“สมศักดิ์” เชื่อ มีผลประโยชน์จูงใจพาผู้ต้องหาแหกคุกพัทยา สั่งสอบช่องโหว่พกอาวุธ​เข้าศาลได้อย่างไร พร้อมดูมีเจ้าหน้าที่รู้เห็นหรือไม่

นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม กล่าวถึงกรณีที่ผู้ต้องหาแหกคุกศาลพัทยาหลบหนีคดียาเสพติด​ ว่า ขณะที่หลบหนีเป็นช่วงที่อยู่ระหว่างการควบคุมของตำรวจศาล ไม่ได้อยู่ในการควบคุมของกรมราชทัณฑ์ แต่ทุกฝ่ายต้องรับผิดชอบร่วมกัน เพราะเป็นนักโทษที่มีโทษสูง จึงต้องกวดขันให้มากกว่านี้  สิ่งที่สงสัย คือ บุคคลเหล่านั้นพกอาวุธเข้าไปภายในศาลได้อย่างไร ซึ่งเป็นเรื่องที่ต้องติดตามหา ว่าช่วงเวลาใดเป็นช่องโหว่ ที่ทำให้สามารถนำอาวุธทั้งปืนและมีดเข้าไปในศาลได้ ส่วนการดำเนินการในขณะนี้ตำรวจได้ติดตามและได้ตัวผู้ก่อเหตุมาบ้างแล้ว ซึ่งต้องรอรายละเอียดเพิ่มเติมจากทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้อีกครั้ง 

นายสมศักดิ์ ยังกล่าวด้วยว่า น่าจะมีเรื่องผลประโยชน์ เงินว่าจ้างเข้ามาเกี่ยวข้อง แต่ไม่ทราบจำนวนเงิน ส่วนจะเป็นการหละหลวมหรือไม่นั้น ขอให้ทุกฝ่ายทำงานก่อน ซึ่งเชื่อว่าอาจจะมีอะไรเป็นพิเศษ อาจจะเป็นเรื่องของเงินมากๆจนไม่สามารถหยุดได้ เมื่อถามว่า จะมีการตั้งคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงว่ามีเจ้าหน้าที่ของศาลเข้าไปเกี่ยวข้องด้วยหรือไม่ นายสมศักดิ์ กล่าวว่า ทุกอย่างจะต้องหาข้อเท็จจริงหมด และภาคทุกส่วนจะต้องบูรณาการกันเพื่อหาคำตอบและเพื่อไม่ให้เรื่องในลักษณะนี้เกิดขึ้นอีก 

นายสมศักดิ์ ยังกล่าวถึงความคืบหน้าในการดำเนินคดีแชร์แม่มณีว่าสรุปยอดตอนนี้มีผู้เสียหาย 3,000 กว่าคนรวมมูลค่ากว่า 1300 ล้านบาท และเชื่อว่าจะมีผู้เสียหายเดินทางมาแจ้งความอีกจำนวนมาก และขณะนี้ดีเอสไอได้รับเป็นคดีพิเศษแล้ว ซึ่งร่วมกันทำงานกับสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เพื่อรวมยอดความเสียหายเพื่อรวมยอดความเสียหายส่งให้ DSI  

แสดงความเห็น