นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รมว.ยุติธรรม และแกนนำพรรคพลังประชารัฐ กล่าวถึงเสียงส.ส.ของรัฐบาลที่ยังปริ่มน้ำ ว่า อาจต้องพบปะพูดคุยกันมากขึ้นก่อนที่จะพิจารณาญัตติสำคัญ และเมื่อมีเสียงที่ปริ่มน้ำก็เป็นธรรมดาที่จะเห็นงูเห่าเกิดขึ้นมาได้ ที่ผ่านมาทุกรัฐบาลก็เคยเกิดขึ้น ยกตัวอย่างการเมืองในสหรัฐอเมริกาที่จะมีการถอดถอนประธานาธิบดี ซึ่งก็อาจจะมีงูเห่า เป็นเรื่องคณิตศาสตร์ เพื่อนฝูงต่างพรรคก็อาจช่วยกัน จึงไม่ใช่เรื่องใหม่เลย มีเกิดขึ้นมาตลอดในทุกรัฐบาลในอดีต ส่วนที่มีการขับไล่ ส.ส.ออกจากพรรค อาจส่งผลให้เสียงของรัฐบาลที่ปริ่มน้ำอาจสมบูรณ์ขึ้นจากเดิมพอสมควร
ผู้สื่อข่าวถามถึงเสียงวิจารณ์ว่ารัฐบาลยังไม่ได้ทำตามนโยบายที่หาเสียงไว้ นายสมศักดิ์ กล่าวว่า เมื่อเป็นรัฐบาลผสมนโยบายจะต้องมาแลกเปลี่ยนกัน ก็อาจทำนโยบายของแต่ละพรรคไม่ได้ 100 เปอร์เซ็นต์ แต่หากทำเต็มที่แล้ว เชื่อว่าประชาชนจะเข้าใจโดยประชาสัมพันธ์ผลงานที่ทำไปแล้ว
ส่วนการอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลหรือปัญหาต่างๆ จะเป็นผลให้เกิดการปรับครม.ตามมาหรือไม่ นายสมศักดิ์ กล่าวว่า การปรับครม.ไม่น่าตกใจ เพราะเป็นไปตามสถานการณ์ และปรับเพื่อเติมในส่วนที่คิดว่าการทำงานยังไม่แน่น แต่ไม่รู้ว่านายกฯคิดอย่างไร ซึ่งในประเพณีปฏิบัติก่อนหรือหลังการอภิปราย ผู้บริหารสูงสุดจะมองเห็นถึงจุดอ่อนและจุดแข็งของการทำงานไปตามสถานการณ์ แต่คงไม่ใช่สาเหตุ เพราะถูกอภิปราย หรือมีกิจกรรมการทางการเมืองอะไร
ต่อข้อถามว่า รัฐบาลจะอยู่ครบ 4 ปีหรือไม่ นายสมศักดิ์ กล่าวว่า เป็นสูตรตายตัวไม่ได้ และมีความเป็นไปได้สูงที่รัฐบาลจะอยู่ครบเทอม และหากเลือกตั้งบ่อยก็อาจบอบช้ำไปด้วย จึงควรใช้เวลานี้ทำประโยชน์กับประชาชน ส่วนฝ่ายค้านก็ยังไม่อยากเลือกตั้งใหม่ เพราะจะได้มีเวลาแก้ไขรัฐธรรมนูญด้วย ซึ่งผู้บริหารอาจจะอยากอยู่นานหรือไม่นานได้ทั้งนั้น
นายสมศักดิ์ ยังกล่าวถึงกรณีนิด้าโพล สำรวจความเห็นประชาชนเรื่องนายกรัฐมนตรีในใจ พบว่า นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ มีคะแนนเป็นอันดับ 1 ส่วนพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม อันดับ 2 ถือว่านายกฯอยู่ในช่วงขาลงหรือไม่ ว่า ไม่หรอก เพราะโพลส่วนใหญ่ที่สำรวจในช่วงที่รัฐบาลบริหารงานส่วนใหญ่นายกฯไม่ค่อยได้เป็นที่หนึ่ง และโพลก็อาจจะถามในกลุ่มเป้าหมายใดเป้าหมายหนึ่ง เช่น ไปทำในกลุ่มที่สนับสนุนนายธนาธร ก็อาจจะได้ความนิยมเยอะ แต่ถ้าเป็นโพลของสำนักงานสถิติแห่งชาติ ถามทีละ 5-6 หมื่นคนจะเป็นอีกเรื่องหนึ่ง แต่ถ้าถามถึง 300-400 คน แล้วมาชี้ว่าเป็นความคิดเห็นของคนทั้งประเทศไม่ได้ เรื่องนี้คงไม่มีปัญหาอะไร และตนเคารพในสิทธิการทำโพลและคำวิพากษ์วิจารณ์ของทุกคน