รมว.ยธ. จี้ เรือนจำเข้มดูแลผู้ต้องขังให้ดีหลังยอดโควิดพุ่ง เร่งสต็อกยาฟ้าทะลายโจรให้พอ

รมว.ยุติธรรม จี้ เรือนจำเข้มดูแลผู้ต้องขังให้ดีหลังยอดโควิดพุ่ง สั่ง ปรับเวรยามให้เหมาะกับสถานการณ์ห้ามคนเข้าออก เร่งสต็อกยาฟ้าทะลายโจรให้พอ ขู่ฟันผู้บริหารระดับสูงหากไม่มีของ 

นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม กล่าวถึงสถานการณ์ผู้ติดเชื้อโควิดในเรือนจำ ว่า ยอดที่ดูสูงในเรือนจำเป็นยอดสะสม ซึ่งวันนี้ช่วงเช้าตนได้วีดีโอคอนเฟอร์เรนซ์ ประชุมกับผู้บริหาร และผบ.เรือนจำ พร้อมกับตักเตือน ผบ.เรือนจำบางแห่ง ที่ไม่สามารถประสานหน่วยงานราชการด้วยกันได้ในเรื่องการรับผู้ต้องขังเข้าเรือนจำในพื้นที่ที่มีการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 ซึ่งแนวทางการประสานงานต่าง ๆ ขอให้เป็นไปตามระเบียบราชการ ต้องมีการดูแลรักษาผู้ต้องขังที่ติดโควิดให้ดีตามมาตรฐาน และได้กำชับ ผบ.เรือนจำทุกแห่ง ต้องมีฟ้าทะลายโจรใช้อย่างเพียงพอ หากเรือนจำไหนไม่มีฟ้าทะลายโจร ผู้บริหารระดับสูงจะถูกทำโทษ แต่ไม่ใช่ทำโทษ ผบ.เรือนจำ ฐานปล่อยปะละเลยไม่บริหารจัดการในเรื่องนี้ ซึ่งสัปดาห์หน้าตนจะลงพื้นที่ตรวจเรือนจำต่าง ๆ ว่ามีสต็อกของเพียงพอหรือไม่ นอกจากนี้การทำเอกสารประสานหน่วยงานราชการต้องละเอียดถี่ถ้วนและถูกต้อง เพื่อกันไม่ให้เกิดการเข้าใจผิด แม้ที่ผ่านมาจะทำได้ดีอยู่แล้ว ดังนั้นหากผู้บัญชาการเรือนจำคนใดไม่ถนัดงานด้านเอกสารให้หาผู้เชี่ยวชาญในส่วนนี้มาช่วยทำงาน 

นายสมศักดิ์ กล่าวอีกว่า เรามีของดีอยู่กับตัวแล้วต้องใช้ให้เป็นประโยชน์ หากมีฟ้าทะลายโจรเพียงพอ เมื่อผู้ต้องขังหรือเจ้าหน้าที่ มีการสัมผัสผู้ป่วยแล้วมีอาการไอหรือรู้สึกไม่สบายก็จะกินได้ทันที หรือใครที่ผลตรวจออกมาเป็นบวกก็กินได้เช่นกัน ซึ่งจะช่วยรักษาในเบื้องต้นได้ เพราะเราเคยใช้กับผู้ต้องขังที่เรือนจำกลางเชียงใหม่ และอีกหลายแห่งใน กทม. จนพบว่าได้ผลที่ดีมาก ส่วนกรณีเรือนจำกลางขอนแก่นมีผู้ติดเชื้อที่เป็นนักโทษและเจ้าหน้าที่เรือนจำกลางรวมแล้ว 1,276 ราย ขณะนี้ได้มีการรักษาแยกโซนต่าง ๆ พร้อมกับการทำรูปแบบบับเบิลแอนด์ซีล ห้ามมีการเข้าออก ซึ่งตนได้ขอให้ผู้บริหารช่วยดูปัญหาการเข้าเวรยามอย่างละเอียด เพราะมีคนร้องเรียนมา หากต้องปรับให้เข้ากับสถานการณ์ปัจจุบันให้ทำได้ทันที แต่ห้ามให้กระทบกับการปฏิบัติหน้าที่และสุขภาพของแต่ละคน

แสดงความเห็น