รมว.ยธ. เปิดหลักสูตรสืบสวนขยายผลยึดทรัพย์ยาเสพติด หวังใช้เทคโนโลยีทลายเครือข่าย

รมว.ยุติธรรมเปิดการอบรมหลักสูตร “การเพิ่มประสิทธิภาพการสืบสวนขยายผลและยึดทรัพย์สินคดียาเสพติด” หวังใช้เทคโนโลยีใหม่สืบเส้นทางการเงิน ทลายเครือข่าย เชื่อ สาวถึงผู้บงการทำปัญหาลดลงในอีกไม่นาน 

สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ป.ป.ส.)  ได้จัดอบรมหลักสูตร “การเพิ่มประสิทธิภาพการสืบสวนขยายผลและยึดทรัพย์สินคดียาเสพติด” โดยมี นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม เป็นประธานในพิธี พร้อมด้วย พล.ต.อ.มนู เมฆหมอก รอง ผบ.ตร. พ.ต.ท.กรวัชร์ ปานประภากร อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) นายวิชัย ไชยมงคล เลขาธิการ ป.ป.ส.   นายอุทัย สินมา อธิบดีอัยการ สำนักงานคดียาเสพติด และผู้เข้าร่วมอบรมฯ ทั้งนี้ หลักสูตรครอบคลุมตั้งแต่การสืบสวนคดียาเสพติด โดยใช้เทคโนโลยีเครื่องมือพิเศษ การขยายผลทางการเงิน ไปจนถึงการพิจารณาหลักฐาน ในชั้นพนักงานอัยการ ตามนโยบายการแก้ไขปัญหายาเสพติดแนวใหม่ ที่มุ่งเน้นการดำเนินคดีกับนายทุนหรือผู้เกี่ยวข้องกับเครือข่ายการค้ายาเสพติด 

นายสมศักดิ์ กล่าวเปิดงานว่า ยาเสพติดเป็นปัญหาที่รัฐบาลแก้ไขมาอย่างยาวนาน และโลกปัจจุบันเข้าสู่ยุคดิจิทัล ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงการดำเนินชีวิตและมีนวัตกรรมใหม่ๆ มากขึ้น ทำให้อาชญากรรมมีรูปแบบทางดิจิทัลที่เปลี่ยนแปลงตามยุคสมัยมากขึ้น รวมทั้งการกระทำผิดเกี่ยวกับยาเสพติดที่มีการซื้อขายผ่านทางช่องทางออนไลน์ ซึ่งยาเสพติดเป็นปัญหาระดับชาติที่รัฐบาลให้ความสำคัญ โดยเฉพาะการยึดทรัพย์ทลายเครือข่ายให้หมดไป ซึ่งวันนี้รูปแบบการป้องกันและปราบปรามเราได้เปลี่ยนแปลงไปอย่างชัดเจน จากเดิมเราตั้งด่านจับกุม เวลามีการเคลื่อนย้ายยาเสพติด เราก็จับดำเนินคดี รูปแบบของคดีต่างๆ ในอดีต เราจับคนขนได้แต่เราไม่ได้ขยายผลถึงตัว ผู้บงการ ในปีหนึ่งๆ เรายึดของกลางและเงินสดได้ประมาณไม่เกิน 600 ล้านบาท ถ้าเราเป็นบริษัทเอกชนต้องบอกว่าเราล้มละลายไปแล้ว หากดูจากงบบูรณาการปราบปรามยาเสพติดประมาณ 6,000 ล้านบาท แต่เรายึดทรัพย์ได้แค่ 600 ล้านบาท เราเคยจับยาบ้าได้มากสุดประมาณ 600 ล้านเม็ด ยาไอซ์ประมาณ 17,000 กิโลกรัม แต่ยาเสพติดที่ออกมาจากสามเหลี่ยมทองคำมีมากกว่านั้นหลายเท่า เราจึงต้องเน้นการตัดวงจรและยึดทรัพย์เครือข่ายยาเสพติด 

“การตัดวงจร ยึดทรัพย์เครือข่ายยาเสพติด เป็นกระบวนการที่ยุ่งยากพอสมควร เพราะเกี่ยวกับกฎหมายหลายฉบับ ทั้งกฎหมายของ ป.ป.ส. ปปง. และภาษี ผมในฐานะ รมว.ยุติธรรม ได้เสนอแก้กฎหมาย ซึ่งขณะนี้อยู่ในชั้นกรรมาธิการ หากเราแก้ได้สำเร็จ การทำสำนวนหรือคดีต่างๆ จะทำให้เป็นการบูรณาการแบบวันสต็อปเซอร์วิส มากขึ้น การตัดวงจรยึดทรัพย์เครือข่ายยาเสพติดตรงนี้ ผมมีความตั้งใจอย่างยิ่ง ผมขอให้พวกเราตั้งใจและช่วยกัน ผมมั่นใจว่าการต่อสู้กับการตัดวงจรยาเสพติดนั้นจะถูกจัดการโดยพวกเรา ซึ่งการอบรมแบบนี้คงต้องขยายไปให้ทั่วทุกภูมิภาค และผมเชื่อว่าเจ้าหน้าที่ของรัฐจะไม่มีใครพลาดพลั้ง เพราะที่ผ่านมาการปราบปรามยาเสพติดจะเกิดการต่อสู้ แต่รูปแบบใหม่เราจะเน้นหลักไปที่การสืบสวนเพื่อยึดทรัพย์แทน ผมมั่นใจว่าการตัดวงจร ยึดทรัพย์เครือข่ายจะช่วยทำให้ปัญหายาเสพติดลดลงอย่างแน่นอน” นายสมศักดิ์ กล่าว

แสดงความเห็น