นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม และส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังประชารัฐ กล่าวถึงภาพรวมการแถลงนโยบายของรัฐบาลว่า ตนเห็นความเปลี่ยนแปลงจากการนำเสนอการแถลงนโยบายจากรัฐบาลก่อนๆ ตนเคยเป็นรัฐมนตรีมา13 ครั้ง ปกตินายกฯจะอ่านเอกสารที่เตรียมมา แล้วมีการซักถามกัน ซึ่งที่ผ่านๆมานายกฯจะไม่ค่อยอยู่ในห้องประชุม อาจจะมีการตอบคำถามเล็กน้อยแล้วออกไป จากนั้นจะกลับมาขอบคุณสมาชิกรัฐสภา แต่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ นั้นอยู่ในห้องรับฟังการอภิปรายตลอด อาจมีหายไปรับแขกของบ้านเมืองบ้างแต่ไม่นานก็กลับมา แล้วท่านตอบฝ่ายซักถาม จนรัฐมนตรีบางกระทรวงไม่ต้องตอบเลย เพราะนายกฯช่วยตอบได้หมด แสดงให้เห็นว่านโยบายที่รัฐบาลเขียนมา คนที่เข้าใจมากที่สุดคือนายกฯ ดังนั้นการติดตามผลงานของรัฐบาลน่าจะออกมาได้ตามแผนที่เขียนเอาไว้ และเมื่อผลงานรัฐบาลออกมาดีจะเป็นเกราะที่คุ้มครองรัฐบาลให้อยู่ได้นานซึ่งอาจจะครบวาระ แต่ต้องดูต่อไปว่าจะเป็นไปตามที่ตนคิดไว้หรือไม่
“หากประชาชนฟังการแถลงนโยบาย จะเห็นนายกฯอยู่ในห้องประชุมตลอดเวลา ท่านเป็นคนตรงไปตรงมา อารมณ์บางครั้งไม่เครียด อาจดูเหมือนหนักแต่ไม่หนัก หากพูดหรือแสดงอะไรผิดไปก็ขอโทษทันที ไม่ต้องเสียเวลาคิดอะไรมากมาย อย่ามองเพียงการแสดงออก ขอยืนยันตรงนี้ว่านายกฯและ รัฐมนตรีทุกคน มีความตั้งใจทำงาน เพื่อแก้ปัญหาให้ประเทศชาติและประชาชน” นายสมศักดิ์ กล่าว
เมื่อถามว่า จากการแถลงนโยบาย ฝ่ายค้านได้แสดงความเป็นห่วงเรื่องใดบ้างที่เกี่ยวกับกระทรวงยุติธรรม นายสมศักดิ์ กล่าวว่า การปราบปรามยาเสพติด ถือเป็นหนึ่งที่ฝ่ายค้านแสดงความเป็นห่วงและได้สะท้อนในเวทีรัฐสภา แต่ในเรื่องนี้อยู่ในนโยบายหลักของรัฐบาล และเป็นเรื่องที่ตนให้ความสำคัญมาก และกระทรวงยุติธรรมในยุคของตนจะทำให้ดีที่สุด
โดยจากการที่ได้ฟัง ส.ส.ฝ่ายค้าน นายสุทิน คลังแสง อภิปรายในเรื่องยาเสพติดว่าในพื้นที่อีสานมีปริมาณยาเสพติดจำนวนมาก มีคนติดยาเยอะ ซึ่งรายงานจาก ป.ป.ส.ที่ตนให้ช่วยตรวจเช็คข้อมูล กลับออกมาตรงกันข้าม เพราะได้มีการทำโมเดลป้องกันและปราบปรามยาเสพติดในพื้นที่อีสานมาแล้วถึง 2 ช่วง คือ 5 เดือนแรก ที่เข้าไปทำโมเดลนี้ ยังมีตัวเลขที่สูง แต่ปรากฏว่า เมื่อทำช่วงที่ 2 เวลา 9 เดือน พบว่าปัญหาลดลงเกือบเท่าตัว แสดงว่าโมเดลที่ใช้ทดลองในอีสานน่าจะได้ผล จึงคิดว่าน่าจะค้นพบวิธีการ ที่ ป.ป.ส.จะนำมาประยุกต์ใช้ได้ทั่วประเทศ หากนำข้อมูลมาทำจริงจัง น่าจะมีความหวังในการปราบยาเสพติดได้ และ ป.ป.ส.วันนี้มีการพัฒนาไปมากแล้ว มีการจับการขนส่งยาเสพติด ทั้งการสั่งทางออนไลน์ การขนส่งโดยไปรษณีย์ได้เป็นจำนวนมาก และหากเราร่วมมือกันเชื่อว่าจะปราบยาเสพติดได้ดีขึ้นอีก ทั้งนี้ ประเทศไทยมี 80,000 หมู่บ้าน จุดสุ่มเสี่ยงและต้องระวังมี 24,000 หมู่บ้าน แต่มีหมู่บ้านที่มีความเสี่ยงอยู่ 2,000 หมู่บ้านซึ่งเราจะเดินหน้าปราบปรามต่อไป
นายสมศักดิ์ ยังกล่าวอีกว่า ตนได้แถลงนโยบายเสร็จแล้ว สัปดาห์หน้า จะทยอยลงพื้นที่ตรวจกรมต่างๆในสังกัดกระทรวงยุติธรรม เพื่อมอบนโยบายและงานต่างๆเพื่อที่จะได้ลงมือปฏิบัติให้สำเร็จโดยเร็ว