“พัชรวาท” ระดมทุกหน่วย เตรียมรับมือไฟป่า หมอกควัน พื้นที่ภาคเหนือ 17 จังหวัด  

“พัชรวาท” ลุย เชียงใหม่ ระดมทุกหน่วย เตรียมรับมือไฟป่า หมอกควัน พื้นที่ภาคเหนือ 17 จังหวัด ดูแลประชาชน เน้นย้ำ แจ้งเตือนสถานการณ์ PM 2.5 ต้อง “ทั่วถึง เท่าเทียม ทันท่วงที” 

ที่องค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงใหม่ พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เป็นประธานการประชุมการมอบนโยบายเตรียมความพร้อมรับมือสถานการณ์ไฟป่า หมอกควัน และฝุ่นละออง ปี 2567 โดยได้มอบนโยบายให้กับผู้ว่าราชการจังหวัดทั้ง 17 จังหวัด และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง 

พล.ต.อ.พัชรวาท กล่าวว่า รัฐบาลโดยนายกรัฐมนตรีได้ให้ความสำคัญอย่างยิ่งกับการแก้ไขปัญหาฝุ่นควัน PM 2.5 ดังที่ปรากฏในคำแถลงนโยบาย มีการลงพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่และใรการประชุมคณะรัฐมนตรีในวันที่ 16 ต.ค.และ 31 ต.ค.ที่ผ่านมา ได้เร่งรัดมาตรการเพื่อลดฝุ่น PM 2.5 ทั้งระบบให้เกิดผลเป็นรูปธรรม ขณะนี้กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมได้ร่วมกับภาคส่วนต่างๆกำหนดมาตรการต่างๆ เพื่อแก้ไขปัญหาฝุ่นพิษปี 2567 เพื่อใช้รับมือกับการควบคุมไฟในป่าการเผาพื้นที่ทำการเกษตร และการควบคุมการเกิดฝุ่นในพื้นที่เมือง ซึ่งสถานการณ์ฝุ่นในปี 2566 จากปรากฏการณ์เอลนีโญ เตือนให้เราเห็นแล้วว่าในปีหน้าสถานการณ์จะรุนแรงขึ้น ดังนั้นทุกหน่วยงานจะต้องนำมาตรการที่กำหนดร่วมกันไปปฏิบัติอย่างเร่งด่วน อย่างทันที ด้วยความตระหนักถึงการปกป้องสุขภาพของประชาชน ทำให้ประชาชนมีความมั่นใจ เห็นความพร้อมและรับรู้ว่าภาครัฐทำอย่างเต็มที่ ไม่ได้มีการละเลย 

“ต้องลดการเผาไหม้ทั้งในพื้นที่เกษตรเผาไหม้ซ้ำซาก  พื้นที่ป่า จะมุ่งเป้าไปที่ป่าอนุรักษ์ ป่าสงวนแห่งชาติที่มีสถานการณ์ไฟป่ารุนแรงโดยเฉพาะพื้นที่ 17 จังหวัดภาคเหนือ ต้องตรึงพื้นที่ในพื้นที่เสี่ยงต่อการเกิดไฟป่า เราจะมีการจัดระเบียบการเก็บหาของป่าโดยอนุญาตเฉพาะคนในพื้นที่เท่านั้น ผ่านการลงทะเบียน ส่วนพื้นที่ป่าอนุรักษ์จะต้องมี จุดตรวจ จุดสกัด เพื่อมิให้เกิดการลักลอบเผาป่า เมื่อเข้าห้วงสถานการณ์ฤดูไฟป่าจะต้องมีผู้บังคับบัญชาเหตุการณ์ มีกำลังพล และเครื่องมือพร้อมปฏิบัติในการดับไฟป่าและสามารถสับเปลี่ยนกำลังระดมพลช่วยกันดับไฟป่าได้อย่างทันท่วงทีโดย ผ่าน war room ระดับพื้นที่ และดึงหมู่บ้านเครือข่ายดับไฟป่า (อส.อส.) มาร่วมในการดับไฟป่าด้วย โดยมีเป้าลดพื้นที่ ไฟไหม้ลดลง 50 % จากปี พ.ศ.2566” พล.ต.อ.พัชรวาทกล่าว   

พล.ต.อ.พัชรวาท กล่าวอีกว่า การควบคุมการเผาจากแหล่งกำเนิด คือหัวใจ ทุกหน่วยงานทุกภาคประชาสังคม ต้องช่วยสื่อสารกับประชาชน ซึ่งนอกจากการดูแลตัวเองแล้ว ต้องให้ความร่วมมือปฏิบัติตามคำแนะนำคำร้องขอของภาครัฐด้วย การแจ้งเตือนสถานการณ์ฝุ่นต้องทั่วถึงเท่าเทียมทันท่วงทีเพื่อให้ประชาชนรับทราบข้อมูล ที่รวดเร็วถูกต้อง 

พล.ต.อ.พัชรวาท กล่าวว่า นายกฯ ได้มีการสั่งการให้ตั้งคณะกรรมการระดับชาติขึ้นมาเพื่อกำกับการแก้ไขปัญหาฝุ่น PM 2.5 โดยมอบให้ตนเป็นประธาน และนายกิตติรัตน์ ณ ระนอง ที่ปรึกษาของนายกรัฐมนตรี เป็นรองประธานกรรมการคนที่ 1 รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยเป็นรองประธานคนที่ 2 และเร่งจัดตั้งศูนย์ ปฏิบัติการระดับพื้นที่เพื่อดำาเนินการป้องกันและแก้ไขปัญหาไฟป่า การเผาในที่โล่งหมอกควันและฝุ่นละออง PM2.5 ในพื้นที่ 17 จังหวัดภาคเหนือ ที่มีผู้ว่าราชการจังหวัดเป็นผู้อำนวยการศูนย์ เพื่อเชื่อมโยงนโยบายสู่การปฏิบัติในระดับพื้นที่ ที่มีการบริหารจัดการแบบเบ็ดเสร็จ

“สุดท้ายขอเน้นย้ำให้ทุกหน่วยราชการปฏิบัติการโดยความแม่นยำ รวดเร็ว ทันท่วงที และมีประสิทธิภาพ ในปีนี้ภาครัฐได้มีการเตรียมการอย่างรวดเร็วก่อนสถานการณ์ฝุ่นและพร้อมจะดำเนิน อย่างเต็มที่ ทุกฝ่ายต้องรวมพลังกัน ทุกภาคส่วนรวมถึงพี่น้องประชาชนเพื่อให้สามารถรับมือกับสถานการณ์ฝุ่นที่คาดว่าจะรุนแรงได้ขอเป็นกำลังใจให้ทุกหน่วยงานปฏิบัติงานให้บรรลุเป้าหมายและวัตถุประสงค์ที่ตั้งไว้ทุกประการ” พล.ต.อ.พัชรวาทกล่าว 

จากนั้นพล.ต.อ.พัชรวาท ได้เดินเยี่ยมชมบูธนิทรรศการของหน่วยงานต่างๆที่จัดขึ้น พร้อมทั้งทักทายและให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ที่ร่วมกันทำงานเพื่อประชาชน 

แสดงความเห็น