พระมหาสมปอง ยืนยัน พระมหาไพรวัลย์ สึกแน่ 4-5 ธันวานี้ พร้อมเปิดใจกับสื่อมวลชนหลังเป็นฆราวาส ยืนยัน ตัดสินใจด้วยตนเองไม่มีรับงาน-รับเงิน และไม่เล่นการเมือง ส่วนพระมหาสมปองมีกำหนดการสึก 3 พ.ย.66
บรรยากาศที่วัดสร้อยทอง ตลอดช่วงเช้าวันนี้มีสื่อมวลชนจำนวนมาก มาติดตามความเคลื่อนไหว พระมหาไพรวัลย์ หลัง เปลี่ยนชื่อเพจเป็น “ไพรวัลย์ วรรณบุตร” และมีกระแสข่าวถึงการลาสิกขาบท โดยช่วงเช้าพระมหาไพรวัลย์เก็บตัวอยู่ในกุฏิและยังไม่ได้ออกมาชี้แจงกับสื่อมวลชน จนเวลาประมาณ 10.00น.ได้มีรถเอสยูวี 5 ประตูสีแดง ขับมารับพระมหาไพรวัลย์ด้านหลังกุฏิ แล้วขับออกไปทันที โดยสื่อมวลชนไม่ทันได้บันทึกภาพใดๆ
จากนั้น พระมหาสมปอง ได้ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนแทน โดยก่อนให้สัมภาษณ์ ได้วิดีโอคอลหา พระมหาไพรวัลย์ ต่อหน้าสื่อมวลชน และพยายามที่จะตามให้พระมหาไพรวัลย์มาให้สัมภาษณ์สื่อมวลชน ซึ่งพระมหาไพรวัลย์ ได้แจ้งผ่านพระมหาสมปองว่า ให้ตอบคำถามแทนได้ทุกเรื่อง และตนเองจะให้สัมภาษณ์ทีเดียวหลังลาสิกขา ก่อนที่พระมหาไพรวัลย์จะขอให้พระมหาสมปองถ่ายภาพสื่อมวลชนที่มาด้วย พระมหาสมปอง กล่าวติดตลกว่า เคยติวแล้วว่าเป็นศัตรูกับใครก็ได้อย่าเป็นศัตรูกับสื่อมวลชน ก่อนจะวางสายไป
จากนั้น พระมหาสมปอง ได้ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีดังกล่าวว่า พระมหาไพรวัลย์ ได้แจ้งกับตนว่า รู้สึกเบื่อ แล้ว รำคาญ ดูแล้วไม่น่าจะมีการเปลี่ยนแปลงแล้วเรื่องการแต่งตั้งเจ้าอาวาสฯ ซึ่งที่ผ่านมา มีการขอให้งดการไลฟ์สดแบบคู่กัน ซึ่ง พระมหาไพรวัลย์ ก็เคยบอกว่า ห้ามอะไรก็ห้ามได้ แต่อย่าห้ามไลฟ์ และที่ถูกสั่งห้ามไลฟ์เพราะเหมือนโดนหลอกให้นิ่ง ไม่ให้พูด เพราะดูไม่น่ารัก พระมหาสมปอง บอกว่า จะมีการออกงานคู่กันครั้งสุดท้ายที่จังหวัดเชียงใหม่ ในวันที่ 3 ธันวาคม และคาดว่า ประมาณวันที่ 4 หรือ 5 ธันวาคม พระมหาไพรวัลย์ จะลาสิกขา และคาดว่าจะให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนในฐานะฆราวาสวันที่ 6 ธันวาคม
