“สมศักดิ์” เห็นความสำคัญ เดินหน้าบริการจิตแพทย์ยัน ปมกัญชา เดินสายกลาง 

“สมศักดิ์” ปาฐกถาพิเศษสุขภาพจิตนานาชาติ ย้ำ รัฐบาล เล็งเห็นความสำคัญ จึงเดินหน้าบริการจิตแพทย์-นักจิตวิทยาใกล้บ้าน-ตรวจรักษาจิตเวชทางไกล-จัดตั้งกองทุนบำบัดผู้ป่วยจิตเวชและยาเสพติด ยัน ปมกัญชา เดินสายกลาง ให้คณะกรรมการ ป.ป.ส.เคาะ พร้อมรอสภาฯถก พ.ร.บ.กัญชา แย้มโหวตตาม สธ.เสนอ เพื่อลดความเสียหายเร่งด่วน หลังเกิดสุญญากาศ เกือบครบ 3 ปี แนะ หยุดสัมภาษณ์ รอกติกาของประเทศ 

นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เป็นประธานเปิดการประชุมและปาฐกถาพิเศษ ในการประชุมวิชาการสุขภาพจิตนานาชาติ ครั้งที่ 23 ประจำปี 2567 เรื่อง “คลื่นลูกใหม่ (S-Curve) สร้างสุขภาพจิตไทยสู่อนาคต” (The New S-Curve of Mental Health) โดยมี นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข นายกิตติกร โล่ห์สุนทร เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข นายวิชัย ไชยมงคล ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข นายวัชรพล โตมรศักดิ์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงสาธารณสุข นพ.พงศ์เกษม ไข่มุกด์ อธิบดีกรมสุขภาพจิต คุณไซม่า วาเสด ผู้อำนวยการองค์การอนามัยโลก ภูมิภาคเอเชียใต้ตะวันออก คุณดาโช ดีเชน วังโม หัวหน้าหน่วยงานหลักด้านสุขภาพจิต หรือ เปม่า แห่งราชอาณาจักรภูฏาน และผู้บริหารกระทรวงสาธารณสุข เข้าร่วม ที่ห้องประชุม True Icon Hall ชั้น 7 ศูนย์การค้าไอคอนสยาม กรุงเทพมหานคร

โดยนายสมศักดิ์ กล่าวว่า เมื่อเราพูดถึงคำว่า สุขภาพที่ดี ส่วนใหญ่จะนึกถึงเพียงสุขภาวะทางกายปลอดภัยและปราศจากโรค แต่ความจริงแล้ว สุขภาพที่ดีมีหลายมิติ ไม่ใช่หมายถึงเพียงแค่สุขภาพร่างกายเท่านั้น แต่ยังรวมถึงสุขภาพทางจิตใจ ตลอดจนสุขภาวะทางสังคมอีกด้วย โดยสุขภาพจิต กล่าวถึงภาวะจิตใจที่เป็นสุข สามารถปรับตัวจัดการปัญหา มีความรู้สึกที่ดีต่อตนเองและผู้อื่น มีความมั่นคงทางจิตใจ มีวุฒิภาวะทางอารมณ์ เมื่ออยู่ในสังคมและสิ่งแวดล้อม ที่เปลี่ยนแปลงได้อย่างมั่นคง

นายสมศักดิ์ กล่าวอีกว่า ส่วนความเป็นอยู่ที่ดี หรือสุขภาวะ มีความหมายเชิงบวก สื่อถึงการดำเนินชีวิตของผู้คนในสังคม เป็นเรื่องของสังคมที่เข้าใจ และดูแลกันและกันได้อย่างเหมาะสม ซึ่งการทำให้คนไทย และสังคมไทย มีความสุขภาพที่ดี และมีสุขภาวะที่ดี ถือเป็นความท้าทายทางนโยบาย โดยเฉพาะท่ามกลางสถานการณ์ด้านเศรษฐกิจ และสังคมที่เปลี่ยนแปลงไป เช่น ความรุนแรงที่พบเห็นได้เพิ่มขึ้น จากผู้ป่วยจิตเวชและยาเสพติดเสี่ยงก่อความรุนแรง ปัญหาสุขภาพจิตในเด็กและเยาวชน ความเครียดและปัญหาการฆ่าตัวตาย เป็นต้น

