“สมศักดิ์” ไม่ขัด สธ. พกยาบ้าไม่เกิน 10 เม็ดเป็นผู้เสพ ยัน ไม่เปิดช่องผู้ค้า ดูพฤติกรรมเป็นหลัก ปัดตอบฟื้นรร.บำบัดยุค “ทักษิณ”
ที่ทำเนียบรัฐบาล นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ป.ป.ส.) ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีกระทรวงสาธารณสุขจะออกประกาศกระทรวงให้ผู้ที่พกพายาบ้าไม่เกิน 10 เม็ด เป็นผู้เสพ ว่า คณะกรรมการที่เกี่ยวข้องกับสารเสพติดในเม็ดยา คือ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข แต่การกำหนดยากี่เม็ดจะเป็นผู้เสพ หรือผู้พกพา มีการหารือกัน 4 หน่วยงานคือ ฝ่ายปกครอง ตำรวจ ป.ป.ส. และกระทรวงสาธารณสุข และมีการสรุปผลว่า จะเป็นจำนวนกี่เม็ด ซึ่งได้ส่งความเห็นไปให้ปลัดกระทรวงสาธารณสุขเพื่อพิจารณาออกคำสั่งและส่งมาให้คณะกรรมการ ป.ป.ส.ชุดใหญ่ เพื่อประกาศเป็นแนวทางต่อไป ซึ่งจากหลักการจะเป็นกี่เม็ดเราดูจากพฤติกรรม ผู้เสพ ผู้ขาย และปริมาณสารเสพติดในเม็ด ซึ่งยาบ้า 1 เม็ดมีสารบริสุทธิ์ 10-20 มิลลิกรัม โดยคนเสพจะเสพ 1-3 เม็ดต่อวัน แต่ในขณะที่พฤติกรรมของคนขายจะพกไม่เกิน 10 เม็ด หากพิจารณาถึงความอันตราย คนเสพเกิน 50 มิลลิกรัมต่อวัน จะมีอาการหลอนเหมือนคนบ้า แต่ถ้าวันนึงเสพ 120 มิลลิกรัมจะเสียชีวิต จึงมาวิเคราะห์กันว่า หาก 10 เม็ด มีปริมาณสารในเม็ดยา 15 มิลลิกรัม ถ้าพกไป 10 เม็ด ก็ประมาณ 150 มิลลิกรัม จึงอยู่ในห้วงการพิจารณาว่า จะเป็น 10 เม็ดหรือไม่อย่างไร ซึ่งทางกระทรวงสาธารณสุขต้องนำเรื่องเสนอมา ในส่วนของคณะกรรมการ ป.ป.ส. คงไม่มีปัญหาอะไร
ส่วนที่มีการนำเสนอข่าวว่าหากพกพา 1 เม็ด ถือเป็นการจำหน่ายนั้น ยืนยันว่าไม่ใช่ ปัจจุบันยังเป็น 15 เม็ดอยู่ ส่วนการกำหนดให้การพกพาไม่เกิน 10 เม็ดเป็นผู้เสพ จะเป็นการเปิดช่องหรือไม่นั้น เราดูจากพฤติกรรม แม้จะพกไป 1 เม็ดหรือ 2 เม็ดแต่ถ้ามีพฤติกรรมเป็นผู้ขายก็มีโทษจำคุก แต่หากพกพาเพื่อเสพ เราก็เปิดโอกาสให้นำคนพวกนี้ไปบำบัด โดยจะไม่มีโทษจำคุก โดยการบำบัดจะเป็นการทำงานร่วมกันระหว่างกระทรวงสาธารณสุขและกระทรวงมหาดไทย
ผู้สื่อข่าวถามว่า จะใช้โรงเรียนวิวัฒน์พลเมืองเหมือนกับสมัยรัฐบาลนายทักษิณ ชินวัตร ที่ใช้ในการบำบัดผู้เสพหรือไม่ นายสมศักดิ์ กล่าวว่า มีหลากหลาย เพราะการบำบัดผู้เสพเป็นเรื่องของการบูรณาการ มีหลายหน่วยงานเกี่ยวข้อง ซึ่งใช้งบประมาณ 8 พันล้านบาทต่อปี เป็นเรื่องของการบริหารจัดการของ ป.ป.ส.
นายสมศักดิ์ กล่าวว่า ทราบว่า บอร์ดใหญ่ของศาลฎีกาได้อนุมัติให้มีการเพิ่มแผนกคดียาเสพติดในศาลฎีกา โดยเพิ่มตำแหน่งรองประธานศาลฎีกาด้านยาเสพติด ซึ่งตนได้มีการหารือกับประธานศาลฎีกาเมื่อช่วงกลางเดือน ต.ค. ที่ผ่านมา ว่ารัฐบาลจะสนับสนุนกฎหมายในชั้นศาลอุทธรณ์ต่อไป