ทั้งนี้ พระมหาไพรวัลย์ ค่อนข้างมั่นใจว่า เจ้าคุณอุทัย รักษาการเจ้าอาวาสวัดสร้อยทอง คนปัจจุบัน จะไม่ได้ขึ้นตำแหน่งเจ้าอาวาส ซึ่งมหาไพรวัลย์มองว่า เป็นความไม่ยุติธรรม จึงขอถวายตำแหน่งในฐานะเป็นพระลูกวัดสร้อยทอง ให้กับเจ้าคุณอุทัย เพราะไม่มีอะไรจะมอบให้มากกว่านี้ และเชื่อว่ามีทั้ง 2 กลุ่ม ที่ทั้งอยากให้สึก และไม่อยากให้สึก ซึ่งที่ไม่อยากให้สึกส่วนใหญ่จะเป็นลูกเพจ พร้อมยืนยันว่า การตัดสินใจสึกครั้งนี้ พระมหาไพรวัลย์ ตัดสินใจทุกอย่างด้วยตนเอง ไม่มีรับงานไม่มีรับเงินใดๆ และที่เจอล่าสุด ก็ร่าเริงแจ่มใส ปกติดีไม่เครียด ส่วนแนวทางหลังจากสึกออกไปแล้ว น่าจะทำให้การพูดและการบรรยายทำได้เต็มที่ และพูดได้แรงมากกว่านี้ด้วย และอาจจะมีนักวิชาการด้านพุทธศาสนาที่ไม่แบ๊ว อาจจะจึ้ง ต๊าซ โดนใจ เข้มขึ้นมากขึ้นอีกคนหนึ่ง รวมถึงอาจจะมีร้านกาแฟด้วย แต่ยืนยันว่า พระมหาไพรวัลย์ไม่ไปเล่นการเมือง แม้ส่วนตัว อยากเห็นน้องอยู่ในสภา และสื่อสารข้อมูลที่เป็นจริง ฟาดในสภาก็ตาม
พระมหาสมปอง ยังบอกอีกว่า กรณีที่ท่านเจ้าคุณอุทัยไม่ได้ขึ้นตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดสร้อยทองนั้น ท่านก็ยังมีตำแหน่งอาจารย์อื่นๆ ซึ่งต่อให้ไม่ว่าท่านจะอยู่ในตำแหน่งไหน วงการสงฆ์ต้องอยู่ และพระพุทธศาสนาต้องไม่เสียหาย และส่วนตัว แล้วแต่ใครจะขึ้น เพราะตนเองไม่ได้ทำประโยชน์ให้กับวัดมาก เพิ่งจะมาทำในช่วงหลังที่แบทเทิลคู่กับพระมหาไพรวัลย์ พร้อมยอมรับว่า ส่วนตัวพระหาสมปอง มีกำหนดการที่จะลาสิกขา ในวันที่ 3 พ.ย.2566 ซึ่งตรงกับวันเกิดอายุครบ 44 ปี ซึ่งสาเหตุที่จะลาสิกขา มองว่า เป็นเรื่องธรรมดา เพราะมีนิสิตมหาจุฬาฯ หลายคนที่ลาสิกขาไปทำเรื่องอื่นๆ ซึ่งคนเรามีหลายสถานภาพ ยืนยันว่า กำหนดการสึกของตนเองไม่ได้มีแรงกดดันใดๆและหากจะสึกก็สึกเพราะตนเองไม่ได้สึกเพราะคนอื่น
ด้าน นายกมลชัย ประจัน หนึ่งในลูกศิษย์ของพระมหาไพรวัลย์ และพระหมาสมปอง บอกว่า วันนี้ตั้งใจเดินทางมาหาพระทั้ง 2 รูป และรู้สึกเสียดายที่ทราบข่าวว่าท่านจะสึก หลังจากติดตามมานานกว่า 4 ปี พระมหาไพรวัลย์ ท่านเป็นนักเทศน์ที่จะเข้าไปเทศตามโรงเรียน ตามชุมนุมต่างๆ ทำให้การสอนธรรมะสนุกสนาน เข้าใจง่าย และแม้ท่านจะสึกออกไปแล้ว ก็จะยังรอติดตามเหมือนเดิม และเคารพการตัดสินใจของพระมหาไพรวัลย์
แสดงความเห็น
