‘ยศพล เทียงดาห์’ นายทวารสำรองเกือบทศวรรษ กับรางวัล ‘ความอดทน’

DST.Special Report : ‘ซุ้มม้านั่งสำรอง’ น่าจะเป็นสถานที่หนึ่ง ที่เป็นแหล่งศูนย์รวมของผู้คนที่รู้สึกเดียวกันคือ ‘โหยหาโอกาส’

แต่ขณะเดียวกัน คงไม่มีใครยินดีปรีดากับตำแหน่งบนม้านั่งสำรอง เพราะทุกคนล้วนแล้วแต่อยากมีที่ยืนบนสนามในฐานะผู้เล่นตัวจริงกันทั้งนั้น

สถานที่นี้มันอาจไม่ได้เลวร้ายอะไรหากได้อยู่เพียงชั่วครั้งชั่วคราว แต่เมื่อไหร่ที่มันกลายเป็น ‘สถานที่ประจำ’ ส่วนใหญ่ต่างต้องดิ้นรนดีดตัวออกจากตรงนั้นทั้งสิ้น

ในโลกฟุตบอล คนบางคนอดทนนั่งอยู่ตรงนั้นได้ 1-2 ปี ก็เลือกที่จะลุกไปหาสถานะตัวจริงกับสถานที่แห่งใหม่ แต่มีไม่กี่คนที่อดทนรอโอกาสได้เป็นสิบๆ ปี

1 ในนั้นคือ หนีไม่พ้น ‘เจ้าเต้ย’ ยศพล เทียงดาห์ นายทวารมือสามของ ‘ปราสาทสายฟ้า’ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ที่ปัจจุบันถูกปล่อยไปให้ ‘จงอางผยอง’ ขอนแก่น ยูไนเต็ด ยืมตัวไปใช้งาน

‘เจ้าเต้ย’ ขายวิญญาณให้กับ ‘ปราสาทสายฟ้า’ ตั้งแต่ปี 2012

เขาเป็นตัวสำรองให้กับผู้ชายที่ชื่อ ‘เจ้าแชมป์’ ศิวรักษ์ เทศสูงเนิน นายทวารจอมเก๋าทีมชาติไทยมาตั้งแต่วันแรกที่สวมยูนิฟอร์มสีน้ำเงินจนถึงวันนี้ 

ต้องบอกว่า บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด เป็นทีมใช้บริการผู้รักษาประตูได้ประหยัดมาก เพราะพวกเขาไม่เคยตกเป็นข่าวพัวพันกับนายทวารคนใดเลย ส่วนหนึ่งเพราะ ‘เจ้าแชมป์’ สามารถยืนระยะ รักษาฟอร์ม รักษาร่างกายตัวเองเป็นอย่างดี

‘เจ้าแชมป์’ เป็นพวกระดูกเหล็ก ไม่เจ็บ ไม่ไข้ ฟอร์มออกทะเลบ้าง แต่ก็กลับเข้าที่เข้าทางได้รวดเร็ว เหตุนี้มันจึงทำให้โอกาสสอดแทรกไปยืนบนเส้นประตูแทนของ ‘เจ้าเต้ย’ น้อยลงไปอีก

พูดถึงตรงนี้ เชื่อหรือว่า มีหลายคนไม่รู้จักด้วยซ้ำว่า ผู้รักษาประตูสำรองของบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด เป็นใคร

ถามว่า มีใครเคยเห็นหน้าผู้สำรองหรือไม่ ย่อมต้องเคยเห็นเมื่อกล้องแพลนไปที่ซุ้มม้านั่งสำรอง เรียกว่า ซูมไปกี่ครั้งก็เจอเขาใส่เสื้อกั๊กที่บ่งบอกสถานะ ‘ตัวสำรอง’ ทุกรอบ

เห็นแบบนี้กันมาเป็นสิบๆ ปีแล้ว

เรียกว่า รู้จักหน้า รู้จักตา หรืออาจจะรู้จักชื่อด้วย แต่ไม่เคยเห็นฟอร์มเลย

เคยมีการเก็บสถิติของ ‘เจ้าเต้ย’ เอาไว้เหมือนกัน ว่าตลอดระยะเวลาค้าแข้งกับปราสาทสายฟ้า เขาได้ยืนเฝ้าเสาให้กับต้นสังกัดไปแล้วกี่นัด ปรากฏว่า เฉลี่ยตกปีละ 1 นัดเท่านั้น 

จนเคยมีคนตั้งฉายาเขาด้วยซ้ำว่า เป็น ‘มือสองตลอดกาล’

หลายคนทึ่งที่เวลาผ่านไปนานนับทศวรรษ แต่เขายังนั่งอยู่ที่เดิมโดยไม่เคยปริปากบ่น หากเป็นหลายคนคงเผ่นแนบไปแล้ว 

แต่สำหรับ ‘เจ้าเต้ย’ เขาอยู่ตรงนี้ได้นาน เพราะมีทัศนคติเชิงบวก ที่ว่า การได้เป็นส่วนหนึ่งของสโมสรที่ยิ่งใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งในประเทศไทย