นายสมศักดิ์ กล่าวต่อว่า รัฐบาล เล็งเห็นความสำคัญในการดูแลสุขภาพจิตประชาชนทุกกลุ่มวัย โดยกระทรวงสาธารณสุข ได้มุ่งมั่นดำเนินนโยบาย 5+5 “เร่งรัดพัฒนา-สานต่อ”ให้เห็นผลอย่างเป็นรูปธรรม ได้แก่ การส่งเสริมการเข้าถึงบริการของจิตแพทย์ และนักจิตวิทยาใกล้บ้าน การตรวจรักษาจิตเวชทางไกล การบูรณาการงานดูแลสุขภาพจิตและยาเสพติด และการจัดตั้งกองทุนบำบัดผู้ป่วยจิตเวชและยาเสพติด เป็นต้น โดยไม่เพียงแต่ต้องอาศัยความร่วมมือจากทุกภาคส่วน เพื่อให้การดำเนินงานเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ แต่ยังต้องปรับแนวคิดความเข้าใจของบุคลากรสาธารณสุข เพื่อเตรียมความพร้อมรับมือกับพลวัตปัญหาสุขภาพจิตที่เปลี่ยนแปลงไป 

“การที่ผมได้รับเกียรติ ให้มาเป็นประธานการประชุม และปาฐกถาในงานประชุมวิชาการสุขภาพจิตนานาชาติ ครั้งที่ 23 ประจำปี 2567 ในหัวข้อ “คลื่นลูกใหม่ (S-Curve) สร้างสุขภาพจิตไทยสู่อนาคต”ในวันนี้ สะท้อนให้เห็นถึงการพัฒนางานสุขภาพจิตยุคใหม่ ที่ต้องอาศัยการขับเคลื่อนทางวิชาการ และการสร้างสรรค์นวัตกรรม ที่สามารถตอบโจทย์ให้กับประชาชน โดยเวทีนี้ จะมีการพูดคุยในประเด็นการกำหนดนโยบาย งานปฏิบัติการ และบริการด้านสุขภาพจิต ซึ่งจะช่วยเตรียมความพร้อมทั้งทางด้านบุคลากรและลักษณะงาน เพื่อเผชิญกับความเปลี่ยนแปลงในงานสุขภาพจิต หรือ New S Curve และจะเป็นสิ่งสำคัญที่นำพาคนไทยให้สุขภาพจิตดี สังคมมีสุขภาวะ และความผาสุก โดยเป็นหมุดหมายของพวกเราทุกคน” รมว.สาธารณสุข กล่าว

นอกจากนี้ นายสมศักดิ์ ให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนถึงกรณีความคืบหน้าการแก้ปัญหากัญชาว่า ในส่วนของกระทรวงสาธารณสุข ได้ทำหน้าที่หมดแล้ว ซึ่งอยู่ที่ป.ป.ส.จะทำอะไรก็ว่าไป จะเป็นกฎหมาย ก็เตรียมไว้หมดแล้ว 

เมื่อถามว่า หลายฝ่ายมองว่าช่วงรอกฎหมายกัญชาจะเกิดสุญญากาศ นายสมศักดิ์ กล่าวว่า เกิดสุญญากาศมานานแล้ว โดยจะครบ 3 ปี วันที่ 9 พ.ย.นี้ ดังนั้น เราก็จะไม่ให้ความสูญเสียเกิดขึ้น 

เมื่อถามว่า การประชุมคณะกรรมการ ป.ป.ส.จะโหวตอย่างไร นายสมศักดิ์ กล่าวว่า โหวตตามกระทรวงสาธารณสุข โดยกระทรวงเสนออย่างไร ก็ต้องไปอย่างนั้น ส่วนเวลานี้ พูดไปก็ไม่มีประโยชน์อะไร ซึ่งใครสัมภาษณ์ก็ไม่มีประโยชน์ ดังนั้น อย่าไปสัมภาษณ์ โดยขอให้รอกติกาของประเทศ คือ การเสนอกฎหมาย ซึ่งสภาฯขยับแล้วหรือยัง โดยถ้าสภาฯยังไม่ขยับ แล้ว ป.ป.ส.ขยับแล้วหรือยัง ซึ่งถ้ายัง ก็ต้องรอความพร้อมต่อไป พร้อมย้ำว่า ประกาศกระทรวงสาธารณสุข จะเป็นการลดความเสียหายอย่างเร่งด่วน แต่ก็ขึ้นอยู่กับส่วนรวม

แสดงความเห็น