“สมศักดิ์” เล็งศึกษาข้อดี-ข้อเสียกำไร EM หวังเป็นตัวเลือกลดปัญหาคุกล้น – ไม่ขัดข้องนายกฯดูแลดีเอสไอเอง เชื่อทำงานง่ายขึ้น

นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม กล่าวถึงการทำงานว่า มีการพูดถึงจำนวนนักโทษที่ล้นคุก รวมทั้งสภาพความเป็นอยู่ อาหาร เครื่องนุ่งห่ม ที่นอน และสุขภาพร่างกาย ซึ่งเรื่องนี้ตนมีแนวคิดที่จะปรับปรุงให้ดีขึ้นอย่างแน่นอน หลังจากได้ไปเยี่ยมเรือนจำมา 2-3 แห่งแล้ว ซึ่งได้เก็บข้อมูลและสอบถามจากทั้งผู้คุมและนักโทษถึงปัญหาต่างๆ รวมทั้งข้อเสนอแนะที่อยากให้ทางกระทรวงช่วยปรับปรุง ส่วนที่หลายคนสงสัยว่านักโทษหญิงได้รับการดูแลดีกว่านักโทษชายหรือไม่ หากเราตอบโดยไม่มีอะไรอ้างอิงคงฟังกันยาก โดยเรื่องนี้เป็นเรื่องของข้อตกลงกับทาง ยูเอ็น ที่ประชุมร่วมกัน และมีข้อตกลง Bangkok Rules ซึ่งเป็นแนวพระราชดำริของ สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ พระองค์เจ้าพัชรกิติยาภาฯ ซึ่งการปฏิบัติตัวกับนักโทษหญิง ผู้คุมต้องเป็นผู้หญิง และจัดสิ่งของจำเป็นของผู้หญิง มีแพทย์หญิง ส่วนเด็กที่เกิดในเรือนจำ ต้องดูแลสุขภาพให้อย่างดี ส่งเสริมสนับสนุนการติดต่อครอบครัว และให้ผู้ปกครองได้พูดคุยกัน

    นายสมศักดิ์ กล่าวอีกว่า ยังมีการพูดถึงกรณีนักโทษที่ยังไม่เด็ดขาด คดียังอยู่ในขั้นตอนไม่ถึงขั้นฎีกา สามารถประกันตัวออกไปอยู่ด้านนอก หากมีหลักทรัพย์ บางครั้งเป็นโทษที่พนักงานสอบสวนไม่คัดค้านการประกันตัว แบบนี้จะทำให้ที่จองจำไม่ล้น ซึ่งเรากำลังมองอยู่ว่า ศาลและกรมคุมประพฤติมีการใช้ กำไร EM และมีเซ็นเตอร์คอยดูสัญญาณ ตนยังไม่เข้าใจอย่างถ่องแท้ถึงรูปแบบและข้อมูลของกำไรตัวนี้ ขอดูก่อนว่า ความสามารถหรือคุณสมบัติเป็นอย่างไร ประเทศสากลเขาเริ่มใช้กันแล้ว แต่เราคงต้องไปศึกษาว่าสิ่งไหนดีที่สุด

    ส่วนที่มีบางเพจนำปัญหาของกำไร EM มาเปิดเผยว่ามีปัญหาหลายอย่าง ทั้งการถอดออกได้และไม่มีสัญญาณนั้น  เรื่องนี้หน่วยงานที่นำมาใช้ คงมีสัญญาผู้ซื้อหรือขาย การตรวจสอบตามสัญญาคงไม่ยาก ซึ่งหากมีการนำมาใช้จริงๆและเปิดให้ประมูล ผู้ที่ไม่ชนะการประกวดราคา คงต้องช่วยร้องเรียนและช่วยกันตรวจสอบ ทางราชการจะได้ของดี เป็นเรื่องที่ตรวจสอบได้ ซึ่งเรื่องนี้คงใช้เวลาไม่นานในการศึกษาข้อดีข้อเสีย 

    นายสมศักดิ์ ยังกล่าวถึงนโยบายกัญชาเสรีว่า วันนี้เขายังไม่ได้อนุญาตอย่างถูกต้อง ดังนั้นจึงขอเตือนประชาชนว่าอย่าไปประเจิดประเจ้อ เพราะจะถูกจับดำเนินการทางกฎหมาย ถ้ารัฐบาลหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะทำเป็นนโยบายจริงจัง ก็ต้องไปเร่งออกกฎหมาย และออกระเบียบกฎเกณฑ์ว่าจะสามารถใช้หรือปลูกได้อย่างไรบ้าง

    เมื่อถามว่า กรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือดีเอสไอ นายกฯจะดูเองหรือไม่ นายสมศักดิ์ กล่าวว่า ที่ได้ยินมาคือ นายกฯจะดูแล ดีเอสไอ ซึ่งนายกฯพูดแล้ว ตนเป็นรัฐมนตรีที่กำกับ แต่นายกฯจะขอไปดูแลเองโดยตรงไม่ต้องผ่านรองนายกฯซึ่งน่าจะดีและทำงานได้ง่ายขึ้น สามารถทำงานร่วมกันแบบบูรณาการได้ ไม่มีปัญหาอะไร 

แสดงความเห็น