‘บรินเนอร์’ จอมแกร่ง ที่ ‘เสียงยกย่อง’ เบากว่า ‘ความเก่ง’

DST.Special Report : มีการเปิดเผย สถิติ 5 ผู้เล่นที่ตัดบอลมากที่สุดใน เอเอฟซี แชมเปียนส์ลีก 2021 รอบแบ่งกลุ่ม โซนตะวันออก ปรากฏว่า มีกเตะในไทยลีก ติดอันดับ 2 อยู่ 1 รายคือ ‘บรินเนอร์ เอ็นริเก้’ ปราการหลังเลือดบราซิลของสโมสร เชียงราย ยูไนแต็ด

โดย ‘บรินเนอร์’ ตัดบอลไปได้ถึง 42 ครั้ง เป็นรองอันดับ 1 ซึ่งเป็นนักเตะชาวจีนของสโมสรปักกิ่ง เอฟซี ที่ตัดบอลไป 44 ครั้ง

มันเป็นหลักฐานทางวิทยาศาสตร์อีกครั้งว่า ‘บรินเนอร์’ เป็นกองหลังระดับคุณภาพของไทยลีก 1 เพียงแต่ที่ผ่านมาเขาได้รับการยกย่องน้อยเกินไปเท่านั้น

เวลาพูดกันถึงกองหลังชาวต่างชาติระดับแม่ทัพ นายพล คนมักจะนึกชื่อของ ‘วิคเตอร์ คาร์โดโซ่’ และ ‘อันเดรส ตูเญช’ ของบีจี ปทุม ยูไนเต็ด เป็นลำดับแรกๆ

หรือหากถามถึงกองหลังเก่งๆ ในไทยลีก บางครั้งชื่อของแนวรับสัญชาติเจ้าถิ่น ยังโผล่ในหัวก่อนชื่อของ ‘บรินเนอร์’ ด้วยซ้ำ ทั้งที่เขาคือ ภูผาคนสำคัญของที่ทำให้ เชียงราย ยูไนเต็ด ยืนอยู่ในแถวหน้าของวงการลูกหนังประเทศไทย

ส่วนหนึ่งที่เป็นอย่างนั้น อาจเพราะผู้คนอาจจะให้ความสนใจกับซูเปอร์สตาร์คนอื่นในทีม จนบดบังความโดดเด่นในเกมรับของเขาไป 

ขณะเดียวกัน ‘บรินเนอร์’ ไม่ค่อยอยู่ในความสนใจของสื่อมากนัก ประกอบกับไม่มีข่าวเสียๆ หายๆ ฉาวโฉ่ตามสไตล์นักเตะบราซิลที่มักตกเป็นข่าวเรื่องสำมะเลเทเมา หรือผู้หญิง 

หลายคนบอกเขาเป็นพวกปิดทองหลังพระ แต่ในความเป็นจริง แฟนบอลเชียงราย ยูไนเต็ด รับรู้มาตลอดว่า ‘บรินเนอร์’ อยู่เบื้องหน้ามาโดยตลอด เพียงแต่คำชมไปถึงเขาปละปลาย 

แต่มันไม่ได้มีความสำคัญอะไรกับดาวเตะรายนี้ ในเมื่อเขารู้ว่า หน้าที่ตัวเองคือ ก้มหน้าก้มตาทำให้กองหน้าฝ่ายตรงข้ามทำภารกิจล้มเหลว

ย้อนกลับไปเมื่อปลายปี 2561 เชียงราย ยูไนเต็ด ตัดสินใจเซ็นสัญญากับ ‘บรินเนอร์’ จากอุบล ยูเอ็มที ในวัย 31 ปี มาทดแทนการลาจากของ ‘วิคเตอร์ คาร์โดโซ่’ ที่หมดสัญญากับทีม

หลายคนรุมจวกสโมสรที่ไปคว้า ‘บรินเนอร์’ เข้ามา เพราะคิดว่า นักเตะที่อายุอานามขนาดนี้ ประกอบกับผลงานที่ไม่ได้เจิดจรัสอะไรมากมายกับอุบล ไม่มีทางที่จะยกระดับความแข็งแกร่งในแนวรับได้ เมื่อเทียบกับมาตรฐานที่ ‘วิคเตอร์ คาร์โดโซ่’ได้วางเอาไว้

บางคนปรามาสเขาด้วยซ้ำว่า น่าจะดีพอแค่ไทยลีก 2 เท่านั้น 

แต่จากวันนั้นถึงวันนี้ ไม่มีวันไหนที่มีข่าวว่า เชียงราย ยูไนเต็ด จะปล่อยกองหลังร่างใหญ่ออกจากทีมเลย

เพราะ ‘บรินเนอร์’ ได้กลายเป็นหัวใจสำคัญในแนวรับที่เชียงราย ยูไนเต็ด ที่หากขาดไปตอนนี้มีปัญหาแน่ เพราะเขาคือ คนที่คุมไลน์ คุมจังหวะเกมรับทั้งหมด

และปฏิเสธไม่ได้ว่า การเข้ามาของ ‘บรินเนอร์’ เมื่อปี 2561 มีส่วนช่วยยกระดับกองหลังของเชียงราย ยูไนเต็ด ให้แข็งแกร่งขึ้นอย่างเห็นได้ชัด

ตอนเขาเข้ามาที่นี่ใหม่ๆ กองหลังไทยของเชียงรายในตอนนั้น ไม่ได้มีดีกรีหนาเป็นเล่มเหมือนกับตอนนี้ ‘ธนะศักดิ์ ศรีใส’ เป็นเพียงกองหลังที่เคยถูกเรียกติดทีมชาติ 

‘ชินภัทร ลีเอาะ’ เป็นเด็กหนุ่มที่เพิ่งถูกเรียกติดทีมชาติเพื่อไปชิมลาง ขณะที่ ‘ศราวุธ อินทร์แป้น’ โนโปร์ไฟล์เรื่องติดทัพช้างศึก

แต่การลงเล่นร่วมกับ ‘บรินเนอร์’ และยังได้เห็นการเป็นแบบอย่างที่ดีนอกสนามของกองหลังเลือดกาแฟรายนี้ มีส่วนช่วยให้พวกเขา โดยเฉพาะ ‘ชินภัทร-ศราวุธ’ เปล่งลำแสงออกมา จนมีชื่อติดทีมชาติบ่อยขึ้น

ขณะที่คุณภาพของเขาเอง ไม่ว่าจะในเวทีไทยลีก หรือโทรฟี่เอเชีย ไม่ได้ตกหล่นเลย แม้อายุอานามปาเข้าไปจะ 35 ปีอยู่แล้ว

และหากจะบอกว่าเขาเป็นกองหลังต่างชาติที่ประสบความสำเร็จมากในไทยคงไม่ผิดนัก รางวัลแชมป์ไทยลีก เอฟเอคัพ เหล่านี้มีเรคคอร์ดส่วนตัวหมดแล้ว.

____________
เรียบเรียงโดย : วนิลาสกาย
ขอบคุณภาพ : Chiang Rai United FC

แสดงความเห็น