา46ปีกรมบังคับคดี ชี้เป็นกรมที่ช่วยเสริมสร้างเศรษฐกิจประเทศให้ขับเคลื่อนได้ไม่ติดขัด แนะข้าราชการยึดหลักธรรมาภิบาล เสริมสร้างความรู้พัฒนาตนเองให้ทันโลกอยู่เสมอ

ที่กรมบังคับคดี นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม เป็นประธานงานวันสถาปนากรมบังคับคดี ครบรอบ 46 ปี พร้อมด้วย นายธนวัชร นิติกาญจนา ที่ปรึกษา รมว.ยุติธรรม นายสามารถ เจนชัยจิตวานิช ผู้ช่วย รมว.ยุติธรรม นางอรัญญา ทองน้ำตะโก อธิบดีกรมบังคับคดี และข้าราชการ ร่วมงาน

นางอรัญญา กล่าวรายงานว่า กรมบังคับคดีมีที่มาจากหน่วยงานราชการระดับกองในสำนักปลัดกระทรวงยุติธรรม 2 กอง คือ กองบังคับคดีแพ่ง และ กองบังคับคดีล้มละลาย จนกระทั่งปี พ.ศ.2517 สมัยรัฐบาลขณะนั้นได้เห็นความสำคัญของทั้งสองกองดังกล่าว ประกอบกับงานบังคับคดีแพ่งและงานบังคับคดีล้มละลายเพิ่มขึ้นมาก หน่วยงานที่จัดไว้แต่เดิม ไม่เหมาะสมกับงานที่นับวันแต่จะทวีปริมาณมากขึ้นทุกๆ ปี ดังนั้นเพื่อให้การดำเนินงานเกี่ยวกับการบังคับคดีแพ่ง คดีล้มละลาย งานเกี่ยวกับการวางทรัพย์ได้ขยายอำนาจหน้าที่ทั่วราชอาณาจักร รวมทั้งงานชำระบัญชีห้างหุ้นส่วนบริษัท หรือ นิติบุคคลตามคำสั่งศาล ได้ดำเนินการโดยเจ้าหน้าที่ที่มีความรู้ความสามารถชำนาญงานในหน้าที่ได้เป็นไปอย่างถูกต้อง มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น รัฐบาลจึงได้ยกฐานะกองบังคับคดีแพ่งและกองบังคับคดีล้มละลาย รวมจัดตั้งขึ้นเป็นกรมบังคับคดีอยู่ในสังกัดกระทรวงยุติธรรม ทั้งนี้กรมบังคับคดีมีอำนาจหน้าที่บังคับคดีแพ่งและคดีล้มละลาย ตลอดจนวางทรัพย์ทั่วประเทศ แล้วเริ่มดำเนินการในฐานะเป็นกรมบังคับคดีนับแต่นั้นเป็นต้นมา ซึ่งภารกิจที่ผ่านมากรมบังคับคดียังได้เสริมสร้างความรู้ความเข้าใจแก่ประชาชนเกี่ยวกับเรื่องกฎหมาย พยายามทำให้ประชาชนเข้าถึงกระบวนการยุติธณรมตามนโยบายของรัฐมนตรีต่อไปด้วย

นายสมศักดิ์ กล่าวมอบนโยบายแก่ผู้บริหาร ตอนหนึ่งว่า กรมบังคับคดีเป็นหน่วยงานสำคัญในกระทรวงยุติธรรม ช่วยเสริมสร้างเศรษฐกิจของประเทศ ผลักดันไกล่เกลี่ยหนี้ หรือทำให้ทรัพย์ที่ถูกบังคับคดีมีการเคลื่อนไหวทางเศรษฐกิจ ในภาคธุรกิจไม่ให้อยู่ในภาวะหยุดชะงัก ล้มละลาย สามารถดำเนินการต่อไปได้ ซึ่งกรมยังช่วยประชาชนไกล่เกลี่ยหนี้ ตนขอชื่นชมการทำงานทุกท่าน งานของกรมบังคับคดีถือเป็นงานที่ท้าทาย ซึ่งที่ผ่านมาได้รับการชื่นชมและไว้ใจจากภาครัฐและประชาชน ถือว่าเป็นที่พึ่งให้กับผู้เดือดร้อนได้เป็นอย่างดี ขอให้ผู้ปฏิบัติงานทุกท่านยึดหลักความเป็นธรรม ตามหลักธรรมาภิบาล พัฒนาตนเองให้ทันกับการเปลี่ยนแปลง ยกระดับความรู้ต่างๆอยู่เสมอ เพื่อช่วยประชาชน ตามหลัก ยุติธรรมเชิงรุก สร้างสุขอย่างแท้จริง

นายสมศักดิ์ กล่าวอีกว่า สิ่งที่ท่านดำเนินการมาไม่เคยมีใครตำหนิติเตียนหรือร้องเรียน แต่ถึงแม้ว่างานทั้งหลายที่ทำมาดีแล้ว แต่เราไม่รู้ว่าดีจริงหรือไม่ เราดูจากอะไร อาจจะดูจากยอดขาย แต่เพียงพอกับความสามารถของข้าราชการของเรา และเป็นจุดคุ้มของการทำงานแล้วหรือยัง แต่ตนขอชื่นชมที่เป็นกรมในการหารายได้ให้กับประเทศ ซึ่งท่านเป็นข้าราชการที่ทำหน้าที่อย่างภาคภูมิใจ ตลอดระยะเวลาที่ตนทำงานมาในฐานะรัฐมนตรี ตนตั้งใจทำงานมาตลอด อย่างการแถลงข่าวการจับกุมยาเสพติดจะเห็นได้ว่า ตนไม่ค่อยไปร่วมการแถลงข่าวการจับกุม เพราะตนเน้นการยึดทรัพย์ตัดวงจร แต่การจับกุมสารเคมีคล้ายเคตามีน อาจจะเป็นคราวเคราะห์ แต่นี่เป็นความผิดพลาดที่เราไม่รู้ว่า สารไตรโซเดียมฟอสเฟสจะตรวจแล้วเป็นสีม่วง และข่าวสารจากต่างประเทศแจ้งมาตรงกันว่าเป็นโกดังนี้ แต่เรื่องนี้ไม่ได้ทำให้ตนท้อใจ ตนยังขอมุ่งมั่นทำหน้าที่เพื่อประเทศและประชาชนต่อไป

แสดงความเห็น