รมว.ยธ.มอบนโยบายดีเอสไอ ยัน กรณีศรีพันวาหากมีคนร้อง ต้องทำตามกระบวนการ

รมว.ยุติธรรม มอบนโยบายดีเอสไอ ชมทำงานดีปชช.เข้าถึง แนะนำเทคโนโลยีใหม่ๆมาช่วยงาน หาเครื่องมือสอบเส้นทางการเงินเครือข่ายยาเสพติด หวังปี64ยึดได้ตามเป้า6,000ล้านบาท ยัน ศรีพันวาถ้ามีคนร้องต้องทำตามกระบวนการ 

กรมสอบสวนคดีพิเศษ(ดีเอสไอ) จัดงานการมอบนโยบายและทิศทางขับเคลื่อนยุทธศาสตร์การสืบสวนสอบสวนคดีพิเศษ ประจำปีงบประมาณ 2564 โดยมีนายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม เป็นประธานเปิดงานและมอบนโยบาย พร้อมด้วย พ.ต.ท.กรวัชร์ ปานประภากร อธิบดีดีเอสไอ ว่าที่ร.ต.ธนกฤต จิตรอารีย์รัตน์ เลขานุการ รมว.ยุติธรรม นายวิวัฒน์ นิติกาญจนา ที่ปรึกษา รมว.ยุติธรรม และนายสามารถ เจนชัยจิตรวานิช ผู้ช่วย รมว.ยุติธรรม ร่วมงาน โดยก่อนเข้าสู่งาน นายสมศักดิ์ ได้เยี่ยมชมบูธนิทรรศการแสดงผลงานของดีเอสไอในรอบปีที่ผ่านมาที่นำมาแสดงบริเวณหน้างาน

นายสมศักดิ์ กล่าวเปิดงานว่า จากผลสำรวจความเชื่อมั่นต่อการทำงานของ ดีเอสไอมีมากถึง 75% ตนขอชื่นชมการปฏิบัติงานของทุกท่านที่พยายามผลักดันออกมาเป็นผลงาน และยังมีรางวัลที่ดีเอสไอได้ คือ การเข้าถึงของประชาชนเป็นที่เลื่อมใสของประชาชน ตามนโยบายของนายกรัฐมนตรี ที่อยากให้ประชาชนเข้าถึงและเข้าใจได้ง่าย หรือเรื่องกฎหมายที่อาจจะเขียนแค่ 2-3 บรรทัดแล้วประชาชนเข้าใจทันที หากเราทำให้ให้เขาเข้าใจได้ แสดงว่าเราเข้าถึงนโยบายการสื่อสาร รวมถึงเรื่องการประชาสัมพันธ์ที่ทำให้ประชาชนเข้าถึงข่าวสารของกระทรวง รวมถึงเรื่องดิจิทัลที่เป็นเครื่องมือสืบค้นที่ทันสมัย การไปตรวจค้นบุกจับโดยใช้อาวุธตนไม่ค่อยเห็นด้วยเพราะเป็นอันตรายต่อชีวิตของผู้คน แต่เราสามารถใช้เทคโนโลยีต่างๆมาช่วยได้ 

นายสมศักดิ์ กล่าวอีกว่า ดีเอสไอหารือร่วมกับกรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ เกี่ยวกับคดีบังคับสูญหาย สังคมยุคนี้เขาให้ความสนใจ ในปี 2564 นี้ ตนจะติดตามเรื่องเหล่านี้ เชื่อว่าท่านทั้งหลายจะติดตามและสอบถามข้อสงสัยของสังคมได้ และเป็นการนำเสนอผลงานของกรม กระทรวงได้เสนอร่างปราบปรามการทรมานและบุคคลสูญหาย เข้าสู่สภาไปแล้ว ในระหว่างที่เสนอกฎหมายนี้ ขอให้ดีเอสไอ สืบสวนสอบสวนคดีผู้สูญหายพร้อมกันไปด้วย เพื่อเป็นที่พึ่งให้ประชาชน นอกจากนี้ปัญหาหนี้นอกระบบที่ส่งผลกระทบวงกว้างกับประเทศ ที่นับวันยิ่งทวีความรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ เช่น รูปแบบการใช้แอปพลิเคชันในการกู้ยืมเงินและทวงถามหนี้ ขอให้ดีเอสไอช่วยปราบปรามและจับกุมกลุ่มนายทุนและให้ความรู้แก่ประชาชนควบคู่กันไปด้วย เพื่อไม่ให้ประชาชนตกเป็นเหยื่อของกลุ่มดังกล่าว เรื่องนี้อาจจะเป็นปัญหาปลายเหตุแต่ที่ผ่านมาถือว่าดีเอสไอทำได้ดี ซึ่งตนอยากแก้ที่ต้นทางคือการทำให้คนมีกินมีใช้

“ผมขอเน้นเรื่องการใช้เทคโนโลยีสอบสวนเครือข่ายทางการเงินของผู้ค้ายาเสพติดและคดีฮั้วประมูล เท่าที่เรามีเครื่องมือในขณะนี้ถือว่าไม่ง่าย ดีเอสไอต้องรวบรวมว่าเราขาดเครื่องมืออะไรบ้าง ให้ไปรวบรวมมาเพื่อจัดงบประมาณ แม้ว่าที่ผ่านมาเครื่องมือยังไม่พร้อมเรายังสามารถยึดทรัพย์ได้ถึง 2 พันกว่าล้านบาท และอาจจะต้องมีการปรับโครงสร้างบ้างเพื่อในปี 2564 เราจะได้ยึดทรัพย์ตามเป้าหมายคือ 6,000 ล้านบาท ทั้งนี้ ผมมีเรื่องที่ทำให้นอนไม่ค่อยหลับ ผมเป็นรัฐมนตรีมา 14 ครั้งมีเพื่อนมากมาย และได้แนะนำคนดีมีความสามารถในดีเอสไอเป็นร้อยคนให้ผม  ผมเลือกไม่ถูก จึงอยากให้พวกเราทุกคน เอานโยบายที่ให้วันนี้โชว์ผลงานออกมา ใช้ผลงานซึ่งจะนำมาด้วยตำแหน่งที่สูงขึ้น  ส่วนกรณีโรงแรมศรีพันวา จ.ภูเก็ต หากมีคนมาร้องเรียนเราก็ต้องดำเนินการตามกระบวนการไป” นายสมศักดิ์ กล่าว

แสดงความเห็น