รมว.ยุติธรรม ลงพื้นที่ 3 จ.ภาคใต้ คิกออฟปลดล็อกพืชกระท่อมพรุ่งนี้ ผลักดันเป็นพืชเศรษฐกิจ

รมว.ยุติธรรม ควง เลขา ป.ป.ส. ลงพื้นที่ 3 จ.ภาคใต้ คิกออฟปลดล็อกพืชกระท่อมพรุ่งนี้ ย้ำทำกฎหมายเพื่อประโยชน์ของประชาชน ใช้ได้เสรีตามวิถีชีวิตแต่อย่าไปทำ 4×100 หวังผลักดันเป็นพืชเศรษฐกิจส่งออกสร้างรายได้ ชาวบ้านยก “สมศักดิ์” เป็นบิดาพืชกระท่อมไทย

นายสมศักดิ์ เทพสุทิน พร้อมด้วยนายวิชัย ไชยมงคล เลขาธิการ ป.ป.ส. เดินทางตรวจเยี่ยมพื้นที่ 3 จังหวัดพื้นที่นำร่องพืชกระท่อม คือ บ้านนาสาร ต.น้ำพุ จ.สุราษฎร์ธานี ต.คลองกระบือ อ.ปากพนัง จ.นครศรีธรรมราช และ ต.นาพละ อ.เมือง จ.ตรัง เพื่อขอบคุณประชาชนที่สนับสนุนให้กระทรวงยุติธรรมยกเลิกพืชกระท่อมออกจากบัญชียาเสพติดได้สำเร็จ และมอบแนวนโยบายเกี่ยวกับพืชกระท่อมในอนาคต โดยมีนายวิชวุทย์ จินโต ผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี นายไกรศร วิศิษฎ์วงศ์ ผวจ.นครศรีธรรมราช นายขจรศักดิ์ เจริญโสภา ผวจ.ตรัง นายสัณหพจน์ สุขศรีเมือง ส.ส.นครศรีธรรมราช พรรคพลังประชารัฐ ข้าราชการ หัวหน้าส่วนราชการ กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ผู้นำชุมชนและชาวบ้านในพื้นที่ร่วมงาน ทั้งนี้ก่อนเดินทางนายสมศักดิ์ และคณะได้ทำการตรวจหาเชื้อโควิด-19 ด้วยชุดตรวจ ATK ซึ่งผลออกมาเป็นลบทั้งหมด และในงานได้มีมาตรการคัดกรองและควบคุมโรคอย่างเข้มงวด

โดยนายวิชวุทย์ กล่าวว่า ชาวบ้านนาสาร จ.สุราษฎร์ธานี ภาคภูมิใจที่เป็นส่วนหนึ่งในการประกาศอิสรภาพของพืชกระท่อม เพราะที่แห่งนี้ถือเป็นเมืองหลวงของพืชกระท่อม นอกจากนี้ชาวบ้านได้ยกย่องให้นายสมศักดิ์ เป็นบิดาแห่งพืชกระท่อมไทย ที่ช่วยให้พืชกระท่อมเป็นพืชสารพัดประโยชน์ ทำให้ชาวบ้านสามารถใช้ได้ตามวิถีชีวิต รวมถึงมีประโยชน์ทางการแพทย์อย่างมาก ช่วยให้ชาวบ้านสามารถทำเป็นพืชทางการเกษตรได้และคนที่ถูกดำเนินคดีก็จะเป็นอิสระด้วย

นายสมศักดิ์ กล่าวว่า พืชกระท่อมเดิมเป็นยาเสพติดให้โทษประเภท5 แต่หลังจากที่พ.ร.บ.ยาเสพติดให้โทษ (ฉบับที่ 8) พ.ศ.2564 ถอดพืชกระท่อมออกจากการเป็นยาเสพติดให้โทษในประเภท 5 ประกาศในราชกิจจานุเบกษาเมื่อวันที่ 26 พ.ค. 2564 และมีผลใช้บังคับเมื่อพ้นกำหนด 90 วันนับแต่วันประกาศในราชกิจจานุเบกษาซึ่งจะตรงกับวันพรุ่งนี้ประชาชนสามารถนำพืชกระท่อมมาใช้ประโยชน์ในรูปแบบวิถีชาวบ้านได้โดยไม่ผิดกฎหมาย รวมถึงการใช้พืชกระท่อมทางการแพทย์ การศึกษาวิจัย ในขณะนี้ ได้มีการเสนอร่าง พ.ร.บ.พืชกระท่อม พ.ศ…. ซึ่งอยู่ในกระบวนการพิจารณาของสภาผู้แทนราษฎร ซึ่งร่างกฎหมายมีหัวใจการกำหนดมาตรการกำกับดูแลและป้องกันการนำพืชกระท่อมไปใช้ในทางที่ผิดภายหลังถอดให้โทษ โดยเฉพาะควบคุมไม่ให้เด็กและเยาวชนนำกระท่อมไปใช้ในทางที่ผิด และให้ชาวบ้านเข้าถึงการปลูกและแปรรูปพืชกระท่อมได้ สามารถรวมกลุ่มสหกรณ์ วิสาหกิจชุมชน หรือเป็นรายบุคคลเพื่อจำหน่ายเองได้ ดังนั้น พ.ร.บ.พืชกระท่อม ฉบับนี้จึงถือเป็นกฎหมายที่มาจากวิถีชาวบ้านความต้องการของประซาชนโดยประชาชน เป็นผู้ได้ประโยชน์สูงสุดอย่างแท้จริง

