รมว.ยธ.เดินหน้านิคมอุตฯสร้างทักษะอาชีพ -ภาษาอังกฤษ หวังผู้ต้องขังทำงาน ตปท.ได้


รมว.ยุติธรรม เดินหน้านิคมอุตสาหกรรมราชทัณฑ์ สร้างแรงงานผู้ต้องขัง พร้อมสนับสนุนกระทรวงแรงงาน ส่งคนไทยทำงานต่างแดน

นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม กล่าวว่า ตนได้ทราบข่าวจากกระทรวงแรงงาน โดย ม.ร.ว.จัตุมงคล โสณกุล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน ได้ประชุมรับฟัง 129 บริษัทจัดหางาน เพื่อส่งคนไทยไปทำงานต่างประเทศ และการที่บริษัทต่างประเทศต้องการคนงานไทย เพราะประเทศไทยมีแรงงานที่มีคุณภาพดี เชื่อฟังนายจ้าง ประกอบกับการที่รัฐบาลไทย สามารถจัดการกับการแพร่ระบาดเชื้อโควิด-19 ได้เป็นอย่างดี มีคุณภาพลำดับต้นๆของโลก จึงเป็นเหตุหนึ่งที่ทำให้ สินค้าไทยเป็นที่นิยมโดยเฉพาะแรงงาน ตนเห็นตัวเลขการส่งแรงงานไทยไปยังประเทศต่างๆปีละประมาณ 120,000 คน ที่มากที่สุดคือไต้หวันประมาณ 60,000 คน ซึ่งเงินจากตรงนี้เข้าประเทศปีละประมาณ 1.4 แสนล้านบาท ซึ่งตนเห็นด้วยเป็นอย่างยิ่งกับการพัฒนาฝีมือของแรงงานไทยเพื่อไปทำงานยังต่างประเทศ 

นายสมศักดิ์ ยังระบุอีกว่า ล่าสุดพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้มีความเป็นห่วงและกำชับให้ตนดูแรงงานที่อยู่ในราชทัณฑ์ ให้มีทักษะทั้งเรื่องงานฝีมือ รวมถึงภาษาอังกฤษ ให้กับผู้ต้องขังเพิ่มเติม และแนวทางนี้จะสอดคล้องกับที่ตนเดินหน้าทำนิคมอุตสาหกรรมราชทัณฑ์ เราจะสามารถผลิตแรงงานที่มีคุณภาพ และให้ความรู้ทางภาษาอังกฤษในระยะเวลาสั้นๆประมาณ 3-6 เดือน เมื่อผู้ต้องขังถูกปล่อยตัวแล้ว เขาจะมีความสามารถพอที่จะไปทำงานยังต่างประเทศได้ โดยประเทศที่ต้องการแรงงานจากเรา คือ ไต้หวัน เกาหลีใต้ กลุ่มประเทศตะวันออกกลาง และยุโรป 

นายสมศักดิ์ กล่าวต่อว่า กระทรวงยุติธรรมยินดีที่เห็น รมว.แรงงาน นำเรื่องนี้ออกมาเผยแพร่ หากมีโควต้าก็สามารถแบ่งให้ราชทัณฑ์ สร้างแรงงานคุณภาพเหล่านี้ออกไป เราก็พร้อมบูรณาการร่วมกันระหว่างกระทรวงยุติธรรมกับกระทรวงแรงงาน ตนทราบว่าการส่งแรงงานไปต้องมีค่าธรรมเนียม มีการสอบภาษา ถ้าไม่ได้ภาษาอังกฤษ ก็ต้องได้ภาษาท้องถิ่นของประเทศนั้นๆ 

“จุดอ่อนของแรงงานไทยในอดีตมีอยู่ว่า มักจะไม่ได้เป็นหัวหน้างาน ทั้งๆที่มีฝีมือที่ดี แต่ติดที่ไม่ได้เรื่องภาษา จึงต้องยอมรับสภาพในการไปเป็นลูกน้องเขา และต้องทำงานในราคาค่าแรงที่ต่ำ แต่หากเรามีการพัฒนาด้านภาษาที่ดี ค่าแรงจะได้มากกว่านี้ อาจจะมากขึ้นกว่าเดิมถึง 2 เท่า ซึ่งจะทำให้มีเงินเข้าประเทศมากขึ้นเป็นสองเท่าด้วยเช่นกัน ดังนั้นในจุดนี้เราต้องมีการเน้นในการพัฒนาให้ดีกว่าเดิม” นายสมศักดิ์ กล่าว

แสดงความเห็น