นายกฯชู 3 แกนกลยุทธ์ พาประเทศไทยสู้โรคระบาด-ขจัดความยากจนภายใน 2 ปี 

พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม ออกแถลงการณ์กลยุทธ์ 3 แกน สร้างอนาคต ผ่านเว็บไซต์ทำเนียบรัฐบาล thaigov.go.th โดยเป็นการกล่าวถึงอนาคตและการเดินหน้าของประเทศไทย โดยพลเอกประยุทธ์กล่าวว่า ขณะนี้ประเทศไทยกำลังกลับเข้าสู่ภาวะการใช้ชีวิตที่ใกล้เคียงปกติแล้ว แต่ข้างหน้ายังมีภัยร้ายที่ยิ่งใหญ่รอเราอยู่ คือ เราจะอยู่รอดอย่างไรจากสินค้าขึ้นราคาทุกอย่าง ซึ่งสงครามรัสเซีย-ยูเครน เป็นส่วนสำคัญที่กระตุ้นให้ข้าวของแพง ทั้งราคาน้ำมัน อาหาร ค่าขนส่ง จนถึงขั้นทำให้บางประเทศในภูมิภาคเข้าใกล้การล่มสลายทางเศรษฐกิจ วันนี้ จึงอยากเล่าเรื่องที่จะมาแก้ปัญหาปากท้องและความยากจน ให้หมดไป ที่ผ่านมา หลายรัฐบาลที่เข้ามาบริหารประเทศในช่วงสั้นๆ ได้ดำเนินนโยบายแก้ปัญหาความยากจนเฉพาะหน้า หรือมีโครงการลดแลกแจกแถมต่างๆ ซึ่งบางโครงการเป็นสิ่งที่ควรทำ โดยเฉพาะในยามวิกฤต เพื่อช่วยบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชน แต่โครงการแบบนั้นไม่ใช่วิธีที่จะแก้ปัญหาอย่างยั่งยืนและไม่ทำให้ใครรวยขึ้นมาได้

“เพราะฉะนั้น ผมจึงตั้งใจเดินหน้าด้วยความมุ่งมั่น ที่จะทำเรื่องใหญ่ๆ ให้เกิดขึ้นให้ได้ เพื่อช่วยทุกคน ให้สามารถสร้างรายได้ ได้มากขึ้น อย่างยั่งยืน ผมขอให้ทุกท่านเดินหน้าไปกับผม ในช่วงเวลาที่ภารกิจระยะยาวเพื่อทุกคน ที่ผมได้ทำมาอย่างต่อเนื่อง ใกล้จะเสร็จสมบูรณ์แล้ว ผมกำลังขับเคลื่อน กลยุทธ์ภาพใหญ่ที่มี 3 แกนหลัก ที่จะมายกระดับความรุ่งเรืองของประเทศ เป็น 3 แกนหลักที่กำลังจะเสร็จ และกำลังจะพร้อมที่จะช่วยเราทุกคนได้ในอนาคตอันใกล้” นายกรัฐมนตรี กล่าว

นายกรัฐมนตรี กล่าวอีกว่า แกนที่ 1 คือการบูรณาการโครงสร้างพื้นฐานที่ใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ประเทศไทย ทั้งการสร้างทางรถไฟ ถนน สนามบิน หรือท่าเรือ ที่ต้องใช้เวลาก่อสร้างยาวนานหลายปี และตอนนี้ใกล้จะเสร็จสมบูรณ์แล้ว ซึ่งที่ผ่านมา รัฐมักจะวางแผนโครงการที่สวยหรูมากมาย แต่ไม่เคยถูกทำให้เกิดขึ้นจริง ประชาชนหลายสิบล้านคนยังคงต้องใช้ชีวิตโดยไม่ได้รับประโยชน์จากการมีโครงสร้างพื้นฐาน และการคมนาคมขนส่งที่ดีกว่า และถูกกว่า ซึ่งความมุ่งมั่นหลักของตน คือ ทำอย่างไรให้โครงการนับร้อยๆ เหล่านั้น เกิดขึ้นจริง และเป็นไปอย่างบูรณาการ ทั้งนี้ โครงการเหล่านั้นจะเชื่อมต่อกัน เหมือนต่อจิ๊กซอว์ภาพใหญ่ได้สำเร็จ และเมื่อโครงการต่างๆ เหล่านั้นเชื่อมต่อกัน จะเป็นเหมือนสะพานเชื่อม เป็นเครื่องมือให้ทุกคนเข้าถึงโอกาสที่จะสร้างความมั่งคั่งให้กับตัวเอง และประเทศได้

นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า แกนที่ 2 กลยุทธ์สร้างความมั่งคั่งรุ่งเรืองให้กับคนไทย คือแกนที่เกี่ยวกับภาคอุตสาหกรรมทั้งหมด ที่มีการเปลี่ยนแปลงไปสู่การใช้ยานยนต์ไฟฟ้า ซึ่งเกิดขึ้นทั่วโลก ดังนั้น เราต้องเดินหน้าให้เร็วและเร็วกว่าประเทศอื่นๆ ในภูมิภาค ที่พยายามจะดึงเอาอุตสาหกรรมยานยนต์ออกไปจากประเทศไทย ดังนั้นตนได้ขับเคลื่อน และพยายามทำทุกอย่างเพื่อให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางแห่งหนึ่งของโลกในการผลิตยานยนต์ไฟฟ้า โดยต้องล็อกผู้ผลิตยานยนต์ทั่วโลกให้อยู่ในประเทศไทย และเราต้องช่วยให้เรื่องต่างๆ ง่ายขึ้นในการที่จะลงทุนเพิ่ม และขยายธุรกิจของเค้าในประเทศไทย นอกจากนี้ จะต้องทำให้ราคารถยนต์ไฟฟ้า และค่าใช้จ่ายในการใช้รถยนต์ไฟฟ้า มีราคาที่ถูกลง สำหรับคนไทยทุกคน ซึ่งตนจะให้รายละเอียดเพิ่มเติม และความคืบหน้า เกี่ยวกับกลยุทธ์แกนที่ 2 นี้ ประมาณเดือนหน้า

ส่วนแกนที่ 3 คือการสร้างพื้นฐานที่แข็งแรงให้กับประเทศ ช่วยทุกคนให้สร้างความมั่งคั่งให้กับตัวเองอย่างยั่งยืนเกี่ยวกับภาคการธนาคาร และวิธีการทำงานของธนาคาร ที่ผ่านมามีประชาชนมากกว่า 30 ล้านคนไม่สามารถกู้เงินได้ และบางคนไม่เคยมีบัญชีธนาคาร ดังนั้น ถ้าสามารถทำให้ประชาชน 30 ล้านคน เข้าถึงระบบธนาคาร สามารถขอเงินกู้ และใช้บริการต่างๆ จากธนาคารได้ ก็จะสามารถกระตุ้นความมั่งคั่งรุ่งเรืองให้กับประเทศได้ด้วย โดยขอให้ธนาคารเดินหน้าเร็วขึ้น เพื่อเป็นพลังที่สำคัญในการยกระดับประเทศไปสู่อนาคตที่ดี

นายกรัฐมนตรี กล่าวด้วยว่า ถ้าทั้ง 3 แกนเชื่อมถึงกัน ความมั่งคั่งรุ่งเรืองก็จะเกิดขึ้น โดยอุตสาหกรรมใหญ่จะเกื้อหนุนไปสู่ผู้ประกอบการเล็กๆ และเป็นพลังทำให้ความมั่งคั่งรุ่งเรืองเกิดขึ้น ทั้งระดับรากหญ้าและผู้ประกอบการรุ่นใหม่ 

“ขอบคุณทุกคน ที่ใจเย็นกับผม ให้ผมได้เอาแผนโครงการที่ยิ่งใหญ่ ผลักดันมาสู่การปฏิบัติจริง ผมไม่ใช่คนที่แสดงออกหรือนำเสนออะไรได้เก่งนัก แต่ผมรู้ว่า ผมจะต้องทำอย่างไรเพื่อให้เรื่องใหญ่ๆ เกิดขึ้นจริงได้ บางครั้งผมอาจจะพูดอะไรที่ฟังดูตลก แต่ขอให้ทุกท่านรู้ว่า ผมบริสุทธิ์ใจ และหัวใจของผมอยู่กับประชาชนทุกคน และอยู่กับประเทศไทยครับ” นายกรัฐมนตรี กล่าว

นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า วันนี้ขอเชิญชวนทุกคนให้มาร่วมมือกันด้วยสปิริตแบบเดิมที่เคยต่อสู้โควิด-19 ซึ่งเป็นภารกิจที่ยิ่งใหญ่กว่าเดิม ช่วยกันต่อสู้กับโรคระบาด ความยากจน และช่วยกันสร้างเศรษฐกิจของประเทศให้แข็งแรง – ประชาชนทุกคนทุ่มเทความรู้ ความมุ่งมั่น การทำงานหนัก พลังสร้างสรรค์ จิตวิญญาณของการเป็นผู้ประกอบการ และสิ่งที่สำคัญที่สุด คือ จิตวิญญาณที่ยิ่งใหญ่ของความเป็นคนไทย ส่วนตน จะขับเคลื่อนรัฐบาล ให้ทำโครงสร้างพื้นฐานที่ดีที่สุดให้สำเร็จ ช่วยทำภาคอุตสาหกรรมต่างๆ ให้แข็งแรง และช่วยภาคการธนาคารให้ทำงานอย่างสอดคล้องและตอบโจทย์ยุคสมัยใหม่ เพื่อให้ทุกคนมีโอกาสที่จะสร้างความมั่งคั่งให้กับตัวเองได้ ตนเชื่อว่าเราทำได้ครับ และเราจะได้เห็นการผลิดอกออกผล ในเวลาไม่เกิน 2 ปีข้างหน้า

แสดงความเห็น