“สมศักดิ์”ยันไม่ยอมเสียชื่อ ตั้งเป้ายึดทรัพย์เครือข่ายยาเสพติดให้ได้มากกว่าเดิม 10 เท่า

นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม กล่าวมอบนโยบายว่า การดำเนินการของศูนย์อำนวยการป้องกันและปราบปรามยาเสพติดและกระทรวงยุติธรรม ในช่วงแรกตนมีความรู้สึกว่างานนี้น่าหนักใจมาก เพราะเราเห็นถึงบูรณาการของยาเสพติดที่มีการพัฒนา โดยเฉพาะยาบ้าที่มีจำนวนมากในบ้านเรา ซึ่งแม้เราจะปราบปรามมาก แต่หากปราบปรามอย่างเดียวเราจะเหนื่อยมาก เรื่องนี้นายกฯให้ความสนใจมากและได้กำชับลงมา ตอนนี้ยาเสพติดมีสารตั้งต้นเป็นสารเคมีทำให้ต้นทุนราคาถูกมาก ผิดกับสมัยก่อนที่มาจากพืช แต่สถิติของผู้ต้องหาคดีเสพและผู้เข้ารับการบำบัดลงลดในหลายปีที่ผ่านมา ถือว่าเป็นแนวโน้มที่ดีขึ้นมาก ซึ่งการปราบปรามต้องทำแนวทางการใหม่เพื่อลดการสูญเสีย คือ การปราบปรามทางธุรกรรมทางการเงิน 

นายสมศักดิ์ กล่าวอีกว่า มูลค่าของยาเสพติดในแต่ละปีมีมากถึง 1.8 ล้านล้านบาท แต่ปีหนึ่งๆ เรายึดมาได้เพียง 6-700 ล้านบาทเท่านั้น ซึ่งเมื่อมีมูลค่าสูงขนาดนี้หากเราปล่อยไว้จะเป็นปัญหาที่ใหญ่มาก เราต้องการให้ลูกหลานของเรามีความสุข เราเป็นคนไทยอยู่ใต้ร่มพระบารมี ต้องทำให้ปัญหาเหล่านี้หมดไปจากประเทศไทย ซึ่งที่ผ่านมาข้าราชการระดับผู้ใหญ่ต่างๆได้ให้ความสนใจและให้คำแนะนำต่างๆที่เป็นประโยชน์มาก ตัวเลขวันนี้เราสามารถยึดทรัพย์ได้ถึง 1 พันล้านบาทเแล้ว ซึ่งตนบอกว่าจะเอาให้ได้ 2 เท่าจากปีที่แล้วที่ทำได้ 6-700 ล้านบาทก็ประมาณ 1,400 ล้านบาท ขณะนี้ถือว่าใกล้แค่เอื้อม และแนวทางใหม่ของการยึดทรัพย์ ตนตั้งเป้าให้ได้มากกว่าเดิม 10 เท่า โดยกลุ่มเป้าหมาย คือ 

1.ดูจากเครือข่ายยาเสพติดที่เราไปจับมา หรือจังหวัดต่างๆ ผู้ว่าฯคงจะรู้แล้วว่าเป็นอย่างไรบ้าง 

2.เครือข่ายที่ได้รับข้อมูลธุรกรรมที่น่าสงสัย จาก ป.ป.ง. นี่คือส่วนสำคัญที่เราจะไปถึง 10 เท่าได้ ซึ่งเราคงจะมีการเพิ่มเครื่องไม้เครื่องมืออีกเล็กน้อย 

และส่วนสุดท้าย คือ เครือข่ายที่หนีหมายจับ หรือคดียังไม่สิ้นสุด เราสามารถใช้เครื่องมือที่มีอยู่ไปตรวจสอบได้    

นายสมศักดิ์ ยังกล่าวว่า วิธีดำเนินการคือ 1.ตั้งทีมสอบสวนโดยใช้เครื่องมือพิเศษ เชื่อมโยงกับทุกๆคดี 2.ตั้งหัวหน้าผู้รับผิดชอบ ที่ได้รับการฝึกอบรมแล้วมาดูแล 3.การประเมินมูลยาเสพติดตามมูลค่าจริง และตามยึดทรัพย์ในส่วนของมูลค่าที่เหลือจากการจับกุม ส่วนเป้าหมายของการดำเนินการ คือ แจ้งข้อหากับผู้ร่วมขบวนการ ให้การช่วยเหลือให้ได้ทุกคดีจากเดิมที่แจ้งดำเนินคดีได้เพียง 10% และยังต้องแจ้งข้อหาการฟอกเงิน ข้อหาฟอกเงินหลีกเลี่ยงภาษี เลี่ยงภาษีตามประมวลรัชฎากร และแจ้งอาญัติทรัพย์เครือข่ายยาเสพติดให้ได้ไม่น้อยกว่า 10 เท่าของปีที่ผ่านมา หรือ 6-7 พันล้านบาท ตนเชื่อว่าหากเราดำเนินการตามแนวทางนี้เราทำได้แน่นอนและอาจจะถึงหมื่นล้าน ซึ่งเราก็ตั้งเป้าว่าแต่ละจังหวัดจะยึดทรัพย์เครือข่ายยาเสพติดได้ประมาณจังหวัดละ 100 ล้านบาท ซึ่งบางจังหวัดอาจจะได้เกินเป้าไปเยอะก็ได้ นอกจากนี้ยังมีเรื่องรางวัลนำจับ ซึ่งหากเราจับได้เยอะเงินรางวัลก็จะเยอะตามไปด้วย ถือเป็นสิ่งที่ดีที่จะมีจูงใจให้ทุกคนช่วยกันแจ้งเบาะแส

“แต่ละคืนผมนอนไม่หลับ นอนคิดเสมอว่าจะทำอย่างไรจะปราบยาเสพติดให้หมดไป ผมเป็นรัฐมนตรีมาหลายกระทรวงทำผลงานสำเร็จมาหลายอย่าง ซึ่งการมาอยู่กระทรวงยุติธรรมตนก็ต้องทำผลงานให้เป็นที่ประจักษ์ ไม่ยอมเอาชื่อเสียงมาทิ้งไว้แน่ๆ และผมขอย้ำตามที่ท่านนายกฯบอก ชีวิตที่ผ่านพบ มีลบย่อมมีเพิ่ม ขอเพียงให้เหมือนเดิม กำลังใจ” นายสมศักดิ์ กล่าว

แสดงความเห็น