‘ภาณุพงศ์ พลซา’ สกิล+ทัศนคติ กับปีที่ต้องจับตาผลงาน

DST.Special Report : ไม่ว่าฟุตบอลสมัยเก่า หรือสมัยใหม่ การเล่นได้มากกว่า 1 ตำแหน่งบนสนามรูปทรงสี่เหลี่ยม ทำให้ขนาดของโอกาสในการได้รับเลือกให้ลงเล่นในฐานะ 11 ตัวจริง มีสูงกว่าคนอื่นๆ

อาจจะมีบางคนพูดว่า การได้เล่นในตำแหน่งที่ตัวเองถนัด จะทำให้แสดงแสนยานุภาพของตัวเองได้เต็มพิกัดมากกว่า ซึ่งไม่ผิดเช่นกัน

มันอยู่ที่ว่า นักเตะคนนั้นๆ มีทัศนคติอย่างไรในโลกฟุตบอล 

แต่สำหรับ ‘เจ้าดิว’ ภาณุพงศ์ พลซา ดาวเตะของ ‘ฉลามชล’ ชลบุรี เอฟซี การลงเล่นในหลายตำแหน่งคือ การเรียนรู้และเปิดรับสิ่งใหม่ๆ เสมอ

ที่ชลบุรี เอฟซี โดยเฉพาะในฤดูกาลที่ผ่านมา ‘เจ้าดิว’ ลงเล่นในหลายพื้นที่ของสนามฟุตบอล ไม่ว่าจะเป็นปีกขวา ปีกซ้าย วิงขวา วิงซ้าย แบ็กขวา แบ็กซ้าย กองกลาง เรื่อยไปถึงกองหน้า

จะบอกว่า เป็นนักเตะที่ไม่ว่าผู้เป็นโค้ชสั่งให้ไปทำอะไรในสนาม เขาจะสนองสิ่งเหล่านั้นได้ ประหนึ่งร้านอาหารตามสั่งที่พร้อมจะทอด ผัด แกง ต้ม ได้เมื่อคุณลูกค้าออเดอร์มา 

จึงไม่แปลกนัก ที่ในยุคของ ‘โค้ชเตี้ย’ สะสม พบประเสริฐ ‘เจ้าดิว’ จะได้รับโอกาสสม่ำเสมอ จนก้าวเข้าสู่การติดทีมชาติชุดใหญ่ในยุคของ ‘อากิระ นิชิโนะ’ เฮดโค้ชเลือดซามูไร

ปีก่อน ‘ภาณุพงศ์’ ลงเล่นให้ชลบุรีไป 20 กว่าเกม หากวันไหน ‘โค้ชเตี้ย’ งัดกลศึก 3-5-2 เขาจะถูกจับไปเล่นตรงกลาง แต่หากวันไหน ‘โค้ชเตี้ย’ ใช้กลศึก 4-3-3 เขาจะถูกถ่างไปเล่นปีกขวา 

จุดเด่นของอดีตนักเตะทีโอที เอสซี สมัยกุนซือหนวดเฟิ้ม เครางาม ‘สมชาย ทรัพย์เพิ่ม’ คือ นอกจากเล่นได้หลากหลายตำแหน่ง ยังเป็นคนที่หัวไว ปรับตัวเข้ากับแท็กติกต่างๆ ได้อย่างแยบยล ไม่ว่าจะเป็นเพรสซิ่ง หรือบอลไดเรกซ์ 

แต่ที่เด่นจัดๆ สัมผัสได้คือ ความทุ่มเท ไม่ได้เป็นประเภทเดินฉุยฉายในสนาม แต่วิ่งเข้าหาบอล มากกว่าจะให้บอลกลิ้งมาหา ซึ่งคุณสมบัติเหล่านี้ทำให้ลำแสงของเขาสาดไปแทงตา ‘นิชิโนะ’ นั่นเอง

อดีตนักเตะจากสถาบันปั้นนักเตะชื่อดังอย่างอัสสัมชัญศรีราชา มีโอกาสได้ลงสนามในนามทีมชาติ และสามารถทำประตูได้เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ในนัดอุ่นเครื่องทีมทีมออลสตาร์ไทยลีก โดยวันนั้นเขาถูกส่งไปเล่นในตำแหน่งปีกขวา

นอกจากนี้ ยังถูกติดสอยห้อยตามไปสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (ยูเออี) ในศึกฟุตบอลโลกรอบคัดเลือก และลงเล่นในเกมอุ่นเครื่องกับทิจิกิสถาน แม้จะไม่ได้มีโอกาสลงเล่นในนัดคัดฟุตบอลโลกก็ตาม แต่ถือเป็นการเข้าสะสมหลักไมล์และชั่วโมงบิน

ปัจจุบัน เด็กหนุ่มจากจังหวัดเลย มีอายุ 27 ปี ที่จากสถิติเป็นขวบวัยที่นักเตะหลายคน พบเจอกับ ‘ความพีค’ ของตัวเองในช่วงระยะนี้ ทำให้ฤดูกาลนี้ เขาถูกจับตามองอย่างมากว่า จะแสดงพลานุภาพของตัวเองได้เปรี้ยงปร้างกว่าปีก่อน

‘ภาณุพงศ์’ อาจไม่ใช่นักเตะที่มีเทคนิคแพรวพราว สว่างวับสะดุดตาเหมือนกับคนอื่น แต่ความทุ่มเท กับ ทัศนคติที่ดี ผสมกับสกิลที่พอตัว มันเลยทำให้เขายกระดับตัวเองจนเป็นกำลังหลักของชลบุรี เอฟซี ที่ยุคเปลี่ยนผ่าน มาเป็นฉลามหนุ่มผสมฉลามเฒ่าได้ ตลอดจนการมีชื่อติดทีมชาติ

หากปีนี้ ทำผลงานได้ตามแสตนดาร์ดของตัวเอง หรือยกระดับได้มากกว่าปีก่อน เขาจะไม่ได้เป็นแค่ ‘ขาจร’ ของแคมป์ช้างศึก แต่น่าจะค่อยๆ เขยิบเป็นพวก ‘ขาประจำ’ ได้เหมือนกัน.

__________
เรียบเรียงโดย : วนิลาสกาย
ขอบคุณภาพ : เพจ Chonburi Football Club

แสดงความเห็น