“วันนี้ผมดีใจไม่แพ้กับพี่น้องชาวใต้ ซึ่งวันพรุ่งนี้ (24 ส.ค.) เราจะได้กระท่อมเสรี เป็นความดีใจและภาคภูมิใจร่วมกัน ที่เราได้ร่วมทำงานหนักกันมาโดยตลอด ผมลงมาที่นี่หลายครั้งตั้งแต่เราได้ดำเนินการปลดล็อก และได้มาพูดคุยหวังให้พืชกระท่อมเป็นพืชเศรษฐกิจ ตอนนี้เรากำลังปลูกเสรี ใช้เสรี แต่อย่าเอาไปผสมยาเสพติดทำเป็น 4×100 เพราะมีความผิด ผมขอขอบคุณทุกท่านที่ร่วมใจเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน หากเราไม่ร่วมมือกันโอกาสปลดล็อกก็คงยาก เราปฏิบัติดีประพฤดีทำให้หลายฝ่ายเห็นจนสนับสนุนเรา ในสมัยก่อนรัฐบาลก็เคยคิดจะปลดล็อกแต่ทำไม่สำเร็จ จนผมเข้ามาเป็น รมว.ยุติธรรม ได้เห็นแนวทาง และเห็นปัญหาคนล้นคุก มีคนที่เกี่ยวข้องกับคดีพืชกระท่อมเยอะ ซึ่งตนได้นำความรู้ของรุ่นพี่ที่ทำไม่สำเร็จ ทำให้เข้าถึงพี่น้องประชาชน และที่ผ่านมามี ส.ส.หลายท่านมีความคิดที่จะปลดล็อก เราจึงร่วมแรงร่วมใจกัน” นายสมศักดิ์ กล่าว

นายสมศักดิ์ กล่าวอีกว่า แต่สิ่งหนึ่งที่ตนตั้งใจให้พืชกระท่อมเป็นพืชเศรษฐกิจ เราจะทำอย่างไร พืชกระท่อมมีสรรพคุณทางยาสูง วันนี้มีการผลิตผงจากใบแห้งขายสหรัฐฯ ตรงนี้จะเป็นเศรษฐกิจใหม่ที่ขายต่างประเทศได้ เราต้องทำให้ได้ การดำเนินการต่างๆต้องทำให้สอดคล้องกับราคาตลาด เราไม่ควรใช้ในครัวเรือนอย่างเดียวแต่ต้องทำเป็นพืชเศรษฐกิจ หากในภาครัฐได้จัดระเบียบการปลูก การผลิต เป็นอุตสาหกรรมให้เรียบร้อย ตนเชื่อว่าประเทศไทยจะเป็นมหาอำนาจได้ต่อไป และที่ชาวบ้านยกย่องตนเป็นบิดาแห่งพืชกระท่อมไทย ผมคิดว่า น่าจะเป็นนายสงคราม บัวทอง กำนัน ต.น้ำพุ มากกว่า ที่เป็นผู้ริเริ่มและผลักดันมานานแล้ว ทั้งนี้ในขณะนี้ในส่วนของกรมราชทัณฑ์มีผู้ต้องขังคดีพืชกระท่อม 1,038 ราย ที่รอหมายศาลปล่อยตัว ส่วนในชั้นอัยการที่กำลังพิจารณาคดีมี 9,000 คดี ในชั้นสอบสวนของตำรวจมี 2,400 คดี ซึ่งทั้งหมดนี้จะรับการปล่อยตัวและยกเลิกคดีทั้งหมด

จากนั้นได้มีการมอบใบประกาศเกียรติคุณ ให้แก่ผู้สนับสนุนพื้นที่นำร่องในการควบคุมพืชกระท่อม โดยการมีส่วนร่วมของชุมชน 189 คน ทั้งนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ทางชาวบ้าน ได้ให้วงฌา-มา แต่งเพลงเพื่อขอบคุณรัฐบาลและนายสมศักดิ์ ที่ช่วยปลดล็อกพืชกระท่อมจนสำเร็จ โดยมีชื่อเพลงว่า “24 สิงหาชาวประชาเฮโล”

แสดงความเห็น