![7927133D-E25C-442A-8D7D-306E03203B70](https://theagendathai.com/wp-content/uploads/2020/11/7927133D-E25C-442A-8D7D-306E03203B70-696x392.jpeg)
![](https://theagendathai.com/images/728.jpg)
นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม เป็นประธานเปิดการประชุมเชิงปฏิบัติการผู้บริหารหน่วยงานในกระบวนการยุติธรรม เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการดำเนินคดีความผิดฐานสมคบหรือสนับสนุนช่วยเหลือการกระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติด ที่โรงแรมอมารี ดอนเมือง โดยมีนายวิชัย ไชยมงคล เลขาธิการ ป.ป.ส. อธิบดีอัยการภาค ผู้บัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ เลขาธิการ ปปง. และเจ้าหน้าที่ ป.ป.ส.รวมกว่า 60 คนเข้าร่วม
![](https://theagendathai.com/wp-content/uploads/2020/11/3D82C29E-2523-4DCE-8701-0A32921A26C4-1024x683.jpeg)
โดยนายสมศักดิ์ กล่าวว่า การแก้ไขปัญหายาเสพติดของรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม ได้มอบนโยบายที่สำคัญประการหนึ่ง คือ การให้แต่ละจังหวัดตั้งเป้าหมายการยึดทรัพย์สิน และกำหนดแผนงานรองรับ รวมทั้งให้จัดทำแผนผังความเชื่อมโยงของเครือข่าย และเส้นทางการเงินของนักค้ายาเสพติด เพื่อนำมาตรการบังคับริบทรัพย์สิน มาตรการด้านการฟอกเงินและภาษี มาใช้ในการดำเนินการ กับเครือข่ายการค้ายาเสพติดรายสำคัญ และนายทุนที่อยู่เบื้องหลังการกระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติด
นายสมศักดิ์ ยังกล่าวว่า การดำเนินงานตรวจสอบและริบทรัพย์สินที่ผ่านมาในแต่ละปี หากคำนวณจากปริมาณยาเสพติดที่แพร่ระบาดอยู่มาเป็นตัวเงิน จะมีมูลค่ามากถึงหลักล้านล้านบาท แต่ในปีหนึ่ง เราสามารถยึดทรัพย์สินของผู้กระทำความผิด ได้เพียงหลักพันล้านบาทเท่านั้น ซึ่งจากหลักคิดดังกล่าว จึงนำมาสู่แนวทางใหม่ในการยึดทรัพย์สินของผู้กระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติด ในกลุ่มผู้ถูกจับกุม และขยายผลไปยังเครือข่ายการค้า
“โดยเฉพาะในกลุ่มผู้ที่มีการทำธุรกรรม ที่มีเหตุอันควรสงสัยว่า จะเกี่ยวข้องกับการกระทำความผิด เกี่ยวกับยาเสพติดจากสำนักงาน ปปง. ซึ่งผมได้ตั้งเป้าหมาย ให้สามารถยึดทรัพย์สินให้ได้มากกว่าเดิม 10 เท่า โดยสำหรับวิธีการดำเนินการนั้น ผมได้สั่งการ ให้จัดตั้งทีมสืบสวนขยายผล ด้วยการใช้เครื่องมือพิเศษ เชื่อมโยงกับทุกคดี และให้มีการตั้งหัวหน้าผู้รับผิดชอบ ที่ได้รับการฝึกอบรมแล้วมาดูแล” รมว.ยุติธรรม กล่าว
![](https://theagendathai.com/wp-content/uploads/2020/11/17B12F00-EAAA-4A83-A27A-BCEFC4057317-1024x683.jpeg)
นายสมศักดิ์ ยังกล่าวว่า จากนี้ ให้มีการประเมินมูลค่ายาเสพติดตามมูลค่าจริง และให้ติดตามยึดทรัพย์สิน ในส่วนของมูลค่า หรือ ผลประโยชน์ที่ผู้กระทำผิดควรจะได้รับจากการค้ายาเสพติด รวมถึงการดำเนินคดีกับตัวการสำคัญ หรือ นายทุนที่อยู่เบื้องหลังการกระทำความผิด หรือผู้ร่วมขบวนการค้ายาเสพติด รวมทั้ง ผู้ที่สนับสนุนช่วยเหลือการกระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติด โดยทั้งหมดจำเป็นต้องอาศัยมาตรการทางกฎหมาย ตามพระราชบัญญัติมาตรการในการปราบปรามผู้กระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติด พ.ศ.2534
นายสมศักดิ์ กล่าวอีกว่า ในความผิดฐานสมคบหรือสนับสนุนช่วยเหลือ และการดำเนินคดีในความผิดฐานฟอกเงิน ตามพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ.2542 รวมทั้งความผิดฐานหลีกเลี่ยงภาษี ตามประมวลรัษฎากร โดยการดำเนินคดีความผิด ฐานสมคบและสนับสนุนช่วยเหลือนั้น เป็นมาตรการหลักสำคัญ ซึ่งที่ผ่านมาได้รับความร่วมมือด้วยดีจากทุกฝ่าย ซึ่งยังมีปัญหาและอุปสรรคในการทำสำนวนคดีสมคบ คือ พยานหลักฐาน ข้อมูลทางโทรศัพท์ ความเคลื่อนไหวในบัญชีธนาคาร เอามาแลกกับคำขออนุมัติจับกุมไม่ทัน จะทำอย่างไรให้ทัน การขออนุมัติแจ้งข้อหาจับกุม จะย่นเวลาอย่างไรให้เร็วและปัญหาการทำสำนวนคดีฟอกเงิน ไม่มีระเบียบวิธีที่ชัดเจนในการทำคดี จะเก็บหลักฐานอย่างไรให้ครบถ้วน
“การประชุมเชิงปฏิบัติการในวันนี้ ผมมีความมุ่งหมายที่จะพัฒนา และเพิ่มประสิทธิภาพ ในการดำเนินคดีกับตัวการสำคัญ หรือ นายทุนที่อยู่เบื้องหลังการกระทำความผิด ผมจึงหวังว่า จะได้รับความร่วมมือจากท่านอีกครั้งหนึ่ง ในการที่จะได้ร่วมกันระดมความคิดเห็น และประสบการณ์ เพื่อกำหนดแนวทางการปฏิบัติให้เป็นไปตามวัตถุประสงค์” นายสมศักดิ์ กล่าว
แสดงความเห็น
![](https://theagendathai.com/images/728.jpg)