การประชุมวุฒิสภา (ส.ว.) โดยนายศุภชัย สมเจริญ รองประธานวุฒิสภาคนที่สอง เป็นประธานการประชุม ซึ่งมีกระทู้ถามจากนายวัลลภ ตังคณานุรักษ์ สมาชิกวุฒิสภา เรื่อง ปัญหาคุณภาพและประสิทธิภาพการใช้งานเครื่องติดตามตัวอิเลกทรอนิกส์ หรือ กำไลอีเอ็ม ถึงการตรวจสอบมาตรฐานการใช้งานกำไลอีเอ็มของภาครัฐ
โดยนายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม เป็นผู้ตอบกระทู้ ระบุว่า ตนทราบว่าทางส.ว.ได้ทำการตั้งกระทู้ถามเรื่องนี้มาตั้งแต่เดือน ส.ค.2562 แล้ว แต่ติดภารกิจจึงไม่ได้มาชี้แจง ไม่ได้หลีกหนี หรือหลบเลี่ยงแต่อย่างใด แต่ติดภารกิจอันเป็นวาระสำคัญของประเทศ ซึ่งก็สำคัญไม่แพ้การประชุม ส.ว. วันนี้จึงมาตอบกระทู้ถามในกรณีนโยบายการตรวจสอบกำไลอีเอ็ม โดยขณะนี้รัฐบาลกำลังทำสัญญาชุดใหม่ ที่ต้องผ่านความเห็นชอบของกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี) โดยมีรายละเอียดตามหลักสากล คือใส่บริเวณข้อเท้า ไม่สามารถถอดออกได้ แต่ปกปิดได้ด้วยการใส่กางเกงขายาว ซึ่งได้รับรองจากหน่วยงานต่างประเทศว่าอุปกรณ์ดังกล่าวไม่ทำให้เกิดอาการแพ้ รองรับการทำงานเครือข่าย 3 จีขึ้นไป สามารถทดลองใช้ติดต่อในพื้นที่ทุรกันดารของประเทศได้
สำหรับผู้ต้องหาที่ไม่มีเงินเพียงพอที่จะใช้กำไลอีเอ็มนั้น กระทรวงยุติธรรม ได้มีกองทุนในการประกันตัว และจัดหาทนายความ เพื่อช่วยเหลือผู้มี่รายได้น้อย และลดความเหลื่อมล้ำในการใช้กำไลอีเอ็มอยู่แล้ว ในอนาคตเราจะลดจำนวนคนในเรือนจำโดยการใช้กำไลอีเอ็ม ตั้งเป้าไว้ที่จำนวนหลักหมื่นถึงหลักแสน โดยปัจจุบันมีผู้ต้องขังที่ใชกำไลอีเอ็ม 3,333 คน ผู้ถูกคุมความประพฤติ 3,200 คน และนักโทษ 105 คน ซึ่งทั้ง 3 กลุ่มนี้ โดยหลังจากใช้กำไลอีเอ็มคน 3 กลุ่มนี้ถูกประเมินผลจากศาล พร้อมกับคนในครอบครัวและชุมชนว่า ผลประเมินออกมาดีขึ้น คือผู้ต้องหาที่ใส่มีวินัยดีขึ้น ลดความเสี่ยงในการทำผิดซ้ำได้ ทำให้สังคมรู้สึกมั่นใจในความปลอดภัยมากขึ้น
ขณะที่ผู้ใส่กำไลอีเอ็มแล้วหลบหนีปัจจุบันมีจำนวน 47 ราย มีเจตนาหลบหนีโดยชัดเจน 8 ราย มีเจตนาฝ่าฝืนเงื่อนไข 39 ราย ซึ่งทางศาลได้ออกหมายจับ และดำเนินคดีแล้ว