‘สมศักดิ์’ สั่งแก้ไขกฎระเบียบราชทัณฑ์ นำภาพผู้ต้องขัง แกนนำราษฎร เผยแพร่สู่สังคม เพื่อยืนยันไม่ได้ถูกทำร้ายร่างกาย ระบุ ไม่เข้าตรวจโควิดซ้ำ เพราะกลุ่มแกนนำไม่ให้ความร่วมมือ เตรียมคอนเฟอร์เรนซ์ กำชับ ผบ.เรือนจำทั่วประเทศ ระมัดระวัง ป้องกันไม่ให้เกิดเหตุซ้ำ
นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม บอกถึงกรณีที่คณะกรรมาธิการป.ป.ช. เชิญ ผู้บริหารกระทรวงยุติธรรม และเจ้าหน้าที่เรือนจำไปชี้แจง กรณีการปฏิบัติหน้าที่ของราชทัณฑ์ โดยยืนยันว่า พร้อมให้ความร่วมมือเต็มที่ในการเข้าชี้แจง แต่เนื่องจากเป็นคดีอาญา จึงได้ให้ฝ่ายกฎหมายไปตรวจสอบดูว่า กมธ.ป.ป.ช.มีอำนาจตามรัฐธรรมนูญเรียกสอบสวนได้หรือไม่
ส่วนกรณีผู้ต้องขังที่โพสต์ข้อความในลักษณะว่าถูกทำร้ายนั้น ได้สั่งการให้ปลัดกระทรวงยุติธรรม และอธิบดีกรมราชทัณฑ์ ไปศึกษากฎระเบียบของกรมราชทัณฑ์ เพื่อนำไปสู่การแก้ไขกฎระเบียบ และนำภาพถ่ายของผู้ต้องขังคนดังกล่าว ที่มีสุขภาพร่างกายแข็งแรงสมบูรณ์ ออกมาให้สังคมได้รับทราบ เพื่อให้ปัญหาในเรื่องนี้หมดไป เพราะราชทัณฑ์มีการบันทึกภาพไว้ทั้งหมด และยืนยันว่า ทุกคนที่อยู่ในนั้นเรือนจำฯ ปลอดภัย แข็งแรง อาจมีน้ำหนักลดลงไปบ้าง และกรณีที่มีการโพสต์จดหมาย หรือข้อความ ที่ด้านนอกเรือนจำนั้น ก็ยืนยันว่า เป็นข้อมูลที่เกิดขึ้นที่บอกเล่าผ่านทนาย แต่ไม่ได้ถูกเขียนภายในเรือนจำ ซึ่งได้ให้เจ้าหน้าที่ไปทำการตรวจสอบ หากพบอะไรที่ทำให้ส่วนราชการเสียหาย ก็จะต้องนำไปสู่การร้องทุกข์กล่าวโทษ
“ประเด็นที่ต้องเข้าไปตรวจโควิดในช่วงเวลากลางคืน เพราะเดิมการตรวจโควิด ราชทัณฑ์ไม่ได้ตรวจบ่อย และไม่ได้ตรวจพร่ำเพรื่อ เพราะมีอุปกรณ์ในการตรวจเพียง 16,000 ชุด แต่ถ้ามีเหตุก็จำเป็นต้องเข้าไป โดยการตรวจเมื่อวันที่ 15 มี.ค.เป็นเพราะมีกลุ่มผู้ถูกคุมขังกลุ่มแกนนำราษฎรที่ความเสี่ยงย้ายมาจากฝั่งธนบุรี 3 คน และมีกลุ่มที่ออกเดินทางไปศาลกลับเข้ามาอีก และทั้งหมดไม่ยอมแยกออกจากกัน ซึ่งผู้ถูกคุมขังยืนยันว่าจะอยู่รวมกัน จึงเป็นปัญหา ทำให้ราชทัณฑ์ต้องเตรียมเครื่องมือเข้าไปตรวจโควิดจึงใช้เวลานาน และบุคคลที่เข้าไปเป็นข้าราชการของกรมราชทัณฑ์ทั้งหมด และแม้จะเป็นเรื่องของสิทธิมนุษยชน แต่ตามระเบียบของเรือนจำ ก็จำเป็นต้องปฏิบัติเช่นกัน”
ส่วนจะเข้าไปตรวจโควิดซ้ำ ในช่วงเวลากลางวันหรือไม่นั้น นายสมศักดิ์ ระบุว่า การตรวจโควิดไม่ได้แยกกลางวันกลางคืน แต่ต้องตรวจ ณ ขณะนั้น ถ้าเอาไปอยู่ปนกัน แล้วมาแยกตอนเช้าก็ไม่มีประโยชน์อะไร แต่เมื่อไม่ให้ตรวจจึงต้องแยกห้องคุมขัง เมื่อไม่ยอมให้ตรวจก็จะคงไม่ได้ตรวจ
นายสมศักดิ์ ยังบอกถึงการปรับโยกย้าย ผู้บัญชาการเรือนจำด้วยว่า ในวันพรุ่งนี้จะมีการประชุมวิดีโอคอนเฟอเรนซ์ทั่วประเทศ โดยจะต้องกำชับการทำงานให้ระมัดระวังเอาจริงเอาจัง ทำงานตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อไม่ปล่อยให้เกิดเหตุการณ์ลักษณะนี้เกิดขึ้นอีก