ขณะเดียวกัน ทุกโมงยามที่ยังอยู่กับสโมสร เขาซ้อมและซ้อมอย่างหนัก ไม่ได้คิดว่า จะนั่งผลาญค่าแรงไปวันๆ โดยไม่ต้องเหนื่อย

‘โซรัน มิยาโนวิช’ โค้ชผู้รักษาประตูของ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด เคยบอกเอาไว้ว่า ‘ยศพล’ เป็นนักเตะที่มีมาตรฐานและความเป็นมืออาชีพสูง อยู่กับทีมด้วยทัศนคติที่ยอดเยี่ยม

ที่ผ่านมามีบ้างที่ ‘เจ้าเต้ย’ ถูกปล่อยให้ไปปัดฝุ่นที่ถุงมือกับสโมสรอื่นๆ ในฐานะ ‘ยืมตัว’ ไม่ว่าจะที่สุรินทร์ ซิตี้ และขอนแก่น ยูไนเต็ด (รอบแรก ฤดูกาล 2016)

และก็กลับมาคอยแสตนด์บาย ‘ศิวรักษ์’ ในซุ้มม้านั่งสำรองเหมือนเดิม

การเป็นมือสองที่ต้องอดทนคอยตำแหน่งเดียวที่เปลี่ยนแทนกันได้ในสนามว่ายากแล้ว จบฤดูกาลก่อน บุรีรัมย์ ยูไนเต็ดตัดสินใจดึงตัว ‘นพพล ละครพล’ นายทวารดาวรุ่งของทีมที่ถูกส่งไปเพิ่มแคลเซียมและชั่วโมงบินจากนครปฐม ยูไนเต็ด กลับมาใช้งาน

‘นพพล’ คือ คนที่ถูกวางตัวให้ทายาทของ ‘ศิวรักษ์’ นั่นเท่ากับว่า ‘เจ้าเต้ย’ ตกมาเป็นมือสาม ทำให้โอกาสลงสนามของเขาหากยากยิ่งขึ้นไปอีก

กระทั่งก่อนฤดูกาลจะเปิด ‘จงอางผยอง’ ขอนแก่น ยูไนเต็ด ตัดสินใจขอยืมใช้งานจากบุรีรัมย์ 

การไปขอนแก่น ยูไนเต็ดของ ‘เจ้าเต้ย’ เหมือนโอกาสลงนามจะเปิดกว้างมากขึ้น แต่กลายเป็นว่า ที่สุดมันคือ การหนีตำแหน่งผู้รักษาประตูมือสามจากดินแดนปราสาท เพื่อไปเป็นผู้รักษาประตูมือสามที่เมืองหมอแคน

ที่นั่น มี ‘เจ้าพีซ’ จิรวัฒน์ วังทะพันธ์ เด็กปั้นของทีมเป็นมือหนึ่ง มี ‘เจ้ากี้’ ธีรัตม์ นาคชำนาญ เป็นมือสอง เขาต้องต่อคิวอีก 2 คนเหมือนเดิม

กระนั้น ไม่มีการปริปรากจากผู้ชายคนนี้เช่นเดิม ก้มหน้าก้มตาซ้อม รอโอกาสมาถึง กระทั่งเกมลีกของเขาในไทยลีกกับขอนแก่น ยูไนเต็ด ก็เกิดขึ้น หลังเปิดฤดูกาลมาได้ 13 นัด

มันเป็นเรื่องที่ไม่เกิดขึ้นบ่อยนัก โดยในเกมนัดที่ 12 กับเชียงใหม่ ยูไนเต็ด พวกเขาเสียนายประตูถึง 2 คน ในเกมเดียว โดย ‘เจ้าพีช’ นายทวารมือหนึ่งเจ็บตั้งแต่ครึ่งแรกจากจังหวะออกมาตัดบอล ‘เจ้ากี้’ นายทวารมือสองที่ถูกเปลี่ยนลงมาแทนที่ ถูกใบแดงในท้ายเกม จนต้องใช้ผู้รักษาประตูจำเป็น เพราะเปลี่ยนครบแล้ว

เมื่อมือหนึ่งและมือสองหมดสิทธิ์ลง ‘ยศพล เทียงดาห์’ จึงได้ยืนเฝ้าเสาในนัดเจอกับแบงค็อก ยูไนเต็ด เกมนั้นเขาเซฟได้หลายจังหวะจนได้รับคำชม แต่พวกเขาพ่ายแพ้ไปแบบดราม่า

แต่อย่างไรก็ดี ‘เจ้าเต้ย’ ได้รับโอกาสมากขึ้น แม้ ‘เจ้าพีซ’ และ ‘เจ้ากี้’ จะกลับมาเล่นได้แล้วก็ตาม อย่างล่าสุดก็ลงเป็นตัวจริงในเกมกับการท่าเรือ เอฟซี ที่หวิดจะชนะ นั่นเพราะเขาแสดงให้เห็นว่า เมื่อมีโอกาส ก็พร้อมจะตอบสนองความไว้วางใจ

หากจะหานักเตะที่มีทัศนคติดีๆ สักคน ‘ยศพล’ ต้องอยู่ในนั้น.

__________
เรียบเรียงโดย : วนิลาสกาย
ขอบคุณภาพ : APD Goalkeeper Sport & Fashion, KHON KAEN UNITED

แสดงความเห็น