นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม กล่าวถึงกรณีกรมราชทัณฑ์ มีค่าใช้จ่ายด้านสาธารณูโภค ด้านไฟฟ้า และน้ำประปา สูงเกินกว่างบประมาณที่จัดสรร ว่า ในปี 2562 กรมราชทัณฑ์ใช้ไฟฟ้าตามเรือนจำต่างๆมีมูลค่าถึง 372 ล้านบาท ขณะที่งบประมาณที่จัดสรร มีเพียง 217 ล้านบาท ทำให้มีค่าไฟฟ้าค้างจ่าย ประมาณ 178 ล้านบาท ขณะที่ค่าน้ำประปา ตลอดปี 2562 พบค่าใช้น้ำประปา จำนวน 343 ล้านบาท สูงกว่างบประมาณปี 62 ที่จัดสรรจำนวน 178 ล้านบาท มากถึง 164 ล้านบาทซึ่งยังเป็นค่าชำระค้างจ่าย ทั้งนี้เมื่อค่าน้ำ และค่าไฟ รวมกันตลอดปี 2562 พบว่ากรมราชทัณฑ์มีค่าใช้สาธารณูโภคคงค้าง รวมกันสูงถึง 342 ล้านบาท
นายสมศักดิ์ กล่าวต่อว่าดังนั้นในการแก้ปัญหาดังกล่าว ตนได้กำหนด 3 มาตรการเพื่อแก้ปัญหา คือ 1.ใช้พลังงานทดแทน จากพลังงานแสงอาทิตย์ (โซลาร์เซลล์) ล่าสุดประสานไปยังกองทุนเพื่อส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงาน กรมพัฒนาพลังงานทดแลและอนุรักษ์พลังงาน ให้สนับสนุนด้านการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์ ซึ่งการติดตั้งแผงโซล่า เซลล์ จะใช้งบประมาณ 1,100 ล้านบาท โดยติดตั้ง 143 เรือนจำ และมีกำลังผลิต 1 กิโลวัตต์ ต่อ 8 ตารางเมตร
นายสมศักดิ์ กล่าวด้วยว่าขณะที่แนวทางที่ 2.ปรับเปลี่ยนอุปกรณ์ไฟฟ้าภายในหน่วยงาน เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการลดใช้พลังงาน โดยเริ่มจากการเปลี่ยนอุปกรณ์ไฟฟ้า เช่น หลอดฟลูออเรสเซนส์ เป็น หลอดแอลดีอี , เครื่องปรับอากาศให้เป็นระบบอินเวอร์เตอร์ สำหรับงบประมาณที่จะดำเนินการนั้นกระทรวงจะขอรับการสนับสนุนจากกองทุนเพื่อส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงาน กรมพัฒนาพลังงานทดแทนและอนุรักษ์พลังงาน เบื้องต้นคาดว่าเมื่อปรับเปลี่ยนแล้วเสร็จจะทำให้ลดค่าไฟฟ้าได้มากถึง 40 -50 เปอร์เซ็นต์หรือคิดเป็นค่าใช้ไฟฟ้าที่ลดลง 45 ล้านบาทต่อปี และแนวทางที่ 3.ใช้มาตรการลดพลังงานในสำนักงานอย่างเข้มข้น โดยแบ่งพื้นที่การเปิด และปิดการใช้ไฟฟ้าในแต่ละส่วนของเรือนจำ หรือ เว้นช่วงการใช้ไฟฟ้าในแต่ละโซน มากกว่า 15 นาที เพื่อลดค่าความต้องการพลังงานไฟฟ้า เพราะหากพื้นที่เปิดใช้ไฟฟ้าพร้อมกันทุกจุดในเรือนจำ จะทำให้ค่าความต้องการพลังงานไฟฟ้าเพิ่มขึ้นสูง ทั้งนี้จากการประเมินมาตรการดังกล่าว จะทำให้ลดค่าใช้ไฟฟ้าลงได้