รมว.ยุติธรรม กำชับต้องใช้งบประมาณให้คุ้มค่าที่สุด เตรียมทำงบปี 65 ตามนโยบายนายกฯให้สอดคล้องกับสถานการณ์โควิด-19 โครงการใดไม่เร่งด่วนให้ชะลอก่อน ชี้ กระทรวงยุคใหม่ต้องทำงานเชิงรุก หากพบปัญหาต้องลงพื้นที่ช่วยเหลือทันทีอย่านั่งรอให้ประชาชนมาร้องขอ
นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม เปิดเผยว่า ตนได้กำชับกับที่ประชุมผู้บริหารกระทรวงยุติธรรมถึงการใช้งบประมาณต่างๆให้เกิดความคุ้มค่ามากที่สุด รวมถึงการจัดทำงบประมาณรายจ่ายประจำปี 2565 ตามนโยบายของนายกรัฐมนตรี ที่ได้มอบหลักการสำคัญ คือ ต้องมีความต่อเนื่องจากงบประมาณปี 2564 โดยที่จะไม่กระทบต่อวินัยและความยั่งยืนทางการคลังเพื่อให้ขับเคลื่อนประเทศให้ก้าวพ้นจากวิกฤตที่เกิดขึ้นจากการระบาดของไวรัสโควิด-19 รวมทั้งการฟื้นฟูสภาพเศรษฐกิจ และการจัดทำงบประมาณต่างๆต้องสอดคล้องกับสถานการณ์ปัจจุบัน ต้องมีการนำเทคโนโลยีต่างๆมาปรับใช้ในกระบวนการทำงานให้มากขึ้น เช่น การประชุม สัมมนา และประชาสัมพันธ์ หากโครงการใดไม่ใช่โครงการเร่งด่วนก็ขอให้ชะลอโครงการไปก่อน
นายสมศักดิ์ กล่าวอีกว่า ในส่วนที่ทุกคน ทั้งผู้บริหาร และข้าราชการต้องให้ความสำคัญ คือ อย่าไปยุ่งกับงบประมาณของกองทุนยุติธรรม และเงินช่วยเหลือเยียวยาผู้เสียหายและเหยื่ออาชญากรรม ตามพ.ร.บ.ค่าตอบแทนผู้เสียหาย และค่าทดแทนและค่าใช้จ่ายแก่จำเลยในคดีอาญา ตรงนี้อย่าไปตัดทอน เพราะเป็นเงินช่วยเยียวยาประชาชน ที่ได้รับความเดือดร้อน ทั้งคดีความและความเสียหายที่ได้รับ ซึ่งในเรื่องของการเยียวยาผู้เสียหายตามสิทธิที่เขาควรจะได้ ดังนั้นต้องพยายามใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุด และทุกหน่วยงานต้องพยายามลงพื้นที่ทำให้ประชาชนเข้าถึง
“กระทรวงยุติธรรมยุคใหม่ ต้องไม่ทำให้ประชาชนรู้สึกว่าเราคือกระทรวงทางกฎหมาย แต่ผมต้องการให้ประชาชนรู้สึกว่าเราคือกระทรวงด้านสังคม และอยากให้หน่วยงานต่างๆพยายามให้ความรู้ทางด้านกฎหมาย ช่วยเหลือประชาชน และมีการบริการเชิงรุก ทำให้ประชาชนเข้าถึงสิทธิอย่างเท่าเทียม นี่คือ การทำงานของกระทรวงยุติธรรมยุคใหม่ นอกจากนี้ฝ่ายบริการอย่าอยู่กับที่ อย่านั่งรอ แต่ต้องพยายามลงพื้นที่ หากเห็นข่าวสารหรือรับรู้เรื่องราวความเดือดร้อน ต้องลงไปบริการทันที อย่านั่งรอให้ประชาชนเข้ามาขอความช่วยเหลือด้วยตนเอง” นายสมศักดิ์ กล่าว