นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม พร้อมด้วย ว่าที่ร้อยตรี ธนกฤต จิตรอารีย์รัตน์ เลขานุการ นายวิศิษฎ์ วิศิษย์สรอรรถ ปลัดกระทรวง และอธิบดีกรมต่างๆ ร่วมประชุมผู้บริหารกระทรวงยุติธรรม
โดยการประชุมผู้บริหารกระทรวง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ได้ชี้แจงมติคณะรัฐมนตรีได้สั่งการ อาทิ เรื่องการจัดสรรงบประมาณเพื่อช่วยเหลือรัฐบาลในสถานการณ์ แพร่ระบาดเชื้อไวรัสโคโรน่า 2019 หรือ โควิด -19 รวมถึงเรื่องการนำกระท่อมมาแปรรูปเป็น 4 คูณ 100 ที่ พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ให้ความเป็นห่วง
นายสมศักดิ์ ระบุว่า ทั้ง 2 เรื่องเป็นเรื่องสำคัญที่กระทรวงต้องดำเนินการ เพราะงบประมาณที่หักจากกระทรวงไปนั้น ก็ไปดำเนินการช่วยเหลือประชาชน รวมถึง เอกชน ที่ได้รับผลกระทบของ การระบาดโควิด-19 เราต้องให้ความร่วมมือเต็มที่ ส่วนเรื่องการนำกระท่อมมาแปรรูปเป็นเครื่องดื่ม 4 คูณ 100 ก็ขอย้ำอีกครั้งว่า สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด หรือ ปปส. ต้องอธิบาย ให้ประชาชน หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าใจ ว่ากระทรวงไม่ได้ต้องการเปิดเสรีเพื่อให้มาแปรรูปเพื่อมีผลในการกดประสาท ดื่มแล้วเมา แต่สิ่งที่ตนต้องการผลักดัน เพราะใบกระท่อมมีประโยชน์สามารถนำไปทำยาได้ รวมทั้งสามารถเพิ่มอาชีพให้เกษตรกรในการเพาะปลูกเพื่อส่งออกไปยังต่างประเทศ คดีความก็จะลดลง มันมีแต่ประโยชน์ แต่หากพบว่านำไปแปรรูปแบบไม่ถูกต้องก็ต้องจับกุมดำเนินคดี ต่อไป
“กระท่อมไม่ได้เปิดเสรี เราต้องทำความเข้าใจกับสังคม หน่วยงานภาครัฐ การแก้กฎหมายยังอยู่ที่กฤษฎีกา ปปส.ช่วยทำประชาสัมพันธ์ ทำความรับรู้กับผู้เกี่ยวข้องเดี๋ยวของดีที่มีประโยชน์มันจะเสียไป” รมว.ยุติธรรมกล่าว
นอกจากนี้นายสมศักดิ์ ยังกล่าวอีกว่า ภายหลังที่ศูนย์โควิด – 19 ได้เพิ่มกรอบการตรวจสินค้าของศูนย์ป้องกันปราบปรามอาชญากรรมพิเศษและมีกรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือ ดีเอสไอ และ ปปส. เข้าไปทำหน้าที่ ว่าต้องช่วยกันตรวจสอบสินค้าเกินราคา กักตุน และสินค้าปลอม เช่น หน้ากากอนามัย แอลกอฮอล์ และต้องคอยสอดส่องกลุ่มที่ทำใบรับรองแพทย์ปลอมด้วย เพราะพวกนี้ก็ทำเพื่อโกงบริษัทประกันภัยและรวมถึงปลอมเพื่อเดินทางเข้าจังหวัดต่างๆโดยง่าย ซึ่งเป็นความเสี่ยงในการแพร่กระจายเชื้อโควิด-19